อย.ผุด ‘แอปร้านยาใกล้ฉัน’ ช่วยเช็กก่อนนำใบสั่งรพ.เอกชนไปซื้อยา

อย.ผุด ‘แอปร้านยาใกล้ฉัน’ ช่วยเช็กก่อนนำใบสั่งรพ.เอกชนไปซื้อยา

อย.ผุดแอป “ร้านยาใกล้ฉัน” ช่วยผู้ป่วยเช็กให้ชัวร์ ก่อนนำใบสั่ง รพ.เอกชน ไปซื้อยาเอง  ร้านยาลงทะเบียนร่วมแล้วกว่า 3,400 แห่ง ดีเดย์ 4 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2568 ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ให้สัมภาษณ์ว่า  จากที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เตรียมเปิดตัวโครงการที่เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ป่วยที่ได้รับใบสั่งยาจากโรงพยาบาลเอกชน โดยผู้ป่วยสามารถเลือกที่จะนำใบสั่งแพทย์ไปซื้อยาจากร้านขายยาแผนปัจจุบันที่เข้าร่วมโครงการได้  ซึ่งจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 4 พ.ย.2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล

ร้านขายยาทั่วประเทศมีประมาณ 20,000 แห่ง อย.จึงได้ดำเนินการลงทะเบียนร้านยาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยตั้งแต่ 14-27 ต.ค.2568 มีลงทะเบียนแล้ว  3,400 แห่ง  ซึ่งร้านยาที่เข้าร่วมโครงการจะมีความพร้อมตามมาตรฐาน โดยต้องเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน และมีเภสัชกรประจำอยู่ตลอดเวลาเปิดทำการ นอกจากนี้ ร้านยาต้องมีความพร้อมที่จะจัดหายาตามใบสั่งแพทย์ให้กับผู้ป่วยได้ ภายใน 24 ชั่วโมง และสามารถติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชนที่ออกใบสั่งแพทย์เบื้องต้นนั้นได้

“อย.จะจัดทำเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันชื่อ ร้านยาใกล้ฉัน”เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วย เพื่อให้สามารถค้นหาและตรวจสอบได้ว่าร้านยาที่เข้าร่วมโครงการอยู่จุดใด เมื่อผู้ป่วยกดเข้าไปในแอปพลิเคชัน จะสามารถทราบเวลาเปิดทำการ และชื่อของเภสัชกรผู้ปฏิบัติหน้าที่ในร้านได้ จึงอยากให้ประชาชนที่นำใบสั่งยาจากรพ.เอกชนมาซื้อจากร้านยาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ก่อน ซึ่งระบบจะเปิดให้บริการได้ทันวันที่จะมีการคิกออฟเรื่องนี้ในวันที่ 4 พ.ย. ”ภญ.สุภัทรากล่าว 

เมื่อถามถึงการเชื่อมต่อการสั่งยาเป็นระบบดิจิทัล ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า เบื้องต้นยังเป็นใบสั่งยาที่เป็นกระดาษก่อน และให้ผู้ป่วยติดต่อกับร้านยา  การเชื่อมต่ออิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบทั้งระบบของรพ.และร้านยา ทั้งนี้การตรวจวินิจฉัยผู้สั่งยาเป็นแพทย์ที่อยู่ในรพ.เอกชน ส่วนร้านยาดำเนินการขายยาตามใบสั่งแพทย์ที่แพทย์ออกใบสั่ง ซึ่งตัวยาที่ร้านยาจะขายให้ผู้ป่วยได้ต้องจำแนกด้วย เพราะยาบางอย่างที่แพทย์สั่งอาจจะไม่สามารถจำหน่ายผ่านร้านยาได้

ทั้งนี้ จะมีทีมอย.และรพ.คอยกำกับดูแลหลังบ้าน เช่น ยาฉีดบางตัวต้องฉีดเฉพาะในสถานพยาบาล ยาบางตัวที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์หรือประเภทยาเสพติดที่ร้านยาไม่มีใบอนุญาติ ที่จำหน่ายได้เฉพาะในรพ.ก็ไม่สามารถจำหน่ายผ่านร้านยาได้ โดยหลัง MOU จะมีการทำงานหลังบ้านร่วมกัน และความคาดหวังในอนาคตก็จะมีการเชื่อมระบบกับหมอพร้อมด้วย

ด้านนพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า  Top of Formรพ.เอกชนมีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกในเรื่องการออกใบรายการยาอย่างละเอียดแก่ผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยสามารถร้องขอรายละเอียดรายการยาได้ นอกเหนือจากใบเสร็จค่าบริการ อย่างไรก็ตาม จะเป็นการดีที่สุดหากคนไข้แจ้งความจำนงค์ในการนำใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยาตั้งแต่พบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ทราบความต้องการ

“หากผู้ป่วยต้องการซื้อยาจากภายนอกแล้วแจ้งแพทย์ ก็จะทำให้ แพทย์อาจจะสั่งยาให้เฉพาะตัวยาที่จำเป็นสำหรับวันเดียว จากนั้นผู้ป่วยก็สามารถนำซองยาหรือใบสั่งยาไปซื้อยาต่อได้ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ายาบางอย่าง อาจไม่มีจำหน่ายนอกโรงพยาบาล ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่บางครั้งแพทย์อาจจะไม่สามารถให้ผู้ป่วยออกไปซื้อยาเองได้  ”นพ.ไพบูลย์กล่าว

นพ.ไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า  แม้ว่าใบเสร็จค่าบริการปกติอาจจะระบุเพียงค่าใช้จ่ายรวม เช่น ค่า ยา แต่ทางโรงพยาบาลก็มีรายละเอียดของตัวยาอยู่แล้ว สำหรับการเบิกประกันสุขภาพเอกชน หรือผู้ป่วยที่ต้องการดูรายละเอียด จะได้รับข้อมูลที่มีทั้ง ชื่อยา จำนวน และราคายา  ดังนั้น ผู้ป่วยที่จ่ายเองก็สามารถขอให้พิมพ์รายละเอียดเหล่านี้ได้

“ปัจจุบันมีจำนวนคนไข้ที่มาใช้บริการในโรงพยาบาลแล้วขอไปซื้อยาจากภายนอกน้อยมาก เนื่องจากผู้ที่มาโรงพยาบาลโดยตรงมักจะมีความมั่นใจในการบริการของโรงพยาบาล มิเช่นนั้นก็คงไปซื้อยาร้านยาหรือคลินิกตั้งแต่แรกไม่มารพ.เอกชน  และคนที่อยู่ในสิทธิบัตรทองหากป้วย 32 อาการก็ไปรับยาที่ร้านยาได้ฟรีอยู่แล้ว จึงคาดว่าประเด็นนี้จะ ไม่กระทบต่อรายได้ของโรงพยาบาลเอกชนอย่างรุนแรง”นพ.ไพบูลย์กล่าว