สธ.สรุปเบื้องต้น 146 ล้านบาท ความเสียหายรพ.เตรียมใช้ฟ้องกัมพูชา

สธ.สรุปเบื้องต้น 146 ล้านบาท ความเสียหายรพ.เตรียมใช้ฟ้องกัมพูชา

สธ.สรุปเบื้องต้นความเสียหายรพ.เตรียมใช้ฟ้องกัมพูชา 146 ล้านบาท พร้อมให้โควตาพิเศษเรียนฟรี ทายาททหาร-ตำรวจ เสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บ เหตุสู้รบไทย-กัมพูชา

KEY

POINTS

  • กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สรุปมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นจำนวนเงิน 146 ล้านบาท
  • ความเสียหายแบ่งเป็นค่าสิ่งก่อสร้าง 46 ล้านบาท โดยเฉพาะโรงพยาบาลพนมดงรัก และค่าวัสดุต่างๆ 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมครุภัณฑ์ทางการแพทย์
  • ข้อมูลความเสียหายดังกล่าวจะถูกรวบรวมเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับประเทศกัมพูชาตามข้อสั่งการของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 8/2568 ถึงกรณี สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ประเมินความเสียหายที่เกิดจากการสู้รบ โดยจะยกร่างเตรียมฟ้องทางอาญา แพ่ง กับกัมพูชา ทั้งในประเทศและระดับโลกนั้น  

สธ.มีการประเมินเบื้องต้น ทั้งสิ่งก่อสร้าง วัสดุ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์  อย่างสิ่งก่อสร้างที่เสียหายมากที่สุด คือ รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ประมาณ 46 ล้านบาท ส่วนค่าวัสดุต่างๆ ทั้งหมด 100 ล้านบาท และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องเอ็กซเรย์ เครื่องมือแพทย์ ยังไม่ได้ประเมิน  เบื้องต้นจึงอยู่ที่ 146 ล้านบาท ก็ต้องดำเนินการฟ้องเขมร ที่ทำกับประเทศไทย 

ส่วนการประเมินความเสียหายจาก พายุวิภา ทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนืออย่างหนัก ความเสียหายที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ จ.น่าน เสียหาย 275 ล้านบาท  ซึ่งจะสำรวจความเสียหายทั้งหมดอีกครั้ง

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องติดตามในวันที่ 7 ส.ค. 2568  จะมีการเจรจาหารือทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้กรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ระหว่างสองฝ่าย หากได้ข้อสรุป และประชาชนในศูนย์พักพิง ต้องอพยพกลับบ้านเรือน ทางสธ. ก็จะมีการติดตามคอยดูแล โดยสธ.เตรียมทีมบุคลากรคอยดูแลประชาชน 1,182 ทีม และยังมีทีมจิตอาสาของกระทรวงสาธารณสุขอีก 1,987 คน หากได้สัญญาณว่าเข้าพื้นที่ได้จะไปดำเนินการทันที

ถามถึงกรณีการเตรียมมอบโควตา และสิทธิพิเศษทางการศึกษาของสถาบันพระบรมราชชนก(สบช.) จากกรณีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สธ.มีโครงการผลิตแพทย์และทีมนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัว ตอบสนองต่อระบบสุขภาพปฐมภูมิทั่วไป เป็นแผนการผลิตบุคลากร 10 ปี

ซึ่งจะมีการให้โควตาพิเศษ แต่อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด  ต้องรอรวบรวมข้อมูลก่อน เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย อย่างคณะแพทยศาสตร์ ในการผลิตแพทย์ต้องดูว่า คนที่มารับโควตาสามารถเรียนแพทย์ได้หรือไม่ แต่ยังมีวิชาชีพอื่นๆ เช่น พยาบาล ก็มีการพูดถึงโควตาเช่นกัน

“มีการหารือในที่ประชุมว่า อย่างทหารที่ปฏิบัติงานจากชายแดนและเสียชีวิต จะมีการให้โควตาทายาท ลูก ภรรยา เข้ารับราชการได้ แต่ต้องดูระเบียบด้วย เพราะปัจจุบันยังไม่มีระเบียบที่ชัดเจน แต่สธ. มองถึงความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือและสนับสนุนเรื่องนี้ในการให้โควตาเรียนฟรี ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดก่อน” นายสมศักดิ์ กล่าว

อนึ่ง ในที่ประชุมผู้บริหารสธ.นั้น สถาบันพระบรมราชชนก ได้เสนอเรื่องพิจารณาขออนุมัติหลักการ โครงการมอบโควตาและสิทธิพิเศษทางการศึกษา สถาบันพระบรมราชชนก กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้โครงการผลิตแพทย์และทีมนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัว ตอบสนองต่อระบบสุขภาพปฐมภูมิทั่วไทย (9 หมอ)

ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับอนุมัติมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567โครงการผลิตแพทย์และทีมนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัวตอบสนองต่อระบบสุขภาพปฐมภูมิทั่วไทย จำนวน โดยมีแผนการผลิตบุคลากรด้านสุขภาพ วงเงินทั้งสิ้น37,234,480,000 บาท ระยะเวลา 10 ปี รวมจำนวน 62,000 คน (ปีการศึกษาละ 6,200คน)

จากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน ไทย- กัมพูชา ที่ปะทุตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง แม้ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568 แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีข้อกล่าวหาที่อ้างว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน เมื่อครบหนึ่งสัปดาห์ของเหตุปะทะที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ตลอดจนความเสียหายในด้านต่าง ๆ ทั้งทางเศรษฐกิจ สาธารณสุขการศึกษา

จากสถานการณ์ดังกล่าว สถาบันพระบรมราชชนก จึงได้เล็งเห็นความสำคัญและจะดำเนินการ และได้ดำริให้ดำเนินการ โครงการมอบโควตาและสิทธิพิเศษทางการศึกษา สถาบันพระบรมราชชนก กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้โครงการผลิตแพทย์และทีมนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเวชศาสตร์ครอบครัว ตอบสนองต่อระบบสุขภาพปฐมภูมิทั่วไทย (9 หมอ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพื่อให้โอกาสทางการศึกษา

เสนอคณะกรรมการเพื่อโปรดพิจารณา

1. ให้โควตา และสิทธิพิเศษ สำหรับ บุตร ธิดา คู่สมรส หรือพี่น้องร่วมสายโลหิตของข้าราชการทหารผู้ที่เสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีหรือต่ำกว่าปริญญาตรี โดยเข้าศึกษา ฟรี ตลอดระยะเวลาของหลักสูตร

2.ให้โควตา และสิทธิพิเศษ สำหรับ บุตร ธิดา คู่สมรส หรือพี่น้องร่วมสายโลหิตของข้าราชการ ตำรวจตระเวนชายแดน และประชาชนที่เสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันในสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีหรือต่ำกว่าปริญญาตรี โดยเข้าศึกษา ฟรี ตลอดระยะเวลาของหลักสูตร

3. เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้บรรจุเป็นข้าราชการเมื่อสำเร็จการศึกษา และกลับไปปฏิบัติงาน ณ รพ.สต.ที่บ้านเกิด (ภายใต้โครงการฯ 9 หมอ)