ยื้อต่อหรือพอกันที จะรู้ได้อย่างไร | บวร ปภัสราทร

ยื้อต่อหรือพอกันที จะรู้ได้อย่างไร | บวร ปภัสราทร

คนบางคนยอมรับความเสียหายทุกอย่างเพื่อให้ได้นั่งเก้าอี้ต่อไป เพราะกลัวเสียของ ในขณะที่บางคนกลับบอกว่าพอกันที ทั้ง ๆ ที่ได้พยายามมาหลายปีจนความสำเร็จอยู่อีกแค่คืบ

ยื้อต่อหรือพอกันที เป็นภาวะที่หลายคนต้องพบเจอ และต้องตัดสินใจ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่างานนี้สมควรเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าวันนี้จะยากเย็นสักแค่ไหน งานไหนที่ควรบอกว่าพอกันที ยอมเสียของที่ลงแรงไปก่อนหน้านี้ดีกว่าที่จะยื้อต่อไปจนถึงวันสุดท้ายที่ไม่เหลืออะไรติดตัวอีกต่อไป

ควรทำความเข้าใจกันเบื้องต้นเสียก่อนว่า แทบทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้น ในตอนเริ่มต้นทำงานนั้นดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี ออกแรงพยายามแค่ไหน ผลลัพธ์ก็ปรากฏให้เห็นเป็นสัดส่วนกัน ออกแรงมาก ผลลัพธ์ก็เกิดมาก ออกแรงน้อยผลที่เกิดขึ้นก็น้อย

ต่อจากนั้นจะมีอีกช่วงหนึ่งของการมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จนั้นที่ลงแรง ใส่ความพยายามเข้าไปกับงานนั้นแล้วผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะไม่คืบหน้าเท่าที่ควรจะเป็น คล้าย ๆกับเป็นหลุมดักความสำเร็จ

ในช่วงนี้เองที่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จะยืนหยัดเดินหน้าต่อไป ทุ่มใจทุ่มแรงกับงานนั้นต่อไปอีกหน่อย จนผ่านพ้นช่วงที่เป็นหลุมดักความสำเร็จนั้นไปได้ จากนั้นจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่เกิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนบรรลุความสำเร็จในที่สุด

แต่ถ้าระหว่างที่อยู่ในช่วงหลุมดักความสำเร็จ ใครที่ทนก้มหน้าก้มตาเดินหน้ากับงานนั้นต่อไปไม่ไหวเพราะ ทำแล้วต้องออกแรงพยายามมากมายแต่ผลลัพธ์ขยับนิดเดียว ทำแล้วผลลัพธ์แทบไม่คืบหน้า เลยบอกพอกันทีกับงานนั้น ความสำเร็จจึงไม่มีวันเกิดขึ้น

ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบด่วนบอกว่าพอกันทีกับงานใด ๆ หากพบว่าออกแรงไปแล้วงานไม่ค่อยจะคืบหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทุกอย่างก็ดูดีมาตลอด ให้พยายามทำต่อไปอีกสักนิด

ถ้าผ่านช่วงหลุมดักความสำเร็จของงานนั้นไปได้ ความสำเร็จจะอยู่อีกไม่ไกล ถ้าพยายามยื้อต่อไปสักพักหนึ่งแล้ว ไม่มีวี่แววว่าผลลัพธ์จะเพิ่มมากขึ้น ยื้อต่อไปแล้ว หมดแรงหมดใจลงไปทุกที

อาจแปลว่าที่กำลังพยายามเดินหน้าอยู่นั้นไม่นำไปสู่ความสำเร็จที่เป็นประโยชน์กับเรา หรืออาจเป็นความสำเร็จที่ไม่ใช่สำหรับวิถีชีวิตของเรา

ไม่ใช่เป็นความสำเร็จที่ชีวิตเราต้องการอย่างแท้จริง ลองทบทวนดูอีกทีว่าเราเดินหน้าอยู่นี้เพราะกลัวเสียของหรือไม่  เสียดายเรี่ยวแรง เสียดายเวลาและเงินทุนที่ลงไปกับงานนั้น

ถ้าเดินหน้าเพราะกลัวเสียของ ขอให้พอสักที อย่าทำตัวเหมือนนักพนันที่ลงเงินพนันเพิ่มเติมขึ้นไปอีกตามที่ตนเสียพนันไปแล้ว ยิ่งเสียยิ่งลงพนันมากขึ้นไปอีก หวังแค่ว่าพนันเพิ่มขึ้นแล้วถ้าชนะพนันสักครั้งจะได้เงินที่เสียพนันไปคืนมาได้ ยื้อแล้วไม่มีแววคืบหน้า อย่ากลัวเสียของ พอกันทีดีกว่า

ยื้อต่อหรือพอกันที จะรู้ได้อย่างไร | บวร ปภัสราทร

ถ้าไม่รู้ว่าจะทำงานนั้นอย่างไร  เพื่อให้ได้ความสำเร็จเกินกว่าความคาดหมาย อยากได้ความสำเร็จเกินคาดแต่ไม่รู้ว่าจะทุ่มเทฝ่าฟันสารพัดอุปสรรคไปได้อย่างไร

ท่านว่างานนั้นควรพอกันทีเพราะอาจเป็นงานที่เราไม่ถนัด หรือสมรรถนะฝีมือของเรายังไม่พอสำหรับงานนั้น เราอาจจะมีความรู้เกี่ยวกับงานนั้น แต่อาจจะยังมีทักษะในงานนั้นไม่เพียงพอ

ถ้ารู้ดีแต่ทำไม่ได้อย่ายื้อต่อไป   ให้ถอยไปตั้งหลักพัฒนาความรู้และทักษะให้พอเพียงที่จะทำงานนั้นได้อย่างดีเลิศเสียก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาทำใหม่ ทำครั้งใหม่นี้เรามีทั้งความรู้ และทักษะสำหรับงานนั้นครบถ้วน ทุกอย่างน่าจะก้าวหน้าด้วยดี

แม้อาจจะยังคงมีช่วงหลุมดักความสำเร็จขวางทางอยู่บ้าง แต่น่าจะก้าวข้ามไปได้โดยไม่ลำบากเท่ากับตอนที่ยื้อไปต่อ ในขณะที่ฝีมือตนเองยังไม่พร้อมสำหรับงานนั้น

ถ้าที่กำลังพยายามทำอยู่นั้น ทำไปโดยปราศจากแรงบันดาลใจ ทำแล้วนึกไม่ออกว่าถ้ามีความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ชีวิตเราจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง ถ้าทนทำ มากกว่าทุ่มเททำเพื่อให้ได้มีโอกาสเห็นความสำเร็จเกิดขึ้น ถ้าทำไปเพราะจำใจทำ ไม่ใช่ทำไปเพราะใจอยากทำ งานนั้นสมควรพอกันที

งานที่จำใจทำไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นเลิศ ยื้อต่อไปถ้าเป็นงานที่ใจอยากทำ แต่ควรพอกันทีหากใจอยากทำแต่ฝีมือไม่พอ.

คอลัมน์ ก้าวไกลวิสัยทัศน์

รศ.บวร ปภัสราทร 

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

email. [email protected]