‘ภาษีบุหรี่’ หนุน อัตราเดียว  ชี้ 2 อัตรา ทำรัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน

‘ภาษีบุหรี่’ หนุน อัตราเดียว  ชี้ 2 อัตรา ทำรัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน

"หมอประกิต" ออกโรง เชียร์ นายกฯ อนุทิน สั่งปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ให้เหลืออัตราเดียว พร้อมขอบคุณอธิบดีกรมสรรพสามิต เตรียมเสนอ ครม. หลังภาษี 2 อัตรา ทำรัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน แถมคนสูบไม่ลด เหตุบุหรี่นอกดั๊มพ์ราคาถูกกว่าบุหรี่ไทย

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2568 ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีที่ กรมสรรพสามิต เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาปรับแก้ไขการจัดเก็บภาษียาสูบ จากเดิมจัดเก็บ 2 อัตรา คือ บุหรี่ ราคาไม่เกินซองละ 72 บาท เก็บภาษี 25% และบุหรี่ราคาเกิน 72 บาท เก็บภาษี 42% เปลี่ยนเป็นจัดเก็บอัตราเดียว

ซึ่งจากการติดตามนโยบายภาษีบุหรี่อย่างใกล้ชิดตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมา มีความผิดหวังกับความผิดพลาดที่มีการปรับภาษีจากอัตราเดียวเป็น 2 อัตรา ในปี 2560 และแม้จะมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีในปี 2564 ภาษีบุหรี่ก็ยังเป็น 2 อัตรา ซึ่งทำให้รายได้จากภาษีบุหรี่ยิ่งลดลง เพราะบริษัทบุหรี่ลงมาแข่งขันในตลาดบุหรี่ราคาถูก เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราสูง ส่งผลให้รัฐเก็บภาษีได้ลดลง ที่สำคัญคนสูบบุหรี่ไม่ลดลง แต่หันมาสูบบุหรี่ที่ราคาถูกกว่าแทน

‘ภาษีบุหรี่’ หนุน อัตราเดียว  ชี้ 2 อัตรา ทำรัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน

 ศ.นพ.ประกิต กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้รัฐบาลท่าน นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องกล้าตัดสินใจ แก้ไขความผิดพลาดที่เห็นอยู่ซึ่งหน้ามาหลายปีแล้ว หากทำได้สำเร็จจะเป็นการวางรากฐาน ทำให้ภาษีบุหรี่ เป็นนโยบายวิน-วิน ที่ไทยไม่ควรเสียโอกาสมา 7 ปีเต็มแล้ว และขอบคุณอธิบดีกรมสรรพสามิต คุณพรชัย ฐีระเวช ที่จะเสนอให้รัฐบาล ปรับภาษีให้เหลืออัตราเดียว และขึ้นภาษีเพื่อจะเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น

"ผมมีข้อเสนอเดียว คือขอให้ความสำคัญกับการขึ้นภาษีขาคิดตามปริมาณ มากกว่าการขึ้นภาษีตามมูลค่า เพราะภาษีตามมูลค่ามีจุดอ่อนที่บริษัทบุหรี่จะแจ้งมูลค่าต่ำกว่าความจริง เพื่อหลบเลี่ยงภาษี” ศ.นพ.ประกิต กล่าว

ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า ผลกระทบของการเปลี่ยนภาษีบุหรี่จากอัตราเดียวที่ใช้มาตั้งแต่ ปี 2533 ปรับเป็น 2 อัตราเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2560 พบว่า บริษัทบุหรี่นำเข้า ซึ่งเป็นคู่แข่งของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ได้ลดราคามาขายในตลาดระดับล่าง เพื่อเสียภาษีน้อยลง ส่งผลให้ ยสท. เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับบุหรี่นำเข้า โดยบริษัทบุหรี่นำเข้า มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 28.9 % ในปี 2560 ซึ่งเป็นภาษีอัตราเดียว เพิ่มมาเป็น 49.9% ในปี 2562 ขณะที่ ยสท. มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 64.6% เหลือ 43 % ในช่วงเวลาเดียวกัน

“สอดคล้องกับกำไรของ ยสท. ที่มีถึง 9,343 ล้านบาท ในปี 2560 แต่กลับลดลงอย่างมากเหลือ 843 ล้านบาท ในปี 2561 และเหลือกำไรเพียง 513 ล้านบาท ในปี 2562 แถมยังส่งผลกระทบต่อชาวไร่ยาสูบไทยอย่างรุนแรง จากได้รับโควต้าปลูกใบยาสูบลดลง ต่อมาในปี 2564 ได้แก้ปัญหาด้วยการปรับอัตราภาษียาสูบเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็น 2 อัตรา ซึ่งก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ทำให้รัฐเก็บภาษีได้ลดลงปีละมากกว่าหมื่นล้านบาท” ศ.นพ.ประกิต กล่าว

ศ.นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า ภาษีบุหรี่เป็นเครื่องมือ Win-Win คือ รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น สุขภาพประชาชนดีขึ้นจากการสูบบุหรี่น้อยลงหรือเลิกสูบ ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพทั้งของครอบครัวและของรัฐ ที่สำคัญยังช่วยป้องกันเด็ก/วัยรุ่นที่จะเข้ามาเป็นนักสูบหน้าใหม่ด้วย

แต่หากบริหารจัดการโครงสร้างอัตราภาษีไม่ดี ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ภาษีบุหรี่จะกลายเป็น Lose-Lose คือเสียกับเสีย รายได้ภาษีลดลง คนสูบบุหรี่ไม่ลดลง มีฝ่ายเดียวที่ได้ประโยชน์คือบริษัทบุหรี่ ส่วนการแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อน ต้องแก้ที่ระบบการควบคุมปราบปรามบุหรี่เถื่อน ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับการขึ้นภาษีบุหรี่ ตามที่บริษัทบุหรี่พยายามกล่าวอ้างกับรัฐบาลทั่วโลก
‘ภาษีบุหรี่’ หนุน อัตราเดียว  ชี้ 2 อัตรา ทำรัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน ‘ภาษีบุหรี่’ หนุน อัตราเดียว  ชี้ 2 อัตรา ทำรัฐสูญรายได้ปีละหมื่นล้าน