2 บิ๊กโปรเจกต์ ‘ศิริราช’ งบประมาณ 2 หมื่นล้าน ดำเนินการ 2 ทำเล

2 บิ๊กโปรเจกต์ ‘ศิริราช’ งบประมาณ 2 หมื่นล้าน ดำเนินการ 2 ทำเล

“ศิริราช”เดินหน้า 2 โปรเจกต์ใหญ่ ใน 2 ทำเล งบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท “อาคารรพ.สถานีรถไฟฟ้าศิริราช” รองรับผู้เดินทางมารับบริการได้เอง - “ศิริราชนานาชาติ” ผุดที่บางโพ รับคนไทย-ต่างชาติ สนองนโยบายเมดิคัลฮับ

KEY

POINTS

  • ศิริราชเตรียมเดินหน้า 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ใน 2 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศิริราช และย่านบางโพ
  • โครงการแรกคืออาคารโรงพยาบาลสูง 15 ชั้น บนสถานีรถไฟฟ้าศิริราช งบประมาณ 4,000 ล้านบาท เน้นบริการผู้ป่วยนอกแบบเบ็ดเสร็จและคลินิกเฉพาะทาง
  • โครงการที่สองคือสถาบันการแพทย์ศิริราชนานาชาติ ที่บางโพ งบประมาณ 16,000 ล้านบาท เป็นอาคารสูง 19 ชั้น 442 เตียง เพื่อสนับสนุนนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาล

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นสถาบันการแพทย์ของแผ่นดิน ดำเนินการภายใต้พันธกิจ 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. ให้การเรียนการสอนเพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและเปี่ยมด้วยจริยธรรมออกมารับใช้สังคม 2. เป็นสถาบันที่ให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศ โดยให้การดูแลผู้ป่วยทุกฐานะอย่างเสมอภาคเท่าเทียม 3. สร้างองค์ความรู้ใหม่ผ่านกระบวนการทำวิจัยและสร้างนวัตกรรม เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่มวลมนุษยชาติ และ 4. การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการรักษาผู้ป่วย มุ่งเน้นการบริหารจัดการเชิงรุก เพื่อให้บริการผู้ป่วยทุกระดับได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง

5 หน่วยบริการของศิริราช

ในส่วนของหน่วยบริการรักษาและดูแลสุขภาพ ปัจจุบันมี 5 หน่วยหลัก ได้แก่ 1.รพ.ศิริราช มีผู้ป่วยนอกวันละราว 15,000 คน

2.รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ โรงพยาบาลต้นแบบสำหรับโรงพยาบาลรัฐในการบริหารจัดการด้วยรูปแบบวิธีการบริหารพิเศษ เพื่อให้มีรายได้ที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมาย คือ การมอบรายได้จากการดำเนินงานคืนกลับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และช่วยเหลือกิจการของคณะ บริการผู้ป่วยราว 2,000 คนต่อวัน ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ผ่านมา มีเงินที่ส่งคืนไปช่วยในระบบของรพ.ศิริราชกว่า 7,000 ล้านบาท

3.ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โรงพยาบาลทุติยภูมิสังกัดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตั้งอยู่เลขที่ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม รองรับผู้ป่วย 1,000 คนต่อวัน

4. ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช ตั้งอยู่ที่อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นศูนย์ดูแลและให้ความรู้แก่ผู้ป่วยระยะพักฟื้นและผู้สูงอายุ ขณะเริ่มเปิดดำเนินการ (Soft Opening)แล้วเมื่อต้นม.ค.2567 สำหรับผู้ป่วยนอก รับเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ เเละนัดหมายเท่านั้น ให้บริการคลินิกตรวจสุขภาพผู้สูงอายุเเบบครบวงจร ,คลินิกผู้สูงอายุ และคลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ และระยะต่อไปจะเปิดให้บริการธาราบำบัดและอื่นๆ

5.ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต หรือ SIRIRAJ H SOLUTIONS เป็นศูนย์Wellness อยู่นอกโรงพยาบาลแห่งแรก ตั้งอยู่ที่ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ฝั่งตรงข้ามไอคอนสยาม ขนาดพื้นที่ 2,902 ตร.ม. มุ่งให้บริการด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ และการปรึกษาดูแลสุขภาพแบบครบวงจรตั้งแต่ คัดกรองสุขภาพ ดูแลเชิงป้องกัน เสริมสร้างสมดุล ฟื้นฟูศักยภาพ และชะลอความเสื่อม ปัจจุบันมีผู้มาใช้บริการราว 400 คนต่อวัน เชื่อว่าจะขยายจำนวนมากขึ้นในอนาคต

อาคารรพ.บนสถานีรถไฟศิริราช

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งระบบใน 5 หน่วยบริการของศิริราช มีคนไข้กว่า 22,000 คนต่อวัน ในปี 2567 มีผู้มารับการบริการมากที่สุด 4.8 ล้านvisit มีผู้ป่วยในกว่า 1.2 แสนคน และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ จากเรื่องของการเป็นสังคมผู้สูงอายุ ส่วนจำนวนบุคลากรทั้งหมด 22,264 คน ซึ่งแต่ละปีศิริราชได้รับงบประมาณแผ่นดิน 18 % โดยการให้บริการถือเป็นภารกิจใหญ่ของศิริราช

“ศิริราชเป็นสถาบันการแพทย์ของแผ่นดินไม่สามารถทำกำไรได้มาก ส่วนรพ.ศิริราชปิยมหาราชย์ฯที่อยู่ภายใต้ศิริราช อาจจะทำกำไรได้ โดย ปี 2567 ได้มีการส่งมอบเงินให้รพ.ศิริราช ราว 1,300 ล้านบาท”ศ.นพ.อภิชาติกล่าว

