เปิดใจ 'หมอ' ฮีโร่ ช่วยผู้โดยสารเป็นลมบนเครื่องบิน โซเชียลแห่ชื่นชม

เปิดใจหมอ รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ร่วมกับพยาบาล ช่วยผู้โดยสารสาวเป็นลมใกล้หมดสติ ขณะอยู่บนเครื่องบินจนปลอดภัย ขณะโซเชียลแห่ชื่นชม

จากกรณีเพจฯ TAH AND FRIENDS โพสต์เล่าเหตุการณ์นาทีระทึก หมอ-พยาบาล ช่วยผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งที่เป็นลมบนเครื่องบินจนกลายเป็นไวรัล และโซเชียลต่างเข้ามาชื่นชม

โดยในโพส์ต ระบุข้อความว่า "มีคนกำลังจะหมดสติอยู่บนเครื่องบิน ที่บินจากญี่ปุ่นกลับไทยวันนี้ เพราะมีอาการแพนิค บวกกับมีโรคประจำตัวบางอย่าง ญาติๆเห็นว่าท่าทางจะไม่ดี เลยกดปุ่มเรียกพนักงานบนเครื่องมาช่วยดู ทั้งแอร์และสจ๊วตทุกคน พยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนคนไข้จะอาการแย่ลงจนในที่สุดมีสจ๊วตคนนึงตัดสินใจ ไปพูดออกลำโพงเพื่อประกาศขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากทุกคนบนเครื่องบิน ตามหาคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยเหลือพอประกาศจบ

ระหว่างที่คนในเครื่องกำลังแตกตื่น มีคุณหมอคนหนึ่งลุกขึ้นมาจากบริเวณที่นั่งกลางลำ เดินเข้ามาแสดงใบประกอบวิชาชีพกับพนักงาน แล้วรีบตรงไปที่คนไข้ ไม่นานจากนั้นก็มีพี่ที่เป็นนางพยาบาล ลุกตามขึ้นมาช่วยดูอีกคนคุณหมอเข้ามาพร้อมกับที่ตรวจฟังเสียงหัวใจ สอบถามอาการจากญาติของคนไข้ และฟังเสียงชีพจรอยู่ไม่นาน พี่ที่เป็นพยาบาลก็ขอดูอุปกรณ์ทางการแพทย์ และยาทั้งหมดที่มีอยู่บนเครื่องที่ทางพนักงานขนออกมาให้ คุณหมอส่งตัวยาขวดหนึ่งให้กับพี่พยาบาล คุณหมอหันขึ้นมาบอกสรรพคุณของยา และวิธีรักษาตอนนี้ให้กับคนไข้และญาติ พยาบาลข้างหลังเตรียมเข็มฉีดยาเสร็จ ส่งให้ในมือคุณหมอ แล้วก็ฉีดยาตัวนั้นให้คนไข้เรียบร้อย

เปิดใจ \'หมอ\' ฮีโร่ ช่วยผู้โดยสารเป็นลมบนเครื่องบิน โซเชียลแห่ชื่นชม

กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่นานนัก และคนป่วยก็มีอาการที่ดีขึ้น เตรียมตัวส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกที หลังจากถึงกรุงเทพแล้วผมซึ่งนั่งอยู่เยื้องๆด้านหลังจากคนบนป่วยนิดหน่อย เห็นเหตุการณ์อยู่ทั้งหมด รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น ความหวาดเสียว มันทั้งน่ากลัวและกดดัน แต่ในขณะเดียวก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นหัวใจอย่างที่สุดเช่นกัน คนเราเกิดขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันจริงๆนะ เราต่างเป็นคนสำคัญของกันและกันในบางเวลาจริงๆ ฉากที่คุณหมอและพี่พยาบาล ลุกขึ้นมาจากที่นั่งมันเท่สุดๆไปเลยสำหรับผม

