เปิด 59 จังหวัดขาดแคลนแพทย์ 12 จังหวัดวิกฤติสีแดง ส่วน 52 รพศ./รพท.ขาดแพทย์เฉพาะทาง

เปิด 59 จังหวัดขาดแคลนแพทย์ 12 จังหวัดวิกฤติสีแดง ส่วน 52 รพศ./รพท.ขาดแพทย์เฉพาะทาง

59 จังหวัดมีแพทย์ในรพช.ไม่พอ ขาด 661 คน วิกฤติสีแดง 12 จังหวัด มีเพียง 17 จังหวัดที่ไม่ขาดแคลน ส่วนรพศ./รพท. 52 แห่งขาดแพทย์เฉพาะทาง สธ. เร่ง 4  เรื่องสร้างขวัญกำลังใจ เตรียมใช้งบฯ 98 ล้านบาท เพิ่มค่าตอบแทนแพทย์

KEY

POINTS

  • ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน 59 จังหวัด ภาพรวมการขาดจำนวนทั้งสิ้น 661 คน โดยมี 12 จังหวัดอยู่ในภาวะวิกฤติระดับสีแดง
  • โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) จำนวน 52 แห่ง ขาดแคลนแพทย์เฉพาะทางใน 6 สาขาหลัก รวม 185 คน
  • กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแนวทางแก้ไขปัญหา 4 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มบุคลากร, เพิ่มค่าตอบแทนใช้งบราว 98 ล้านบาท , เพิ่มสิทธิประโยชน์ และปรับแก้กฎหมาย 

กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เตรียมเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) พื้นที่วิกฤต ซึ่งพบว่ามีแพทย์ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำถึง 661 คน ใน 59 จังหวัด ส่วนโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ./รพท.) ยังขาดแคลนแพทย์เฉพาะทาง 6 สาขา 

มุ่งเน้นที่การเพิ่มกำลังคน เพิ่มค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์ และการปรับแก้กฎหมาย คาดว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณรวม 98 ล้านบาท เพื่อเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่แพทย์ในพื้นที่ขาดแคลน

จากที่นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่าในการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2568  ได้มีการให้ความสำคัญกับการดูแลขวัญและกำลังใจของบุคลากร โดยจะมีการประกาศนโยบายต่าง ๆ ออกมาเร็ว ๆ นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการกระจายตัวของบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่เพียงพอ

ในพื้นที่เหลือง ๆ แดง ๆ โดยเฉพาะการนำร่องพื้นที่แนวชายแดน ซึ่งกำลังพิจารณาการปรับปรุงค่าตอบแทนทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน รวมถึง การปรับปรุงคุณภาพของที่พักสำหรับแพทย์ เพื่อให้บุคลากรมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ต้องการ

รพช. มีเพียง 17 จังหวัด ไม่ต้องเติมแพทย์

“กรุงเทพธุรกิจ ”ทราบว่าในการประชุมดังกล่าว มีการนำเสนอข้อมูล สถานการณ์กำลังคน สายงานแพทย์ โดยในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ภาพรวมเป็นพื้นที่สีเทา ไม่ต้องเติมแพทย์ เนื่องจากมีแพทย์ตามเกณฑ์และ/หรือเกินเกณฑ์ขั้นต่ำแล้ว จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ ตราด,นครนายก,นครปฐม,

นนทบุรี,น่าน,ปัตตานี,พะเยา

,พิษณุโลก,ภูเก็ต,มุกดาหาร, ยะลา,ระนอง,สมุทรปราการ,สมุทรสาคร,สิงห์บุรี,สุโขทัย และอำนาจเจริญ

12 จังหวัดขาดระดับสีแดง

ส่วนพื้นที่ขาดแคลนแพทย์มี 208 แห่ง ใน 59 จังหวัด จำนวนแพทย์ที่ขาดแคลนรวมทั้งสิ้น 661 คน แยกเป็น 3 ระดับหลัก โดยพิจารณาจากร้อยละของการขาดแคลนแพทย์ต่อเกณฑ์ขั้นต่ำ

พื้นที่สีแดง (วิกฤติ) ขาดแพทย์มากกว่า 40%  จำนวนที่ขาดแพทย์รวม 168 คน มี 12 จังหวัด ได้แก่

  • เชียงราย ขาด 18 คน
  • อุตรดิตถ์ ขาด 5 คน
  • หนองคาย ขาด 5 คน
  • กาฬสินธุ์ ขาด 44 คน
  • ยโสธร ขาด 11 คน
  • อุบลราชธ่านี ขาด 10 คน
  • ศรีสะเกษ ขาด 40 คน 
  • สระแก้ว ขาด 8 คน
  • ระยอง ขาด 15 คน
  • สุราษฎร์ธานี ขาด 4 คน
  • พังงา 4 คน 
  • พัทลุง ขาด 4 คน

พื้นที่สีส้ม ขาดแพทย์ในช่วง 30% - 40% ขาดแพทย์รวม 244 คน มี 17 จังหวัด

  • เชียงใหม่  ขาด 36 คน 
  • แพร่ ขาด 3 คน
  • อุดรธานี ขาด 33 คน
  • บึงกาฬ ขาด 33 คน
  • ร้อยเอ็ด ขาด 35 คน
  • ชลบุรี ขาด 8 คน 
  • กำแพงเพชร ขาด 5 คน
  • นครสวรรค์ ขาด 6 คน
  • ลพบุรี ขาด 16 คน
  • สระบุรี ขาด 11 คน
  • ราชบุรี ขาด 3 คน
  • เพชรบุรี ขาด 7 คน
  • ปทุมธานี ขาด 3 คน
  • นครศรีธรรมราช ขาด 21 คน
  • ตรัง ขาด 3 คน 
  • สตูล ขาด 18 คน 
  • สงขลา ขาด 3 คน

พื้นที่สีเขียว ขาดแพทย์น้อยกว่า 30% ขาดแพทย์รวม 249 คน มี 30 จังหวัด (ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีเทา สีแดง และสีส้ม)

52 รพศ./รพท.ขาดแพทย์เฉพาะทาง 6 สาขา

ขณะที่สถานการณ์กำลังคนสายงานแพทย์ กรณีโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.)/โรงพยาบาลทั่วไป(รพท.) พิจารณาจากเกณฑ์ขั้นต่ำของแพทย์เฉพาะทาง 6 สาขา คือ สูติ-นรีแพทย์ ,ศัลยศาสตร์,อายุรศาสตร์,กุมาร,ออร์โธปิดิกส์ และวิสัญญี ตามระดับโรงพยาบาล  พบว่า ขาดแพทย์เฉพาะทาง 52 แห่ง จำนวนส่วนขาด 185 คน

พื้นที่สีแดง ส่วนขาดมากกว่า 40 % จำนวน 5 แห่ง ขาดแพทย์รวม 48 คน  คือ รพ.บัวใหญ่ ,รพ.บางสะพาน,รพ.บ้านหมี่ ขาดรวม 22 คน และรพ.ศรีสังวาลย์,รพ.บึงกาฬ ขาดรวม 26 คน

พื้นที่สีส้ม ส่วนขาด 30-40 %  จำนวน 3 แห่ง ขาดแพทย์รวม 19 คน คือ รพ.พิมาย ,รพ.สิรินธร ขาดรวม 10 คน ,รพ.50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ อุบลราชธานี ขาด 9 คน 
พื้นที่สีเขียว ส่วนขาดน้อยกว่า 30 %  จำนวน 44 แห่ง  ขาดแพทย์รวม 118  คน

4 เรื่องขับเคลื่อนขวัญกำลังใจบุคลากร

แนวทางการขับเคลื่อนขวัญกำลังใจบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขนั้นประกอบด้วย 4 เสาหลักสำคัญ ได้แก่

1. การเพิ่มบุคลากร

  • ในรพช. จำนวนแพทย์ต่ำกว่าเกณฑ์ชั้นต่ำ 208 แห่ง 59 จังหวัด ขาด 661 คน จะมีการจัดสรรแพทย์เพิ่มพูนทักษะตามสัดส่วนจำนวนเตียง (Active Bed) และการจัดสรรแพทย์โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท (CPIRD) โดยเน้นพื้นที่ขาดแคลน และการจัดสรรแพทย์ข้ามจังหวัดภายในเขตสุขภาพ
  • การจัดสรรแพทย์เฉพาะทางในรพศ./รพท.ให้เป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำ ที่ยังขาดอยู่ 185 คน

2.เพิ่มค่าตอบแทนเพื่อจูงใจ

  • สธ.มีแผนเพิ่มค่าตอบแทนสำหรับรพช.ในพื้นที่สีแดง 76 แห่ง คิดเป็นมูลค่ารวม 68 ล้านบาท โดยเพิ่มเป็นค่าเวรฉุกเฉิน(ER) 2 เท่า
  • เพิ่มค่าตอบแทนแพทย์เฉพาะทาง (6 สาขา) สำหรับรพศ./รพท. โดยเพิ่มค่าเวรสาขาที่ขาดแคลน เติมในรพ.พื้นที่สีแดง มูลค่า 30 ล้านบาท

3. การเพิ่มสิทธิประโยชน์

สิทธิประโยชน์ด้านการขอทุนไปเรียนติ่เฉพาะทางและการเลือกพื้นที่หลังเรียนจบ สำหรับแพทย์ที่เคยใช้ทุนในพื้นที่สีแดงหรือสีส้ม

• หากใช้ทุนครบ 2 ปี จะได้รับสิทธิทุนเรียนต่อได้ในทุกสาขาที่คุณสมบัติตามแพทยสภากำหนด

• หากใช้ทุนครบ 3 ปี จะได้รับสิทธิทุนเรียนต่อได้ในทุกสาขาและสามารถเลือกบรรจุอิสระ สำหรับแพทย์ในพื้นที่สีเขียว จะสามารถขอ fixed ward ปี 2-3  โดยให้โอกาส Intern 1 ในพื้นที่สีแดง/สีส้ม ได้รับการพิจารณาก่อน (ถ้าใช้ทุนครบ 3 ปี ยังไม่สามารถไปเรียนต่อได้ จะให้ส่งกลับ รพช.)

4.ปรับแก้กฎหมาย การขับเคลื่อนมาตรการนี้ยังรวมถึงการปรับแก้กฎหมาย โดยเฉพาะ พรบ. กระทรวงสาธารณสุข(พรบ.ก.สธ.) ซึ่งกรขณะนี้มีความคืบหน้า โดยในเดือนตุลาคม 2568 สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ขออนุมัติเรื่อง และในเดือนพฤศจิกายน 2568 กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สปส.) จะนำร่าง พรบ. ก.สธ. ส่งกลับไปยัง สลค. อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป