เริ่ม 16 ต.ค.นี้ เก็บเงินผู้ป่วยนอก สิทธิบัตรทอง 'รพ.มงกุฎวัฒนะ' ราคารพ.รัฐ

“รพ.มงกุฎวัฒนะ” ย้ำเริ่ม 16 ต.ค.นี้ ผู้ป่วยนอกบัตรทอง ต้องจ่ายเงินเองราคารพ.รัฐ ทางออกต้องเซ็นต์สัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ลั่นสปสช.ทำให้ระบบบัตรทองเกิดรอยร้าวทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2568 ที่รพ.มงกุฎวัฒนะ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ กล่าวว่า วันที่ 16 ต.ค.2568 รพ.มงกุฎวัฒนะ มีความจำเป็นต้องหยุดการให้บริการผู้ป่วยนอก สำหรับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง เป็นการชั่วคราว จนกกว่าสำนักงานหบักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) จะชำระหนี้ค้างจ่ายปีงบประมาณ 2563 และ ปีงบฯ2567 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งไม่ทราบว่าจะชำระเสร็จเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าผู้ป่วยบัตรทองที่จะมารักษารพ.มงกุฎวัฒนะเป็นผู้ป่วยนอกต้องจ่ายเงินเองในราคารพ.รัฐ
สำหรับผู้ป่วยในไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นผู้ป่วยอาการหนัก ต้องนอนรพ. ต้องคลอด ต้องผ่าตัด ต้องสวนหัวใจ ต้องเข้าไอซียู ต้องรักษามะเร็ง ซึ่งมีความซับซ้อนของโรคสูง รพ.มงกุฎวัฒนะจึงยังให้บริการผู้ป่วยในเหมือนเดิม ทั้งคนที่มาจากในเขตกรุงเทพมหานครและนอกเขตกรุงเทพมหานคร
แม้การหยุดรับผู้ป่วยนอกบัตรทอง จะผลกระทบไม่มากแค่คนราว 47,000 คน แต่มีผู้ป่วยบัตรทองที่ยากไร้ ยากจน ที่กัดฟันจ่ายเงินเองไม่ไหว ต้องถูกย้ายสิทธิ ซึ่งได้สำรวจมาแล้วว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ต้องการย้ายสิทธิไปอยู่รพ.อื่นๆ หรือคลินิกอื่นๆ ตามที่สปสช.จัดให้ เพราะต้องเดินทางไกล และต้องขอใบส่งตัวไปรับบริการรพ.ใหม่
“เมื่อผู้ป่วยมีความประสงค์ไม่ขอย้ายสิทธิบัตรทอง รพ.มงกุฎวัฒนะก็ไม่บังคับให้ผู้ป่วยย้ายสิทธิ จึงได้จัดโครงการบัตรทอง แพลตินัมรพ.มงกุฎวัฒนะ ให้ผู้ป่วยกัดฟันพึ่งตนเอง จ่ายเงินเองในราคารพ.รัฐ ลดให้อีก 5 % ถ้าต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ไม่ต้องเสียเงินยังใช้ตามสิทธิบัตรทองได้เหมือนเดิม ด้วยแนวทางนี้ก็จะประคับประคองให้ผู้ป่วยเดือดร้อนน้อยที่สุด ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2568ไปจนถึงวันที่สปสช.ชัดเจนในการชำระหนี้”พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว
กรณีผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทองที่กัดฟันจ่ายเงินเองไม่ได้ รพ.มงกุฎวัฒนะพร้อมจัดเคาร์เตอร์ให้สปสช.มานั่งตอบคำถามและย้ายสิทธิให้ผู้ป่วยว่าจะไปรับบริการที่คลินิก รพ.ไหนอย่างไร และรพ.พร้อมจัดทำสรุปประวัติการรักษาให้ทันที ไม่มีการคิดเงิน รวมถึง จัดหาที่จอดรถให้สปสช.มาจอดรถรับส่งผู้ป่วยไปรับการตรวจรักษาในหน่วยบริการที่สปสช.กำหนดไว้ เป็นแนวทางที่รพ. อำนวยความสะดวกให้
ส่วนผู้ป่วยโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งรักษาได้เหมือนเดิม เพราะใช้สิทธิโครงการ cancer anywhereได้ ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ฟอกเลือดล้างไตที่รพ.มงกุฎวัฒนะ ยังรักษาได้ตามปกติ ผู้ป่วยคนพิการจากทุกเขต ยังรักษาได้ตามปกติ แม้การจ่ายกรณีนี้ของสปสช.จะเป็ฯแบบระบบแต้ม ผู้ป่วยเอดส์/เอชไอวียังรักษาได้ตามปกติ แต่เป็นนโยบายรพ.มงกุฎวัฒนะสำหรับผู้ป่วยโรคร้ายแรงและคนพิการ ถือเป็นความตั้งใจของรพ.ที่ให้บริการเหมือนเดิม
