สถานการณ์โควิด-19 ลำปาง พบมีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย

สถานการณ์โควิด-19 ลำปาง พบมีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย

สถานการณ์โควิด-19 ลำปาง พบมีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย เผยผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 23 เมษายน 2566 จำนวน 2,225 ราย

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดลำปาง สัปดาห์ที่ 16 ของปี 2566 (วันที่ 17-23 เมษายน 2566) พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จำนวน 164 ราย พบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 23 เมษายน 2566 จำนวน 2,225 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 306.30 ต่อแสนประชากร และสัปดาห์นี้ไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผู้เสียชีวิตสะสม 1 ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.04    

มาตรการป้องกันการระบาดโควิด-19 หลังสงกรานต์ 2566 สำหรับประชาชน

1.เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปีโดยเฉพาะ สำหรับกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถรับวัคซีนโควิ-19 ไปพร้อมกันได้

2.สวมหน้ากากในที่สาธารณะ โดยเฉพาะการร่วมกิจกรรม หรือไปสถานที่ที่กลุ่ม 607 จำนวนมาก เช่นโรงพยาบาล สถานดูแลผู้สูงวัน

3.ให้สังเกตอาการป่วย ช่วง 7 วันหลังร่วมกิจกรรม และตรวจ ATK เมื่อมีอาการทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ หากตรวจพบผลเป็นบวก สวมหน้ากากอนามัยเมื่อใกล้ชิดคนอื่น เลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 เลี่ยงไปในสถานที่มีคนจำนวนมาก หากมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ให้รีบพบแพทย์ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

สำหรับ กลุ่ม 608 หรือผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสหรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป กรณีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไปพบแพทย์ หากมีสมาชิกครอบครัว เพื่อน ตรวจ ATK พบผลเป็นบวก ในช่วง 1-2 สัปดาห์ ให้แจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบ เพื่อติดตามควบคุมการระบาดต่อไป

วัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขใช้ในปัจจุบัน

1.วัคซีนของบริษัท Pfizer เป็นวัคซีนชนิดสารพันธุกรรม เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ใช้เทคโนโลยีใหม่สังเคราะห์สารพันธุกรรมเอ็มอาร์เอ็นเอ ที่เจาะจงกับเชื้อไวรัส

2.วัคซีนของบริษัท Moderna ชนิด Bivalent เป็นวัคซีน 2 สายพันธุ์ประกอบด้วยสารพันธุกรรม mRNA ของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม และ mRNA ของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอย่างละครึ่ง 

3.วัคซีนของ บริษัท AstraZeneca เป็นวัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ ใช้ไวรัสที่สามารถตัดแต่งพันธุกรรม เช่น ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) นำมาดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่สามารถแบ่งตัวได้ และใส่สารพันธุกรรมของไวรัสโรคโควิด-19

คำแนะนำการให้วัคซีนโควิด-19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี สำหรับประชาชนฉีดปีละ 1 เข็ม เริ่มปี 2566 เป็นต้นไป ฉีดตั้งแต่เดือนเมษายน ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ฉีดห่างจากเข็มสุดท้าย หรือการติดเชื้อครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 3 เดือน ฉีดพร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง หากฉีดไม่พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะเว้นระยะเวลา ห่างกี่วันก็ได้