อนาคตศิริราชมี 2 โครงการใหญ่ที่จะเกิดขึ้น คือ 1.อาคารบนสถานีรถไฟศิริราช เป็นอาคารของรพ.ศิริราช ที่สร้างบริเวณรถไฟฟ้าMRT อาคาร 15 ชั้น เป็นหน่วยให้บริการคนที่สามารถมารับบริการเองได้ ไม่ต้องมีรถ ไม่ต้องมีเตียง ส่วนรพ.ศิริราชเดิมให้บริการตามปกติ งบประมาณราว 4,000 ล้านบาท

อาคารนี้ เป็น Smart Hospital ด้วยเครือข่าย 5G เน้นการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ อาทิ ศูนย์ตรวจสุขภาพ คลินิกฟื้นฟูสมรรถภาพ คลินิกผิวหนัง การบริการผู้ป่วยด้านอายุรกรรม ผู้ป่วยหลังผ่าตัด Ambulatory Unit/ One Day Surgery ที่เข้ารับบริการแล้วกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักค้างคืน รวมถึง ห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ เช่น การเจาะเลือด เป็นต้น

ทั้งนี้ ระหว่างเข้าดำเนินการมีการพบแนวกำแพงธนบุรีสมบูรณ์ที่สุด จึงต้องให้กรมศิลปากรเข้ามาศึกษาให้เรียบร้อยก่อน ปัจจุบันอยู่ในช่วงเวลาที่จะได้รับมอบพื้นที่จากกรมศิลปากร ส่วนแบบการก่อสร้างได้มีการหารือกับการรถไฟ และมหาวิทยาลัยมหิดลเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จใน 3 ปีจากนี้ไป

ศิริราชนานาชาติ บางโพ

และ2. สถาบันการแพทย์ศิริราชนานาชาติ ที่บางโพ เป็นรพ.ที่ได้รับการบริจาคที่ดิน13 ไร่ แบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งศิริราชได้มีการพิจารณาโดยรอบแล้ว จะดำเนินการในลักษณะนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นเมดิคัล ฮับ (Medical Hub) และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 ม.ค.2568 งบประมาณราว 16,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2569-2574 ปัจจุบันอยู่ในช่วงการขอใบอนุญาตด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จากนั้นจะดำเนินการเรื่องของออกแบบ
2 บิ๊กโปรเจกต์ ‘ศิริราช’ งบประมาณ 2 หมื่นล้าน ดำเนินการ 2 ทำเล

 ที่นี่มีเป้าหมายให้บริการผู้ป่วยนอก ปีละไม่น้อยกว่า 650,000 คน และผู้ป่วยใน ไม่น้อยกว่า 20,000 คนต่อปี เชื่อว่าคนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย แต่จะต้องมีการวางระบบที่สามารถรองรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือโดยรอบประเทศไทย หรือกลุ่มแอ็กซ์แพ็ท ราว 10 % ทั้งเรื่องการเตรียมระบบไอที บุคลากรที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยดูแลชาวต่างชาติได้ และเช่นเดียวกันหากมีกำไรหรือขาดทุน ศิริราชก็ต้องรับผิดชอบ

 “ในการดำเนินการระบบต่างๆของรพ.ขนาดใหญ่ ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือ ซึ่งที่นี่หนึ่งในนั้น คือ การมีเครื่องฉายแสงโปรตอน งบประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และมีระบบหลายอย่างที่เชื่อมั่นว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถให้การดูแลคนไข้ที่มีความสลับซับซ้อนได้อย่างเต็มที่ ควบคู่กับการต้องวางแผนเรื่องบุคลากรด้วย โดยบูรณาการระหว่างจำนวนบุคลากรเดิมและจำนวนที่ต้องการเพิ่มขึ้น จำนวน 3,397 อัตรา”ศ.นพ.อภิชาติกล่าว

ศิริราชนานาชาติ อาคาร 19 ชั้น

รายละเอียดโครงการสถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีวัตถุประสงค์ คือ 1.เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

2.เป็นสถาบันการแพทย์ภาครัฐแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นต้นแบบและเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของการให้บริการด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูงระดับเหนือตติยภูมิ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 3.ยกระดับการเป็นสถาบันการแพทย์ระดับชั้นนำของประเทศ เป็นศูนย์ฝึกอบรมระดับนานาชาติก่อให้เกิดการเป็นผู้นำและผู้ชี้นำแห่งวงการสาธารณสุขไทยและระบบสุขภาพระดับโลก 

สำหรับงบประมาณที่ครม.อนุมัติตามการเสนอของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ จำนวน 16,960.59 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณปี 2569 - 2574 จำนวน 11,048.33 ล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ 5,912.27 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง 7,720 ล้านบาท ,ค่าครุภัณฑ์ทางการแพทย์และครุภัณฑ์สารสนเทศ 8,430 ล้านบาท และงบฯบุคลากร หมวดเงินเดือน 810.59 ล้านบาท

การก่อสร้างจะเป็นอาคาร 19 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 149,714 ตร.ม. มีพื้นที่บริการทางการแพทย์ ศูนย์บริการตรวจรักษาโรคเฉพาะทางต่าง ๆ ศูนย์การรักษาด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และศูนย์ห้องผ่าตัด 22 ห้อง, หอผู้ป่วยในรวมจำนวน 442 เตียง แบ่งเป็น หอผู้ป่วยพิเศษ 352 เตียง และหอผู้ป่วยวิกฤต 90 เตียง ,มีพื้นที่วิชาการเและปฏิบัติการ ที่เป็นศูนย์ฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศระดับมาตรฐานสากล และ พื้นที่จัดกิจการอเนกประสงค์, คอมมิวนิตี้มอลล์ เป็นต้น