กฎหมาย 'ห้ามขายเหล้าเบียร์’ ให้คนเมา สธ.เร่งออกเกณฑ์ ‘อาการเมา’

สธ.เร่งออกประกาศเกณฑ์ "อาการเมา" ให้ร้านใช้ประเมิน ภายใน 180 วัน ย้ำกฎหมายห้ามขายเหล้าเบียร์ให้คนเมา ฝ่าฝืนเจ้าพนักงานดำเนินคดีได้ทันที โทษปรับเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งที่ 6/2568 ว่า จากการประชุมครั้งก่อนที่ให้เริ่มทดลองขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลา 14.00 - 17.00 น. ซึ่งเดิมเป็นเวลาห้ามขาย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการพูดคุยถึงกฎหมายลูก ส่วนใหญ่จะล้อมาจากกฎหมายฉบับเดิม แต่เพียงเปลี่ยนอำนาจของการกำกับดูแล
และพูดคุยกันเรื่องประเมินผลกระทบในช่วงเวลา 6 เดือนที่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. โดยในการประชุมครั้งหน้า ฝ่ายเลขานุการ คือ กรมควบคุมโรคจะเป็นผู้นำเสนอมาตรการ และกระบวนการในการพิจารณาเพื่อให้มีข้อยุติภายใน 180 วัน นับจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยข้อมูลและผู้ปฏิบัติจะเป็นคณะกรรมการควบคุมแอลกอฮอล์ระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
ถามถึงมาตรการควบคุมกรณีข้อกำหนดห้ามขายให้คนเมา นายพัฒนา กล่าวว่า กรมควบคุมโรคกำหนดแนวทางแล้ว จะออกเป็นประกาศเป็นกฎหมายออกไปให้ทราบ ส่วนช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ที่จะมาถึง ขอฝากว่าช่วงเทศกาลแห่งความสุขขอให้ใช้เวลากับครอบคัรว กับคนที่ท่านรักเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข หากจะดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ควรขับรถ การใช้ชีวิตไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาแห่งความสุขก็ต้องตามสมควร ประเมินตนเอง ให้มีสติในการใช้ชีวิต
นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การออกเป็นกฎหมายจะมีขั้นตอน จึงจะออกเป็นแนวทางในการประเมินอาการเมาให้แก่ร้านก่อน เพื่อประเมินว่าแบบไหนคืออาการเมาถึงห้ามจำหน่าย ซึ่งสอดรับกับแนวทางของราชวิทยาลัยจิตแพทย์ฯ
“แนวทางการประเมินเบื้องต้นจะใช้วิธีการตรวจง่ายๆ เช่น การเดินต่อเท้า เป็นต้น ถ้าอาการมึนเมาจะทำไม่ได้”นพ.มณเฑียรกล่าว
ขณะที่ นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ผลกระทบเรื่องอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเวลา 14.00-17.00 น.กำลังให้แต่ละจังหวัดเก็บข้อมูล ส่วนแนวทางประเมินอาการคนเมากับส่วนที่จะออกเป็นกฎหมาย คงเป็นร่างแบบเดียวกัน เพราะนำมาจากวิธีการประเมินคนเมาตามเกณฑ์ของราชวิทยาลัยจิตแพทย์ฯ เป็นลักษณะของอาการและอาการแสดง (Sign and Symptoms)
และมีประเมินว่าควรใช้เครื่องเป่าหรือไม่ แต่ร้านค้าก็คงไม่มี ในภาคปฏิบัติอย่างน้อยก็ใช้ Sign and Symptoms เพื่อให้ร้านค้าได้ป้องกันตนเอง ว่าอย่างน้อยไตรวจแล้ว คนเหล่านี้ไม่มีอาการอย่างนี้เลยขายให้ แต่ถ้าขายให้คนมีอาการแล้วมาฟ้องก็คือสืบพยานกลับและต้องรับผิดชอบตามเกณฑ์
"ประกาศในการประเมินอาการคนเมานี้ จะออกเป็นประกาศกรมควบคุมโรค เพราะออกภายใต้หลักเกณฑ์ที่อธิบดีกำหนด แต่ประกาศกรมควบคุมโรคก็ต้องทำแบบเดียวกับหลักกฎหมาย คือต้องทำประชาพิจารณ์ ภายใน 180 วันตามไทม์ไลน์ ก็เร่งทุกเรื่อง แต่มีปัญหาเรื่องไทม์ไลน์" นพ.นิพนธ์กล่าว
ถามถึงผู้ที่ฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนเมาจะมีบทลงโทษอย่างไร นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า โทษปรับจะแพงขึ้น ตามมาตรา 29 และยังมีมาตราอื่นที่เขียนว่าพนักงานตักเตือนได้ ยกเว้นในเรื่องของการห้ามขายให้เด็กและการขายให้คนเมา ถ้าเจอว่าขายพนักงานเตือนไม่ได้ ต้องดำเนินคดีอย่างเดียว ซึ่งจะต้องมีการลงตรวจ
“แต่พูดตรงๆ ว่ามีใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 6 แสนใบ การจะลงตรวจให้ครอบคลุมคงยาก แต่อย่างน้อยเป็นการห้ามปราม ถ้าไปเจอของจริงก็มีหลักฐานประกอบ เพราะเมื่อก่อนไม่มีสิทธิให้บอกว่าอาการเมาคืออะไรที่ครองสติไม่ได้”นพ.นิพนธ์กล่าว
ถามต่อว่าตามร้านดื่มส่วนใหญ่มีการออกโปรโมชั่นหรือบังคับให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากๆ รวดเดียวตั้งแต่แรก แล้วทยอยซื้อแค่มิกเซอร์แทน ก็จะกลายเป็นว่าไม่ได้ขายเหล้าให้คนเมา นพ.นิพนธ์กล่าวว่า ในต่างประเทศจะมีใบอนุญาตขายแบบ On Premise / Off Premise ซึ่งจะมีการอบรมให้คนขายแยกแยะว่าห้ามขายให้คนเมา เขาก็จะปิดการขายเอง แต่ประเทศไทยยังไม่มีการอบรมแบบนี้ เรามีแค่ใบอนุญาตขายปลีกและขายส่ง







