20-50 % สูงวัยทุพโภชนาการ ผู้มีอาการปวดเรื้อรังเสี่ยงกว่า 4.9 เท่า แนะทำ 9 ข้อ

20-50 % สูงวัยทุพโภชนาการ ศึกษาพบผู้มีดัชนีมวลกายต่ำกว่ากณฑ์ มีโอกาสเกิดภาวะทุพโภชนาการสูงกว่ากลุ่มน้ำหนักเกินถึง 130 เท่า - ผู้มีปัญหาทางเดินอาหาร 3.6 เท่า -ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง 4.9 เท่า กรมอนามัยแนะทำ 9 ข้อ
KEY
POINTS
- ผู้สูงอายุทั่วโลกมีภาวะทุพโภชนาการสูงถึง 20-50% ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิต
- ผลการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุที่มีอาการปวดเรื้อรัง มีความเสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการสูงกว่าผู้ที่ไม่มีอาการถึง 4.9 เท่า
- กรมอนามัยได้แนะนำหลักโภชนบัญญัติ 9 ข้อสำหรับผู้สูงอายุเพื่อสุขภาพที่ดี เช่น กินอาหารหลากหลาย ลดหวาน มัน เค็ม และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ภาวะทุพโภชนาการ เป็นสภาวะของร่างกายที่เกิดจากการได้รับอาหารที่ไม่ครบถ้วน หรือมีปริมาณ ที่ไม่เหมาะกับความต้องการของร่างกาย หรืออาจเกิดจากที่ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนพอเหมาะ แต่ร่างกายไม่สามารถใช้สารอาหารนั้นได้ แบ่งออกเป็น
ภาวะโภชนาการต่ำ หรือ ภาวะขาดสารอาหาร เป็นผลมาจากการได้รับพลังงานจากโปรตีน หรือสารอาหารรองไม่เพียงพอ ทำให้ความแข็งแรงน้อยลง เกิดภาวะแคระแกร็น และน้ำหนักไม่เหมาะสมกับอายุ ผอมเกินไป
ภาวะโภชนาการเกิน หรือ ภาวะอ้วน คือ สภาวะของร่างกาย ที่เกิดจากการได้รับอาหารหรือสารอาหารบางอย่างเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เกิดการสะสมพลังงาน หรือสารอาหารบางอย่างไว้จนเกิดโทษแก่ร่างกาย เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน โรคหัวใจ และหลอดเลือด เป็นต้น
20-50 % ผู้สูงอายุทั่วโลก ภาวะทุพโภชนาการ
ในประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 18 “โภชนาการกับการกินดี มีสุข Nutrition and Holistic Well-Being” เมื่อเร็วๆนี้ มีการนำเสนอผลการศึกษาภาวะโภชนาการและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะทุพโภชนาการในผู้สูงอายุ ณ คลินิกหมอครอบครัวดเขตอำเภอเมือง จ.ตรัง โดยพญ.ทัศน์ยา แคนยุกต์ นายแพทย์ชำนาญการ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม รพ.ตรัง
การศึกษาชิ้นนี้ ระบุว่า ภาวะทุพโภชนาการเป็นปัญหาสำคัญในผู้สูงอายุทั่วโลก ความชุกสูงถึง 20-50 % ส่งผลกระทบ สุขภาพโดยรวม คุณภาพชีวิต เพิ่มอัตราการเกิดภาวะแทรกช้อน เสี่ยงต่อการหกล้ม การเสื่อมถอยของสมอง
การศึกษาเรื่องนี้ 1. เพื่อศึกษาภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุที่มารับบริการ ณ คลินิกหมอครอบครัว เขตอำเภอเมือง จังหวัดตรัง และ2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะทุพโกชนาการในผู้สูงอายุ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เข้ารับบริการ ณ คลินิกหมอครอบครัวเดือน ส.ค. 2567 -พ.ค. 2568 จำนวน 1,000 คน
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะทุพโภชนาการ
ผลการศึกษา
พบว่า 1. ภาวะโภชนาการ ปกติ 71.5% เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร 23.6 % ขาดสารอาหาร 4.9 %
2. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะทุพโภชนาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่
- BMI(ดัชนีมวลกาย) ผู้สูงอายที่มี BMI ต่ำกว่ากณฑ์ มีโอกาสเกิดภาวะทุพโภชนาการสูงกว่ากลุ่มน้ำหนักเกินถึง 130 เท่า
- Cancer ผู้ที่มีโรคมะเร็งมีความเสี่ยงสูงกว่า
- Exercise: ผู้ที่ไม่อออกกำลังกาย/ออกเป็นครั้งคราว มีความเสี่ยงสูงกว่า
- Gastric Problems: ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร มีโอกาสเกิดภาวะทุพโภชนาการสูงกว่าผู้ที่ไม่มีปัญหาถึง 3.6 เก่า
- Chronic Pain: ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง มีโอกาสเกิดภาวะทุพโภชนาการสูงกว่าผู้ที่ไม่มีอาการถึง 4.9 เท่า
ความชุกของภาวะโภชนาการผิดปกติในผู้สูงอายุ อยู่ที่ 28.5 % ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาอื่นๆทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาซาติ โดยดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวชี้วัดหลักในการบ่งชี้ ภาวะทุพโภชนาการ ส่วนปัจจัยทางคลินิกและพฤติกรรมสุขภาพ มีความสำคัญต่อสถานะโภชนาการของผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ การเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง ปัญหาทางเดินอาหาร อาการปวดเรื้อรัง และพฤติกรรมการออกกำลังกาย
สังเกตสูงวัยเกิดภาวะทุพโภชนาการ
ขณะที่ รพ.นครธน ระบุถึง สัญญาณและอาการจะแสดงตามประเภทสารอาหารที่ขาด โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ผู้สูงอายุที่มีภาวะโภชนาการต่ำ ได้แก่ น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ มีความอยากอาหารลดลง ผมร่วง ซีด ใจสั่น เวียนศีรษะ อ่อนแรง รู้สึกเพลียตลอดเวลา และอาจเป็นลมหมดสติ เจ็บป่วยง่ายและหายช้ากว่าปกติ มีปัญหาในการย่อยอาหารและการหายใจ ชาที่ข้อต่อ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น ไม่มีสมาธิ วอกแวกง่าย ทำกิจกรรมต่างๆ ช้า หงุดหงิด หรือวิตกกังวลผิดปกติ มีอาการซึมเศร้าหรือรู้สึกหดหู่ใจ เป็นต้น
ผู้สูงอายุที่มีภาวะโภชนาการเกิน ได้แก่ เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในร่างกายปริมาณมาก หายใจติดขัด หายใจไม่คล่อง นอนกรนจากปัญหาเรื่องการหายใจ เหนื่อยง่าย ร้อนง่าย เหงื่อออกง่ายและออกมาก เคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก เป็นต้น
ทำ 9 ข้อโภชนบัญญัติ
ทั้งนี้ กรมอนามัย ได้แนะนำ การดูแลสุขภาพสำหรับสูงวัย (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) ตามหลักโภชนบัญญัติสำหรับผู้สูงอายุ 9 ข้อ ดังนี้
1.กินอาหารให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
2.กินข้าวเป็นหลัก เน้นที่ข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง (ข้าวกข.43 ข้าวไรซ์เบอร์รี่)
3.กินผัก และ ผลไม้ ตามฤดูกาลเป็นประจำ
4.กินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
5.ดื่มนมรสจืด แคลเซียมสูง วันละ 1-2 แก้ว
6.ลดกิน หวาน มัน เค็ม ชิมก่อนปรุงเพิ่ม
7.ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว (แก้วละ 200 มิลลิลิตร) ต่อวัน
8.กินอาหารสด สะอาด ปรุงสุกใหม่
9.งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
นอกจากจะดูแลกินดีแล้ว อย่าลืมเสริมด้วยกายดี โดยการออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที หรืออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เลือกกิจกรรมที่ชอบและทำได้จริง เพื่อให้ต่อเนื่อง เริ่มจากเบา ๆ แล้วเพิ่มระดับความหนักตามกำลัง เพื่อสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพที่ดี ลดเลี่ยง เสียง โรค NCDs แต่ต้องสังเกตอาการของร่างกาย หากเหนื่อยผิดปกติ เจ็บแน่นหน้าอก หรือเวียนศีรษะ ควรหยุดและปรึกษาแพทย์ทันที







