ปี 68 สุ่มตรวจ ‘ยาดม’ 54 ตัวอย่างพบผิดมาตรฐาน 39 ตัวอย่าง

ปี 68 สุ่มตรวจ ‘ยาดม’ 54 ตัวอย่างพบผิดมาตรฐาน 39 ตัวอย่าง

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยปี 2568 รับตัวอย่าง ‘ยาดม’ มาตรวจ 54 ตัวอย่าง พบผิดมาตรฐาน 39 ตัวอย่าง อย.ย้ำหยุดใช้รุ่นผลิตที่ตรวจพบทันที ส่วนรุ่นการผลิตอื่นยังสามารถจำหน่าย-ใช้ได้ตามปกติ

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศผลตรวจวิเคราะห์ยาดมสมุนไพร ที่พบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ จำนวน 2 ยี่ห้อนั้น

ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา  กล่าวว่า การดำเนินงานดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการพบเชื้อราในยาดมสมุนไพร ที่เป็นอันตรายต่อปอด จึงได้สุ่มเก็บตัวอย่างยาดมสมุนไพรหลากหลายยี่ห้อจากสถานที่จำหน่าย และสถานที่ผลิต ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อทดสอบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ยีสต์ และรา รวมถึงเชื้อก่อโรคอื่นๆ

ภญ.สุภัทรา กล่าวด้วยว่า จากรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ยาดมสมุนไพรที่เก็บจากสถานที่ผลิตโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า 1. ยาดมสมุนไพร ตราหงส์ไทย สูตร 2 เลขทะเบียนตำรับยา G 309/62 รุ่นที่ผลิต 000332 วันที่ผลิต 09/12/2024 วันสิ้นอายุ 08/12/2027 พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ ยีสต์ และรา และเชื้อคลอสตริเดียม (Clostridium spp.) เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดข้างต้น และจากรายงานการตรวจยืนยันเชื้อพบว่า เป็นเชื้อก่อโรคคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ (Clostridium perfringens) 

2. ยาดมสมุนไพร ตรา ฉมาเฮิร์บ เลขทะเบียนตำรับยา G561/67 รุ่นการผลิตที่ NF 2522503001 วันที่ผลิต 03/03/2025 วันสิ้นอายุ 02/03/28 พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดข้างต้น
หยุดใช้รุ่นผลิตที่ปนเปื้อน

“ผลวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่ตกมาตรฐานนั้นมีความเฉพาะเจาะจงต่อรุ่นการผลิต (Lot Number / Batch Number) ที่พบปัญหาเท่านั้น รุ่นการผลิตอื่นยังสามารถจำหน่าย และใช้ได้ตามปกติ”ภญ.สุภัทรา กล่าว

ดังนั้น ประชาชนควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ท่านมีว่าเป็นรุ่นการผลิตตรงกับรุ่นที่ถูกประกาศเตือนหรือไม่ หากเป็นรุ่นการผลิตที่พบปัญหา ควรหยุดใช้ทันที และติดต่อผู้ผลิตเพื่อดำเนินการคืนสินค้า ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้า และสังเกตความผิดปกติของผลิตภัณฑ์ก่อนใช้

ขอแนะนำ 3 ข้อควรปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ยาดมได้อย่างปลอดภัย ดังนี้

1. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ สังเกตข้อมูลบนฉลาก ทั้งชื่อผู้ผลิต เลขทะเบียนผลิตภัณฑ์ วันที่ผลิต และวันหมดอายุ โดยตรวจสอบข้อมูลการอนุญาต จาก อย. ได้ ผ่านคิวอาร์โค้ด และห้ามซื้อยาดมที่ไม่มีเลขทะเบียนหรือไม่ระบุแหล่งที่มา

2. เก็บรักษาอย่างถูกวิธี หลังเปิดใช้งานควรปิดฝายาดมให้สนิท เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ชื้น และหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือสัมผัสกับส่วนผสมภายในยาดมสมุนไพร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์

3. ชนิดของยาดม กับ อายุการใช้งาน ยาดมชนิดชิ้นส่วนสมุนไพร (แบบห่อผ้าในกระปุก) มีอายุการใช้งานสั้นกว่าชนิดน้ำมันหรือขี้ผึ้ง จึงควรระมัดระวังการใช้ และตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ หากพบว่ามีสี กลิ่นเปลี่ยนไป ให้หยุดใช้

ปี 68 สุ่มตรวจพบผิดมาตรฐาน 39 ตัวอย่าง

ขณะที่ นพ.สราวุฒิ บุญสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า การตรวจการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ประกอบด้วย

1. จำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตในอากาศทั้งหมด ต้องไม่เกิน 200 โคโลนี/กรัม

2. จำนวนรวมของยีสต์ และรา ต้องไม่เกิน 20 โคโลนี/กรัม

3. จุลินทรีย์เฉพาะ ต้องไม่พบเชื้อจุลินทรีย์สแตปฟิโลค็อคคัส ออเรียส เชื้อซูโดโมแนสแอรูจิโนซา และเชื้อคลอสตริเดียม

โดยวิธีการตรวจหาจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตในอากาศทั้งหมด และจำนวนรวมของยีสต์ และรา ใช้วิธี Plate count ซึ่งเป็นการเพาะเลี้ยงเชื้อที่ปนเปื้อนในตัวอย่างบนจานเพาะเลี้ยงเชื้อ แล้วนับจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่เจริญบนจานอาหารเลี้ยงเชื้อ

ส่วนการตรวจหาเชื้อจุลินทรีย์เฉพาะ ใช้วิธีการเพิ่มจำนวนเชื้อในอาหารเลี้ยงเชื้อเหลว และแยกด้วยอาหารเลี้ยงเชื้อเฉพาะสำหรับเชื้อแต่ละชนิด ทำการย้อมสี และดูลักษณะภาพใต้กล้องจุลทรรศน์

 “ในปีงบประมาณพ.ศ. 2568 มีผลิตภัณฑ์ยาดมส่งตรวจที่สำนักยา และวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 54 ตัวอย่าง พบผิดมาตรฐาน 39 ตัวอย่าง ส่วนใหญ่จะผิดมาตรฐานในเรื่อง จำนวนรวมของจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ จำนวนรวมของยีสต์ และรา และเชื้อคลอสตริเดียม (Clostridium spp.) จากการตรวจยืนยัน พบเป็นเชื้อคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ ซึ่งกรมได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปแล้ว” นพ.สราวุฒิ กล่าว  

สำหรับเชื้อคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ สามารถพบได้ทั่วไปในดิน เป็นเชื้อที่เจริญเติบโตได้ในสภาวะไร้ออกซิเจน ทั้งนี้ผู้มีร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้สูงอายุ หากสูดดมอาจได้รับอันตรายจากสปอร์ของเชื้อรา และเชื้อคลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น หายใจลำบาก มีเสียงหวีด และอาการไอ ปวดปากและลำคอ นอกจากนี้อาจมีเลือดปนในน้ำลาย และเสมหะได้

นพ.สราวุฒิ ย้ำว่า  ผู้ผลิตควรมีการกำจัดหรือลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ก่อนนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น การล้าง อบ หรือการฉายรังสี เพื่อความมั่นใจกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พร้อมสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิตรายย่อยในการตรวจสอบคุณภาพก่อนจดทะเบียน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และปลอดภัยกับผู้บริโภค

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์