หลายๆคนอาจจะบอกว่า เราต้องเกิดมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข แต่จริงๆแล้วนอกจากจะดูแลตัวเอง เราอาจจะเกิดมาเพื่อดูแลผู้อื่นด้วยก็ได้นะ ขอบคุณคุณหมอ พี่พยาบาล และพนักงานบนเครื่องบินทุกคนมากๆนะคับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกคน หลังจากที่โพสต์ออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มีคนเข้ามากดไลก์ แสดงความคิดเห็นชื่นชมคุณหมอ พยาบาล คนดังกล่าวจำนวนมาก รวมถึงผู้โดยสารทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ จนกลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้ใจฟูกันเลยทีเดียว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง รพ.นางรอง เพื่อสอบถามความรู้สึกของคุณหมอคนดังกล่าวนั่นคือ นายแพทย์ภานุวัฒน์ ไชยสิทธิ์ หรือหมอป๊อป แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัวโรงพยาบาลนางรอง ก็เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินสายการบินแอร์ เอเชีย ไฟท์ญี่ปุ่น-ไทย ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เหตุการณ์ตอนเกิดขึ้นได้ยินเสียงทางกัปตันประกาศหาบุคลากรการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ซึ่งขณะนั้นตนหลับอยู่แม่ปลุกให้ตื่นหลังจากได้ยินเสียงประกาศ ตนก็เดินไปยื่นบัตรประกอบวิชาชีพให้พนักงานบนเครื่องดู ก่อนจะเดินไปที่คนไข้ถามอาการมีอาการเหนื่อยหอบเหมือนจะหมดสติ ตนก็ถามพนักงานบนเครื่องว่ามีอุปกรณ์การแพทย์อะไรบ้าง จึงทำการวัดความดัน พบความดันอยู่ในระดับปกติ จึงสอบถามว่าจะเอายากิน หรือฉีดยา ผู้ป่วยขอฉีดยา ตนจึงฉีดยาให้ที่กล้ามเนื้อแขนข้างขวา จากนั้นให้นอนพักผ่านไป1ชั่วโมงก็เดินมาดู พบว่าอาการดีขึ้น นอกจากนี้มีพยาบาลแสดงตัวอีก1คน ภายหลังทราบว่าเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลนาโพธ์ จ.บุรีรัมย์ ด้วย ส่วนผู้ป่วยเป็นหญิงชาวจังหวัดภูเก็ต อายุประมาณ30ปี หลังจากเครื่องลงที่สนามบิน ก็ได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล

ที่ผ่านมามีโอกาสช่วยผู้ป่วยนอกสถานที่เยอะมาก ทั้งทำแผล ปั้มหัวใจกลางถนนก็บ่อย เพราะบ้านอยู่ริมถนน ใกล้สี่แยก มีอุบัติเหตุเกิดบ่อย สำหรับเคสนี้ยอมรับว่าทั้งตกใจเพราะเป็นการช่วยเหลือบนเครื่องบิน และก็ดีใจที่ได้ช่วยเหลือจนคนไข้ปลอดภัย

ก็ขอขอบคุณทุกคนที่นำเรื่องราวดีๆลงชื่นชมในโซเชียล โดยเฉพาะคุณต๊ะ ที่ถ่ายภาพเล่าเรื่องราวจนเป็นบทความที่ผมประทับใจ สำหรับผมการทำงานด้านการแพทย์นั้นยินดีอย่างยิ่งที่ช่วยเหลือตามหลักวิชาชีพ ตามบทความที่ลงไว้ว่า "คนเราเกิดขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันจริงๆนะ เราต่างเป็นคนสำคัญของกันและกันในบางเวลาจริงๆ" ฉากที่คุณหมอและพี่พยาบาล ลุกขึ้นมาจากที่นั่งมันเท่สุดๆไปเลยสำหรับผม

หลายๆคนอาจจะบอกว่า เราต้องเกิดมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข แต่จริงๆแล้วนอกจากจะดูแลตัวเอง เราอาจจะเกิดมาเพื่อดูแลผู้อื่นด้วยก็ได้นะ” เป็นบทความที่ผมประทับใจ ส่วนตัวก็ขอชื่นชมทุกคนที่มีส่วนในการช่วยเหลือคนไข้ด้วย