แต้มต่อ-ดาวเด่น ‘ผลิตภัณฑ์สุขภาพ’ ไทยยกระดับรุกส่งออก

แต้มต่อ-ดาวเด่น ‘ผลิตภัณฑ์สุขภาพ’ ไทยยกระดับรุกส่งออก

สมุนไพรไทยมูลค่าตลาด 1,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขยายตัวเฉลี่ย 6% ถึงปี 2572 ส่วนสินค้ากลุ่มความงาม และดูแลส่วนบุคคล ปี 2567 ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 6%  3 หน่วยงาน MOU เร่งพัฒนา-ส่งเสริมส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพ

KEY

POINTS

  • เศรษฐกิจสุขภาพทั่วโลกเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี ไทยมีแต้มต่อด้านทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น สมุนไพรไทยมูลค่าตลาดสูงถึง 1,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใหญ่ที่สุดในอาเซียน คาดขยายตัวเฉลี่ย 6% ถึงปี 2572
  • สินค้ากลุ่มความงาม และดูแลส่วนบุคคลของไทยยังคงเป็นดาวเด่น ในปี 2567 มียอดส่งออก 3,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน เป็นฐานที่แข็งแกร่งในการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผสมผสานสมุนไพรไทยและมาตรฐานสากล
  • 3 หน่วยงาน MOU ผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพไทยสู่เวทีโลก ย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเต็มระบบจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐาน ทรัพย์สินทางปัญญา และการส่งเสริมการตลาด

ปี 2567 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 3.529 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์สุขภาพมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่ากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการพัฒนาอุตสาหกรรม “ผลิตภัณฑ์สุขภาพ” เพื่อการส่งออก

อย่างไรก็ตาม การจะผลักดันให้การส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพไทยเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเต็มระบบระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน ทรัพย์สินทางปัญญา และการส่งเสริมการตลาด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)  3 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และ กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จำนวน 2 ฉบับ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล และมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องบนเวทีโลก

เสริมสร้างศักยภาพ 3 มิติ

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า  ในปี 2567 อย.ได้เร่งสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศผ่านความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) โดยพยายามสร้างและกระตุ้นระบบนิเวศสำหรับการเกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเศรษฐกิจฐานรากได้มาตรฐาน และสามารถส่งออกได้

รวมถึง สนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ให้เข้าสู่ธุรกิจ ซึ่งการจะทำให้อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทยพัฒนา และเติบโตอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องขยายตลาด ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ความร่วมมือระหว่าง อย. กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ กรมทรัพย์สินทางปัญญาครั้งนี้ มุ่งเน้นเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สุขภาพใน 3 มิติ ได้แก่

  • การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้ดำเนินงานตามมาตรฐานทั้งในประเทศ และระดับสากล ซึ่งเป็นภารกิจของ อย.
  • การขยายโอกาสทางการค้าในต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับภารกิจของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สร้างโอกาสในการค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การจับคู่ธุรกิจ และการแสดงสินค้า
  • การคุ้มครองและส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ทางทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ ซึ่งอยู่ภายใต้ภารกิจของกรมทรัพย์สินทางปัญญา

แต้มต่อ-ดาวเด่นผลิตภัณฑ์สุขภาพไทย

ขณะที่ น.ส.สุนันทา กังวานกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในปี 2566 ภาพรวมเศรษฐกิจสุขภาพทั่วโลกที่ใหญ่โตถึง 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังสถานการณ์โควิด-19 เติบโตเฉลี่ย 9 % ต่อปี ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งที่เป็นแต้มต่อด้านทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะสมุนไพรไทยที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 6% ไปจนถึงปี 2572

นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มความงาม และดูแลส่วนบุคคลของไทยยังคงเป็นดาวเด่น โดยในปี 2567 มียอดส่งออก 3,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นฐานที่แข็งแกร่งในการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผสมผสานสมุนไพรไทย และมาตรฐานสากล

แพลตฟอร์มเจาะตลาดเชิงรุก

ความร่วมมือครั้งนี้อยู่บน 3 เสาหลักเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ

1. มาตรฐานและความเชื่อมั่น  อย.จะทำงานเชิงรุกกับเครือข่ายทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อขยายความร่วมมือในการกำกับดูแลให้ผลิตภัณฑ์สุขภาพไทย เช่น สมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง และอุปกรณ์การแพทย์ ได้รับการยอมรับเร็วขึ้น ล่าสุด อย.ได้ลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศ เพื่อลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้นำเข้า และผู้บริโภค

2. การตลาดและการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะเร่งขับเคลื่อนแพลตฟอร์มเจาะตลาดเชิงรุก ทั้งการเจรจาธุรกิจแบบ B2B การแสดงสินค้า ไปจนถึงแคมเปญส่งเสริมแบรนด์ไทยในตลาดเป้าหมาย โดยเกาะกระแสสุขภาพโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป

3. การผนึกกำลัง (Synergy) อย.และ DITP จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการกำหนดผลิตภัณฑ์สุขภาพเป้าหมาย เพื่อคัดเลือกและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ โดยมุ่งเน้นมาตรฐานสากลและยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่ผู้บริโภคทั่วโลกกำลังมองหา

เกราะป้องกัน-ส่งเสริมนวัตกรรม

ด้าน น.ส.นุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุนระบบทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมีภารกิจสำคัญ 4 ด้าน

1. ส่งเสริมการสร้างสรรค์  ผ่านการให้ความรู้ความเข้าใจด้านทรัพย์สินทางปัญญา และมีศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นศูนย์ One Stop Service สำหรับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและวิจัย เพื่อให้ความรู้แก่นักวิจัยตั้งแต่เริ่มกระบวนการคิดค้น

2. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ กรมฯ สนับสนุนให้มีการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ มีเครื่องมือค้นหาข้อมูลสิทธิบัตรเพื่อดูแนวโน้ม และจัดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงแพลตฟอร์ม IP Fair ที่เป็นศูนย์กลางให้นักคิดนักสร้างสรรค์ได้พบปะและแลกเปลี่ยนทรัพย์สินทางปัญญา

3. คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา  พัฒนากฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และมาตรฐานสากล กรมฯ ยังพัฒนาระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาโดยนำเทคโนโลยี เช่น e-service, AI, และ Big Data มาช่วยให้การจดทะเบียนสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. เสริมสร้างและปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมศุลกากร, DSI, และกระทรวงดิจิทัล เพื่อจัดการกับการละเมิด ในมิติระหว่างประเทศ กรมฯ มีความร่วมมือกับหน่วยงานทรัพย์สินทางปัญญาในหลายประเทศ รวมถึงอาเซียนและจีน เพื่อดูแลสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาของไทย

“เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการยกศักยภาพด้านนวัตกรรมของไทยในอุตสาหกรรมสุขภาพ สร้างผลงานที่ใช้ประโยชน์ได้จริง เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความมั่นคงพึ่งพาตนเองด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศ”น.ส.นุสรา กล่าว 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์