200 เหลือ 120 นาที ลดรอคอยรักษารพ.รัฐ 'หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ' ยุค 'พัฒนา'

สธ.เร่งรัดนโยบาย “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” เป้าให้บริการลดรอคอย 50 % จาก 200 เหลือ 120 นาที ผลักดันทั่วประเทศของขวัญปีใหม่ 2569
KEY
POINTS
- กระทรวงสาธารณสุขเปิดตัวนโยบาย "หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ" โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ลดขั้นตอนและระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาลรัฐ
- โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเป็นต้นแบบความสำเร็จ สามารถลดเวลารอคอยของผู้ป่วยจากเดิมกว่า 200 นาที เหลือเพียง 120 นาที
- เทคโนโลยีที่นำมาใช้มีทั้งการจองคิวออนไลน์, การแพทย์ทางไกล, การส่งยาทางไปรษณีย์ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน "หมอพร้อม"
- โครงการได้เริ่มนำร่องในโรงพยาบาล 4 เขตสุขภาพแล้ว และมีแผนจะขยายให้ครอบคลุมทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศภายในเดือนมกราคม 2569
ระบบสุขภาพกำลังเผชิญความท้าทายทั้งโรคอุบัติใหม่ ภาระโรคเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น รวมถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ ความอ่อนล้าจากภาระงาน และค่าตอบแทนบุคลากรที่ไม่สอดคล้องกับภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์
ในการเข้ารับตำแหน่งรมว.สาธารณสุขของ “พัฒนา พร้อมพัฒน์” ช่วงเวลารัฐบาล 4 เดือน กำหนดทิศทางยกระดับ “ระบบสุขภาพ” ให้เป็นเสาหลักของความมั่นคงและคุณภาพชีวิตของประชาชน ประกาศนโยบาย 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. “30 บาท รักษาทุกที่ และ ฟอกไตฟรีได้ทุกแห่ง”
2.รอบรู้ เพื่ออยู่อย่างมีคุณภาพชีวิต มีช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงความรอบรู้ด้านสุขภาพ ผ่าน Super App ด้านสุขภาพ และเสริมพลังแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของสธ. ให้เข้าถึงประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 30%
3.หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี
4.เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ พัฒนาสู่การเป็น Medical & Wellness Hub แห่งภูมิภาค พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามของไทยการให้บริการศัลยกรรมตกแต่งและแก้ไข สมุนไพรไทย นวดไทย ไปสู่ตลาดระดับโลก รวมทั้งผลักดันการแพทย์แม่นยำที่ใช้ข้อมูลจีโนมและ AI วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ต่อยอดด้วยผลิตภัณฑ์ทางการแพทยขั้นสูง (ATMPs)
และ 5. ขวัญกำลังใจบุคลากร โดยเร่งดำเนินการเรื่องค่าตอบแทนตามภาระงาน ให้เป็นธรรมและเหมาะสม จัดสรรอัตรากำลังและทีมสนับสนุนให้เพียงพอตามบริบทของพื้นที่ ดูแลสวัสดิการและพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลก รวมถึงปรับปรุงโครงสร้าง กฎหมาย และระบบการทำงานให้ทันสมัย ลดภาระงานที่่ไม่จำเป็น
เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มความสะดวก
ล่าสุด มีการคิกออฟ “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2568 “พัฒนา” กล่าวว่า เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งรัดของสธ.เพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับประชาชน ในการเข้ารับบริการ และช่วยลดภาระงานของบุคลากร
เช่น จองคิวรับบริการผ่านระบบออนไลน์ แจ้งเตือนนัดหมาย บริการการแพทย์ทางไกล ออกใบนัดหมาย/ใบส่งตัวอิเล็กทรอนิกส์ รับยาทางไปรษณีย์หรือ Rider เป็นต้น โดยดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาแอปฯ หมอพร้อม ให้เป็น Super App, นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการปฏิบัติงาน, ใช้ระบบบริหารเชิงยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งประเมินผลความพึงพอใจระบบบริการแบบออนไลน์
“มีกรณีตัวอย่างที่ดำเนินการประสบความสำเร็จแล้วคือที่รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี จากการมาพบแพทย์จนครบถ้วนในการรับบริการ อยู่ที่ 200 กว่านาที หมายความครึ่งวัน แต่ตลอดเมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ลดเวลาการรอคอย เวลาต่างๆลงอยู่ที่ 120 นาทีราว 50 %และมีแนวโน้มบริหารจัดการลดลงได้อีก ก็จะขยายไปรพ.ต่างๆ”พัฒนากล่าว
นำร่อง 4 พื้นที่ ขยายทั่วประเทศปีใหม่
เบื้องต้นมีการนำร่องในโรงพยาบาลของ 4 เขตสุขภาพ ได้แก่ เขตฯ 2 โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก เขตฯ 5 โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี เขตฯ 6 โรงพยาบาลบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเขตฯ 4 โรงพยาบาลศูนย์ /โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง
โดยจัดให้มีระบบนัดหมายออนไลน์อย่างน้อย 4 คลินิกบริการ เช่น ทันตกรรม นวดแผนไทย ฝากครรภ์ วัคซีน กายภาพบำบัด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง คลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการ/Premium Clinic เป็นต้น และจะขยายให้ครอบคลุมทุกโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ในเดือนมกราคม 2569
“กลไกสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงชุมชนได้อย่างแท้จริง จากนี้ก็ต้องขอความร่วมมือบุคลากรและอสม. ที่จะนำบริการ หรือว่าเข้าไปสอน เข้าไปชักจูง ชักชวนชาวบ้าน ประชาชนให้ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งยืนยันถึงความปลอดภัยของการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทุกคน ขอความร่วมมือ เป็นต้นแบบให้กับประชาชน ในการใช้เทคโนโลยีสุขภาพ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ สร้างความ สะดวกสบายแก่ประชาชน”พัฒนากล่าว
บริการสุขภาพดิจิทัล
ด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สธ.มีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการยกระดับโรงพยาบาลอัจฉริยะ ผ่านเกณฑ์ระดับสูงสุดถึง 235 แห่ง และการอบรมหลักสูตร Digital Health Transformation มีบุคลากรผ่านหลักสูตรแล้วกว่า 140 คน ในส่วนของการยกระดับแอปฯ หมอพร้อม เป็น หมอพร้อมพลัส Super App จะรวบรวมบริการ/แอปฯ เกี่ยวกับสุขภาพไว้ด้วยกัน
เช่น ระบบ Health Service ช่วยค้นหาหน่วยบริการ นัดหมาย-แจ้งเตือนออนไลน์ ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ บริจาคออนไลน์ บริจาคอวัยวะ เป็นต้น บริการยกระดับสุขภาพภายใต้ Concept Healthiest เช่น Lifestyle Medicine และหมอพร้อมเครดิต ระบบคะแนนและแคมเปญสุขภาพ รวมไปถึงระบบ Caregiver ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านสาธารณสุข อำนวยความสะดวกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม
สำหรับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี มีการดำเนินการตามนโยบาย “หมอไม่ล้า” ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบ่งเบาภาระงานบุคลากร ใช้ IoT (Internet of Things) วัดสัญญาณชีพอัตโนมัติเข้าระบบเวชระเบียน ตู้บริการอัตโนมัติ (Kiosk) อำนวยความสะดวกด่านหน้า ตรวจสอบสิทธิ์ ออกบัตรคิว ลงทะเบียนที่อยู่จัดส่งยาออนไลน์ “ประชาชนไม่รอ” ให้บริการผ่านแอปฯ หมอพร้อม ในการลงทะเบียนและนัดหมายออนไลน์
ระบบคิวอัจฉริยะเชื่อมต่อทุกบริการ ประเมินความพึงพอใจ แจ้งผลสุขภาพพร้อมแปลผล ยืนยันตัวตนด้วย Health ID “เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” ด้วยระบบ MOPH Refer จังหวัดนนทบุรี ส่งต่อแบบไร้รอยต่อจากโรงพยาบาลชุมชนถึงโรงพยาบาลศูนย์ เชื่อมต่อข้อมูลและมารับบริการแบบผู้ป่วยนัดหมายโดยไม่ต้องทำบัตรและคัดกรอง ระบบติดตามประเมินผล (CRM) เกี่ยวกับระยะเวลาการรอคอยและความพึงพอใจของผู้รับบริการ







