2 รมต.สธ.หน้าใหม่ เร่งเครื่องลุยนโยบายสาธารณสุข ยกระดับระบบสุขภาพ

2 รมต.สธ.หน้าใหม่ เร่งเครื่องลุยนโยบายสาธารณสุข ยกระดับระบบสุขภาพ

 2 รมต.สธ.เข้ารับตำแหน่งวันแรก ลุยยกระดับระบบสุขภาพ ใช้ AI และ IoT ช่วยแบ่งเบาภาระงานบุคลากร-ลุยประกันสุขภาพแรงงานต่างชาติ

เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 26 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข เข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะถือฤกษ์นั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง พร้อมจรดปากกาในเวลา 09.09 น. และได้มีการอัญเชิญพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เข้าไปในห้องทำงานนายพัฒนาด้วย ทั้งนี้ มีคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นำโดยนพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ว่าที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คนใหม่ให้การต้อนรับ

นายพัฒนา กล่าวว่า นโยบายหรือทิศทางสธ. จะมุ่งยกระดับระบบสุขภาพ คือ 1.การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่างๆ ให้ประชาชนดูแลตัวเองได้ เมื่อประชาชนมีความรู้ก็จะลดการมาพบแพทย์ ภาระงานจะลดลง

2 รมต.สธ.หน้าใหม่ เร่งเครื่องลุยนโยบายสาธารณสุข ยกระดับระบบสุขภาพ

2.นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ทั้งการพัฒนาระบบสุขภาพที่รวดเร็ว แม่นยำและเชื่อมโยง ระบบบริหารงานสุขภาพอัจฉริยะ ลดความซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ ตั้งแต่ระดับนโยบาย งบประมาณ ไปจนถึงการจัดซื้อจัดจ้าง และระบบดูแลสุขภาพเชิงรุกที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว เข้าถึงได้แบบเบ็ดเสร็จ รวมทั้งใช้ AI และ IoT ช่วยแบ่งเบาภาระงานบุคลากร เป็นระบบสาธารณสุขที่ “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการ ผ่านเทคโนโลยี

3.ให้ระบบสาธารณสุขไทย เป็นพลังขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศ ทั้ง Medical & Wellness Hub การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์แม่นยำ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ระดับสูง

และ 4.ดูแลบุคลากรสาธารณสุขและ อสม. ที่ช่วยขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศ โดยการเพิ่มกำลังคนและทีมสนับสนุน ทั้งผู้ช่วยแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่หน้างาน, ปรับระบบค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม ตามภาระงานจริง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงาน ในพื้นที่ห่างไกล และปรับโครงสร้างการทำงาน กฎหมาย ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้เหมาะกับภาระงานและเป็นปัจจุบัน ใช้เทคโนโลยีลดภาระงาน ให้บุคลากรมีเวลากับผู้รับบริการมากขึ้น

นายพัฒนา กล่าวด้วยว่า นโยบายใดที่เป็นประโยชน์ เป็นเรื่องดีกับประชาชน ตนพร้อมจะทำต่อ ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ หรือเรื่องอื่นๆ เมื่อได้ร่วมทำงานกับผู้บริหารทุกท่านแล้ว สิ่งดีๆ ทำต่อแน่นอน ในส่วนของนโยบายที่ตนจะมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุขนั้น ขอให้รอการแถลงนโยบายจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน แต่เบื้องต้นจะเน้นเรื่องนโยบายการใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้น เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วย

รวมถึงการส่งเสริมป้องกันโรค การส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ การดูแลเรื่องเวลล์เนส (Wellness) ให้สอดคล้องกับนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อีกส่วนหนึ่งคือการดูแลบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้มีความเป็นอยู่ที่พร้อมออกไปดูแลสุขภาพชาวไทยอย่างเต็มความสามารถ ไปจนถึงดูแลเรื่องค่าตอบแทน แต่ในรายละเอียดต่างๆ ตนจะให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้า

ด้าน นายวรโชติ กล่าวว่า ทิศทางการทำงานจะเน้น 1. อสม. เป็นกำลังหลักของประเทศ จากนี้ไป อสม.จะไม่ใช่อสม.ธรรมดาอีกต่อไป แต่เราจะพัฒนาให้ อสม. เป็นผู้ช่วยแพทย์ ดูแลผู้สูงอายุ ดูแลประชาชนมากขึ้นอีกระดับ จากนี้ไปปัญหาประชาชนที่ผ่าน อสม. จะได้รับการแก้ไขรวดเร็วขึ้น ที่สำคัญต้องมีกฎหมายคุ้มครอง พร้อมดูแลสวัสดิการค่าตอบแทนต่างๆ 

2. การปราบปรามสิ่งเถื่อนในกระทรวงฯ ในระบบสาธารณสุข คือ พวกหมอเถื่อน คลินิกเสริมความงามเถื่อน ยาเถื่อน จะปราบปรามอย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องที่ตรงกับความต้องการของทุกคนในกระทรวงอยู่แล้ว” นายวรโชติกล่าว

และ 3. เรื่องแรงงานต่างชาติ เป็นเรื่องใหญ่ ต้องให้มีการซื้อประกันสุขภาพและมีระบบเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อติดตามตรวจสอบได้ รวมถึงแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวนอกระบบ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพคนไทย และความมั่นคงของระบบสาธารณสุข ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาเป็นภาระของประเทศต้องสูญเสียงบประมาณถึง 5.3 พันล้านบาท ต่อไปนี้ทุกคนที่เข้ามา ต้องเข้าสู่ระบบถูกต้อง