กางแผนฟื้นฟูด้านสาธารณสุข หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ลด ตั้งรพ.สนาม 8 แห่ง

กางแผนฟื้นฟูด้านสาธารณสุข หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ลด  ตั้งรพ.สนาม 8 แห่ง

เปิดแผนฟื้นฟูด้านสาธารณสุข หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ลด ตั้งรพ.สนาม 8 แห่ง รองรับประชาชนเมื่อออกมาจากพื้นที่ ยืนยันรพ.หาดใหญ่ไม่ปิด จะรักษาไว้ดูแลประชาชน ส่วนกลางพร้อมส่งกำลังเสริม-เวชภัณฑ์ทันที

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2568  ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หรือ PHEOC กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง ประชุมทางไกล (Web Conference)​ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พื้นที่ภาคใต้(น้ำท่วมหาดใหญ่) ว่า ภารกิจหลักในวันนี้ คือ การเคลื่อนย้ายส่งต่อ ผู้ป่วยหนักสีแดงของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ที่ทั้งหมดใส่ท่อช่วยหายใจประมาณ 20 คน 

โดยเฮลิคอปเตอร์นำส่งไปยังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.)ก่อน เพราะเป็นพื้นที่ใกล้เคียงที่สุด แม้ว่าศักยภาพของรพ.ม.อ.จะค่อนข้างเต็ม จากนั้น ประสานร่วมกับกรมการแพทย์ในการส่งต่อไปยัง รพ.ใกล้เคียงที่ปลอดภัยต่อไป คาดว่าจะเคลื่อนย้ายทั้งหมดในวันนี้  

“ขณะที่ผู้ป่วยสีเขียวและสีเหลืองอีกราว 500 คน และญาติพี่น้องอีกหลายร้อยคน ส่วนการส่งอาหารและน้ำกำลังเร่งรัดดำเนินการ ซึ่งขณะนี้รถบรรทุก GMC ของทหาร สามารถเข้ารพ.หาดใหญ่ได้แล้วจากประตูด้านหลังของรพ. จึงมีทีมแพทย์จาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เข้าไปสลับสับเปลี่ยน และออกซิเจนที่อยู่รพ.คาดว่าเพียงพอสำหรับผู้ป่วยใน 48 ชั่วโมง”นายพัฒนากล่าว

ภารกิจที่ 2 คือ การจัดตั้งรพ.สนาม ส่วนของสธ.ดำเนินการ 7 แห่ง และม.อ.ดำเนินการ 1 แห่งรวมเป็น 8 แห่ง  โดยให้ผอ.รพ.สนามเป็นคนเดียวกับรพ.ใกล้เคียง เพื่อง่ายกับการประสานงานส่งกำลังบำรุงและเวชภัณฑ์ต่างๆ  

1.โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช  คู่กับโรงพยาบาลหาดใหญ่ 

2.โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี คู่กับรพ.สนามที่เทศบาลคลองเรียน

3.โรงพยาบาลตรัง  คู่กับศาลาว่าการนครหาดใหญ่

4.โรงพยาบาลพัทลุง   คู่กับโรงพยาบาลรัตภูมิ

5.โรงพยาบาลยะลา คู่กับเทศบาลควนลัง

6.โรงพยาบาลนราธิวาส คู่กับ รพ.สนาม บริษัท หาดทิพย์

7.โรงพยาบาลสงขลา คู่กับรพ.สนามที่สนามบินหาดใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางลำเลียงกำลังบำรุงและเวชภัณฑ์ต่างๆ

นอกจากนี้ ยังมี รพ.สนามของ ม.อ.  คู่กับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

“รพ.หาดใหญ่ จะไม่ปิด จะรักษาไว้ ขณะนี้น้ำเริ่มลด สามารถส่งกำลังบำรุงเข้าไปเพิ่มเติม จะพยายามกู้รพ.หาดใหญ่ ให้กลับมามีศักยภาพบริการประชาชน เพราะเป็นรพ.ที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนรพ.สนามคาดว่าภายในเย็นวันนี้จะวางระบบแล้วเสร็จ” นายพัฒนากล่าว 

ภารกิจที่ 3 เตรียมแผนฟื้นฟู ระบบสาธารณสุข มีกรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นที่เข้าไปสํารวจและดูแลในประเด็นดังกล่าว เพื่อให้ระบบสาธารณสุขกลับมามีความพร้อมมากที่สุด

กรมควบคุมโรคจะเข้าไปดูในส่วนของการป้องกัน ควบคุมโรคหลังจากน้ำลด สนับสนุน ยา วัคซีนป้องกันโรค  รวมถึง จัดส่งทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปตามชุมชนต่างๆที่สามารถเข้าไปได้ เพื่อสํารวจและประเมินอาการป่วยของประชาชน นำเข้าสู่กระบวนการรักษา

การดำเนินงานจะมีผู้อํานวยโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเป็นผอ.รพ.ในพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ด้วยนั้น จะสามารถประสานของกำลังเสริมและเวชภัณฑ์เข้ามาสมทบที่รพ.สนามได้ แต่หากต้องการยา เวชภัณฑ์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ สามารถประสานมายังส่วนกลางเพื่อจัดส่งไปสมทบได้ทันทีด้วยเครื่อง C 130 ของทหาร

“ขอประชาสัมพันธ์ถึงกู้ภัย หน่วยกู้ชีพต่างๆว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบทีมแบบนี้ สามารถเข้ามาเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุขได้ และสายด่วน 1669 ก็ยังเปิดสาย ขอให้วางใจ และมั่นใจว่า ระบบสาธารณสุขของไทย พร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่” นายพัฒนา กล่าว

นายพัฒนา กล่าวด้วยว่า หลังจากน้ำเริ่มลด ทีมกู้ภัยซึ่งเป็นจิตอาสาจากหลายหน่วยงานจะสามารถเข้าพื้นที่ได้ และมีโอกาสที่จะพบร่างผู้เสียชีวิตในที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงได้ วางระบบบริหารจัดการศพผู้เสียชีวิตในช่วงที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม ทั้งที่เสียชีวิตโดยตรงจากเหตุการณ์และเสียชีวิตจากเหตุอื่นๆ โดยมอบหมายให้โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เป็นศูนย์กลางในการรับศพ ที่กู้ภัยนำส่ง เพื่อบันทึกรายละเอียดข้อมูลของผู้เสียชีวิต ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมถึงจะเป็นข้อมูลที่ใช้สำหรับรัฐบาลในการเยียวยาตามกระบวนการ ดังนั้นขอให้ทีมกู้ภัยที่เข้าพื้นที่แล้วพบศพดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวต่อไป

ด้าน นพ.วิโรจน์ โยมเมือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ช่องทางหลักที่จะสามารถเข้ามายังโรงพยาบาลได้ หลังจากสถานการณ์น้ำลดลง คือ บริเวณประตูหลังโรงพยาบาล เบื้องต้นมีผู้ป่วยและญาติที่มีความประสงค์อยากจะกลับบ้านประมาณ 200 คน

ส่วนทรัพยากรอื่นๆ เช่น ออกซิเจน มีประมาณ 50 ถัง  เพียงพอสําหรับวันนี้ หากวันนี้น้ำลด จนสามารถเข้าพื้นที่ได้  จะมีเจ้าหน้าที่ เข้ามาดูในเรื่องของอุปกรณ์หลักในการผลิตออกซิเจน โดย 1 ถัง  จะอยู่ได้อีก7วัน

ขณะที่น้ำดื่มใช้วันละประมาณ 600 แพ็ค  เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มาแล้วประมาณ200แพ็ค เบื้องต้นได้รับการประสานเพิ่มเติม จะมีการนําน้ําดื่มเข้ามายังโรงพยาบาลเพิ่ม ส่วนการทําอาหารทางโรงพยาบาลสามารถผลิตเองได้ 2,600 กล่อง เพื่อรองรับผู้ป่วยและบุคลากร  ซึ่งเมื่อวานนี้ได้รับการจัดส่งวัตถุดิบมาให้กับทางโรงพยาบาลทำอาหาร เบื้องต้นทําได้ประมาณ 2 วัน และคาดว่าวันนี้จะนําวัตถุดิบเข้ามายังโรงพยาบาลเพิ่มเติมอีก โดยสิ่งที่ต้องการ ตอนนี้ คือ อยากได้รถน้ําประปา เข้ามายังพื้นที่โรงพยาบาล เพื่อผลิตน้ําใช้ภายใน

ส่วนระบบไฟฟ้า ขณะนี้อาคารหลักไม่ได้มีปัญหาในการดูแลผู้ป่วย  แต่ยังคงมีอาคารที่ยังไม่เปิดใช้ ประมาณ 2-3 แห่ง ระบบไฟฟ้าขัดข้องและใช้การไม่ได้จากการจมน้ำ โดยวันนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้ามาประเมินทั้งระบบน้ํา ปั๊มน้ํา และระบบไฟฟ้า

สำหรับ อาคาร 600 เตียง ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ สามารถใช้การได้ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ประมาณ 200-300 เตียง  ในส่วนของระบบไฟ  ใช้ในส่วนของเครื่องปั่นไฟ  เป็นน้ำมัน เบนซิล สามารถจ่ายไฟได้ 5 ชั้น โดยต้องใช้น้ํามัน ประมาณ200-300 ลิตรต่อวัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาสามารถใช้การได้ประมาณ 6 ชั่วโมง

“คาดการณ์ว่า หลังจากสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย  จะทําให้ประชาชนผู้ป่วยที่มีนัดกลับเข้ามายังโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ในส่วนนี้ สามารถที่จะรองรับได้ประมาณ 350 เตียง โดยมีทีมแพทย์พยาบาลสนับสนุนจากนอกพื้นที่ ที่ได้เดินทางมาช่วยในครั้งนี้”นพ.วิโรจน์กล่าว