พล.นพ.เหรียญทอง กล่าวด้วยว่า ผู้มีสิทธิบัตรทองขึ้นตรงที่รพ.มงกุฎวัฒนะประมาณ 47,000 คน มารับบริการผู้ป่วยนอกราว 1 %ต่อวัน หรือ ราว 500 คนต่อวัน และในช่วง 7 เดือนนับตั้งแต่ 1 ก.พ.2568 ที่รพ.มงกุฎวัฒนะไม่รับส่งต่อผู้ป่วย พบว่า ผู้ป่วยจ่ายเงินเองในราคารพ.รฐ เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง เนื่องจากไม่ไปรับบริการ ในเมืองเพราะเสียค่ารถจำนวนใกล้เคียงกับค่ารักษาผู้ป่วยนอกของรพ.มงกุฎวัฒนะ และไม่ต้องขอใบส่งตัว
ดังนั้น ตั้งแต่ 16 ต.ค.นี้ เชื่อว่าจะยังมีผู้ป่วยนอกบัตรทองใช้บริการที่รพ.มงกุฎวัฒนะอยู่ 80 % หรือ400 คนต่อวัน อีก 100 คนคาดว่าจะกัดฟันพึ่งตนเองไม่ได้ จาก 47,000 คน ก็ราว10,000 คนจะย้ายสิทธิไปขึ้นตรงกับรพ.หรือคลินิกอื่นที่สปสช.จัดให้
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวอีกว่า แนวทางออกของปัญหา กรณีเฉพาะรพ.มงกุฎวัฒนะ สปสช.ต้องจัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาเช็คยอดหนี้ที่แท้จริง แล้วชำระหนี้ ถ้าไม่มีเงินชำระให้แบ่งงวดชำระ โดยรพ.ไม่คิดดอกเบี้ย แต่ต้องเซ็นต์สัญญาปรับโครงสร้างหนี้กัน และเดินตามแผนเจรจาประนอมประหนี้ หากดำเนินการนี้เรียบร้อย ก็เดินหน้าให้บริการต่อทันที
ย้ำว่าหนี้ตอนนี้ของปี 2563 เหลืออีก 8 ล้านกว่าบาท ซึ่งจะให้รพ.ไปทวงหนี้กับคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ถูกสปสช.ยกเลิกไปไม่ได้ เพราะคลินิกจะไม่ใช่ลูกหนี้รพ.มงกุฎวัฒนะ เพราะไม่ใช่คู่สัญญากับรพ. แต่รพ.เป็นคู่สัญญากับสปสช. เพราะฉะนั้น รพ.ต้องทวงหนี้จากสปสช.
ส่วนปีงบฯ 2567 จำนวน 41.7 ล้านบาทซึ่งต้องมาเช็คกัน เพราะยังไม่ได้รวมค่าแพทย์ ค่าบริการรพ. ทั้งที่จริงต้องได้ 60 ล้านบาท แต่ก็จะขอพูดที่ 41.7 ล้านบาทตามสปสช.ก่อน และปีงบฯ 2568 อีกราว 80 ล้านบาท รวมแล้วก็ยังเหลืออีกเป็น 100 ล้านบาท
“การที่สปสช.ปล่อยให้หน่วยบริการไปเผชิญปัญหา เผชิญคนไข้เอง เป็นการใช้ไม่ได้ แต่รพ.มงกุฎวัฒนะจะไม่ทิ้งคนไข้ โดยรพ.ไม่เลิกจากระบบบัตรทอง เพราะแม้จะรังเกียจสปสช. แต่ไม่เคยรังเกียจประชาชน ซึ่งประชาชนไม่ควรเป็นตัวประกันของสปสช. แต่ก็ช่วยได้เพียงส่วนหนึ่ง ในการให้กัดฟันจ่ายเงินเองในราคารพ.รัฐ”พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว
พล.นพ.เหรียญทอง กล่าวด้วยว่า ตราบใดที่รพ.เดือดร้อน หมายความว่าประชาชนเดือดร้อน เนื่องจากระบบบัตรทองจะไปได้ต้องผูกกันด้วย 3 ส่วน คือ ประชาชน รพ./ผู้ให้บริการ และสปสช.ผู้บริหารการจ่ายเงิน ซึ่งวันนี้ระบบบัตรทอง ไม่ได้ล่มสลาย แต่มีรอยร้าว แต่ถ้าปล่อยไว้จะล่ม และการออกมาพูดของรพ.มงกุฎวัฒนะ ก็เพื่อรพ.ทั่วประเทศด้วย ไม่ให้ระบบหลักประกันสุขภาพฯล่ม
“ตอนนี้ที่รพ.มงกุฎวัฒนะขาประชาชนกับรพ.อยู่ด้วยกัน จะเขี่ยสปสช.ออก ถ้าจะเป็นโมเดลให้ทั่วประเทศเป็นเช่นนี้หมด นั่นหมายความระบบบัตรทองล่มสลาย คนที่เดือดร้อนที่สุดอยู่ที่ประชาชน ถ้าไม่อยากล่มต้องรีบหยุดรอยร้าวต้องซ่อมด่วน”พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว







