'วัคซีน'ในไทยปลอดภัย สารกันเสีย -สารกระตุ้นภูมิ ไม่เพิ่มเสี่ยงออทิสติก-โรคร้ายแรง

กรมควบคุมโรคย้ำ วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยปลอดภัย มีประสิทธิภาพ สารกันเสีย “ไธเมอโรซอล” -สารกระตุ้นภูมิ “อะลูมิเนียม” ไม่เพิ่มความเสี่ยงออทิสติก-โรคร้ายแรงอื่นๆ
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับ"วัคซีน" โดยอ้างว่าวัคซีนไม่มีความจำเป็นและอาจก่ออันตรายต่อผู้รับนั้น
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2568 นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง วัคซีนทุกชนิดที่นำมาใช้ในประเทศไทย ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
ในวัคซีนบางชนิดอาจมีการใช้ ไธเมอโรซอล (Thimerosal) ซึ่งเป็นสารกันเสียในปริมาณน้อยมาก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ยืนยันตรงกันว่า ปริมาณไธเมอโรซอลที่ใช้ในวัคซีนปลอดภัย ไม่สะสมในร่างกาย ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดออทิสติกหรือโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามที่มีข่าวลือ
และวัคซีนบางชนิดมีการใช้ อะลูมิเนียม (Aluminium) เป็นสารช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (adjuvant) ซึ่งมีการใช้มาอย่างปลอดภัยทั่วโลกมากว่า 70 ปีแล้ว ผลการศึกษาและข้อมูลวิชาการยืนยันว่า ปริมาณอะลูมิเนียมที่อยู่ในวัคซีนมีน้อยมาก ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงเช่นเดียวกับสารกันเสียไธเมอโรซอล ที่ใช้ในบางวัคซีนซึ่งปลอดภัยเช่นกัน
ผลข้างเคียงที่พบจากวัคซีนส่วนใหญ่เป็นอาการเล็กน้อย เช่น เจ็บ บวม แดงบริเวณที่ฉีด หรือมีไข้ต่ำ ซึ่งหายได้เอง ส่วนเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์รุนแรงพบได้น้อยมาก และมีระบบเฝ้าระวังติดตามอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ข้อมูลทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศยืนยันว่า ประโยชน์ของวัคซีน มีมากกว่าความเสี่ยงอย่างชัดเจน วัคซีนสามารถลดการเจ็บป่วยรุนแรง ลดการเสียชีวิต และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ






