‘ร้านยา’ กว่า 2,200 แห่ง ลงทะเบียน พร้อมรับผู้ป่วย ‘รพ.เอกชน’ มาซื้อยา

‘ร้านยา’ กว่า 2,200 แห่ง ลงทะเบียน พร้อมรับผู้ป่วย ‘รพ.เอกชน’ มาซื้อยา

อย.เผยมีร้านยากว่า 2,200 แห่งลงทะเบียนแล้ว สร้างความมั่นใจมีความพร้อม รองรับผู้ป่วยรพ.เอกชนนำมาใบสั่งยามาซื้อ เตรียมจัดระบบปักหมุดแจ้งจุดร้านใกล้บ้าน อำนายความสะดวกประชาชนตรวจสอบก่อน

ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ให้สัมภาษณ์ว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดทางให้ผู้ป่วยโรงพยาบาลเอกชนเลือกซื้อยาจากร้านยาภายนอกเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน โดย อย. ได้เชิญชวนร้านยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ทั่วประเทศลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า" ตั้งแต่วันที่14 ตุลาคม 2568 โดยสามารถสแกนผ่านทาง QR Code ขณะนี้มีร้านยาลงทะเบียนแล้วกว่า 2,200 แห่ง   

“การดำเนินโครงการนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้ว่า ร้านขายยาที่เปิดทำการจะมีความพร้อมในการให้บริการ  โดยคนไข้ที่ไม่ประสงค์จะซื้อยาจากโรงพยาบาลเอกชน สามารถมาซื้อยาจากร้านขายยาที่ได้มาตรฐานได้” ภญ.สุภัทรากล่าว 

ภญ.สุภัทรา ย้ำว่า ร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรอยู่ประจำนั้น ทุกร้านมีมาตรฐานอยู่แล้ว แต่การเปิดให้ลงทะเบียนในโครงการนี้เป็นการเปิดรับสมัครด้วยความสมัครใจ  เพื่อให้ร้านขายยาที่คิดว่าตัวเองมีความพร้อมจริง ๆ ที่จะให้บริการคนไข้ในกลุ่มนี้ได้เข้ามาเข้าร่วม ร้านที่ลงทะเบียนกับอย.ในโครงการนี้จึงถือว่ามีความพร้อมมาก

เนื่องจากร้านจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน เช่น เรื่องของสต็อกยา และเรื่องการประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชนเกี่ยวกับการส่งมอบใบสั่งยา เป็นการป้องกันไม่ให้คนไข้เดินทางไปร้านขายยาแล้วเสียเที่ยว

ภญ.สุภัทรา กล่าวด้วยว่า  การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเรื่องนี้ อย.จะมีการเซ็ตระบบเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจสอบร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการได้  โดยระบบจะมีการปักหมุด “ร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า" ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้

‘ร้านยา’ กว่า 2,200 แห่ง ลงทะเบียน พร้อมรับผู้ป่วย ‘รพ.เอกชน’ มาซื้อยา

ข้อมูลจะเด้งขึ้นมาและแสดงโลเคชันหรือจุดที่ตั้งของร้านที่เข้าที่ร่วมโครงการว่าอยู่ตรงไหน ใกล้บ้านหรือไม่  ทำให้ประชาชนสามารถโทรศัพท์สอบถามกับเภสัชกรที่อยู่ประจำร้านได้ก่อน เพื่อสอบถามความพร้อม และรายละเอียดของใบสั่งยา หลังจากนั้น เภสัชกรที่ประจำร้านจะประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชนต่อไป ซึ่งระบบต่าง ๆ จะพร้อมดำเนินการทันวันคิกออฟในวันที่ 28  ตุลาคม 2568

อนึ่ง ร้านยาที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นร้านขายยาที่ไม่อยู่ในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาตหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต และไม่จำเป็นต้องเป็นร้านยาคุณภาพ หรือเป็นสมาชิกของสมาคม/ชมรมร้านยาใด ๆ และต้องยืนยันความพร้อมใน 5 ด้านหลัก ดังนี้

  • เป็นร้านยาที่มีเภสัชกรประจำตลอดเวลาที่เปิดทำการ
  • มีความพร้อมด้านยาและการจัดหายาให้ผู้รับบริการ
  • มีช่องทางการติดต่อ สอบถามสำหรับผู้มารับบริการ เพื่อตรวจสอบยืนยัน รายการ จำนวน และราคายาได้ เช่น โทรศัพท์ , ID LINE , โปรแกรมประยุกต์ Telepharmacy
  •  ดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ดีตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมที่กำหนด

     ทั่วประเทศมีร้านขายยาแผนปัจจุบันเกือบ 20,000 แห่ง มีความพร้อมในการจัดบริการจ่ายยาตามใบสั่งยาไม่เท่ากัน บางร้านขายยาไม่เคยมีใบสั่งยามาที่ร้านมาก่อน เกรงว่า เมื่อผู้ป่วยถือใบสั่งยาแล้วไปรับบริการร้านยาที่ไม่พร้อม จะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ หรือได้รับบริการไม่ดี เพื่อความมั่นใจหากผู้ป่วยต้องการนำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลเอกชนมาซื้อเองที่ร้านขายยา ควรตรวจสอบและซื้อที่ร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า ที่ลงทะเบียนกับอย.