'รพ.ขอนแก่น' ภาวะการเงินติดลบ 1,400 ล้าน เร่งแก้หวั่นกระทบบริการ

'รพ.ขอนแก่น' ภาวะการเงินติดลบ 1,400 ล้าน เร่งแก้หวั่นกระทบบริการ

รพ.ขอนแก่น การเงินติดลบ 1,400 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการจัดสรรงบฯผู้ป่วยในไม่สอดคล้องต้นทุนจริง เร่งแก้หวั่นกระทบรพ.-บริการประชาชน

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 ที่ จ.ขอนแก่น นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนพร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้านการเงินการคลังและคุณภาพการให้บริการประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของโรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ปัญหาเชิงระบบ และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อให้ระบบบริการเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น

"ยืนยันว่ากระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจ ร่วมเข้ามาลงมือในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการพี่น้องประชาชนได้อย่างราบรื่น"นายพัฒนากล่าว

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาได้มีการพูดคุยกับทาง สปสช. ในการจัดสรรเงินอุดหนุน ซึ่งจะมีจำนวนที่มากขึ้น ในปี 2569 ที่น่าจะทำให้สภาพคล่องของโรงพยาบาลขอนแก่น และอีกหลายโรงพยาบาล มีความเข้มแข็งมากขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่หากไม่พอ ทางกระทรวงกำลังพิจารณาการเสริมสภาพคล่องเช่นเดียวกัน โดยต้องวิเคราะห์ต้นทุนและกระบวนการว่าโรงพยาบาลขาดเหลือในจำนวนเท่าใด ในช่วงเวลาใด
อีกทั้ง ได้หารือผู้บริหารโรงพยาบาลพิจารณากิจกรรมของโรงพยาบาลที่สามารถทำได้ดี ควบคุมต้นทุนได้ดี เพื่อมุ่งเน้นระดมสรรพกำลังทำในส่วนนั้น ตลอดจนจะเข้ามาช่วยกันวางกรอบมาตรการในการจัดซื้อจัดจ้าง การใช้ทรัพยากร เวชภัณฑ์ต่างๆ ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด


ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวเสริมว่า  สถานะทางการเงินของโรงพยาบาลขอนแก่นที่อยู่ในภาวะติดลบประมาณ 1,431 ล้านบาท มีสาเหตุหลักจากการจัดสรรงบประมาณค่าบริการผู้ป่วยในที่ยังไม่สอดคล้องกับต้นทุนจริงของการให้บริการ โดยเฉพาะอัตราชดเชยตามน้ำหนักสัมพัทธ์ (Rw) ซึ่งยังต่ำกว่าต้นทุนบริการที่แท้จริง

หากในช่วงต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ยังไม่สามารถปรับอัตราจ่ายค่าชดเชยผู้ป่วยในให้อยู่ในระดับประมาณ 8,350 บาทต่อ Rw ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด จะส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของโรงพยาบาล และอาจมีผลกระทบต่อการจัดบริการแก่ประชาชนในระยะเวลาอันใกล้

"เชื่อมั่นว่ารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพียงพอต่อการจัดบริการสุขภาพ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งหารือและประสานงานกับ สปสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในเรื่องอัตราการจ่ายที่เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนบริการที่แท้จริง"นพ.สมฤกษ์กล่าว