เครือข่ายฯกัญชาบุกสธ. จี้ออกพ.ร.บ.ควบคุม สกัดผูกขาด-นโยบายแกว่งตามรมว.

เครือข่ายฯกัญชาบุกสธ. จี้ออกพ.ร.บ.ควบคุม สกัดผูกขาด-นโยบายแกว่งตามรมว.

เครือข่ายฯกัญชาบุกสธ. ค้านนำกัญชาคืนยาเสพติด ชง 3 แนวทางควบคุม เรียกร้องออกพ.ร.บ.ควบคุม -นโยบายแกว่งตามรมว.สธ.-สกัดทุนผูกขาด

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข  เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อชุมนุมคัดค้านการนำกัญชาคืนยาเสพติด พร้อมเสนอข้อเรียกร้องต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในการควบคุมกัญชา 3 เรื่อง ประกอบด้วย

1.ขอให้ คุณสมศักดิ์ ยุติการดำเนินการใดที่จะนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะผลักผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มใหญ่ที่สุดออกนอกวง อีกทั้งยังเป็นการผูกขาดกัญชา ทำลายคนทำกัญชาเสียหายทั้งประเทศ แต่มาตรการปกป้องผู้บริโภคกลับไร้ประสิทธิภาพ

2.ขอให้คงสถานะกัญชาเป็นพืชสมุนไพรซึ่งตรงกับคุณสมบัติที่แท้จริงของพืชชนิดนี้เพื่อรอให้มีพระราชบัญญัติกัญชาซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะมาควบคุม ในระหว่างนี้ให้ใช้ประกาศกระทรวงบังคับเพื่อนำข้อดีมาใช้และควบคุมข้อเสีย

3.ขอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อทำหน้าที่จัดระบบข้อมูล สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาสู่การออกประกาศกระทรวงที่สามารถแก้ปัญหาได้จริง  คือ

  • ประกาศว่าด้วยการปลูก กติกาที่เป็นธรรมสำหรับผู้ปลูกและความปลอดภัยของผู้บริโภค
  • ประกาศว่าด้วยการนำกัญชาสู่ผู้บริโภค  กติกาการขาย กติกาในการซื้อ กติกาในการใช้ ที่เป็นธรรม
  • ประกาศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคล: ควรกำหนดให้ชัดเจนว่ากฎหมายควรคุ้มครองบุคคลใดบ้าง ข้อกำหนดการปลูกและการใช้ที่ไม่กระทบต่อประชาชน

ข้อเสนอทั้ง 3ประการ เป็นเส้นทางการควบคุมกัญชาในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้จริง เหมาะสมกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงจึงขอให้รัฐมนตรีละวางการช่วงชิงทางการเมืองแล้วนำข้อเท็จจริงมากำหนดอนาคตกัญชาไทย เพราะหากยังดึงดันนำเข้าสู่ยาเสพติดข้อเท็จจริงจะกลับมาทำลายพรรคเพื่อไทยที่สังคมกำลังตั้งคำถามถึงความซื่อสัตย์ที่พึงมีต่อประชาชน
 

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า การมารวมตัวกันวันนี้คาดว่าอาจจะถึง 300 – 500 คน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่เปิดร้านจำหน่ายกัญชาตามที่มีการปลดล็อกกฎหมายมาเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา โดยวันนี้ตั้งใจจะมายื่นหนังสือถึง รมว.สาธารณสุข ซึ่งจากการสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าท่านมีท่าทีจะถอยกลับในเรื่องการเอากัญชาเป็นยาเสพติด เพราะกลัวว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการ


"การต่อสู้ในครั้งนี้ ยอมไม่ได้ เพราะที่ผ่านมากฎหมายกัญชาเปลี่ยนไปมาตามนโยบายของ รมว.สาธารณสุขแต่ละคน เหตุผลก็เพราะว่าไม่มีพระราชบัญญัติออกมาควบคุม ทำให้อำนาจการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับคนเดียว คือ รมว.สาธารณสุข ว่าจะออกประกาศกระทรวงมาอย่างไร"นายประสิทธิ์ชัยกล่าว  
 

ดังนั้น มองว่าทางออกของเรื่องนี้ คือการให้กัญชาขึ้นมาอยู่บนดิน อยู่ในกฎหมายที่ควบคุมได้ เพราะถ้าเอากลับเป็นยาเสพติด ก็เชื่อว่ากัญชาใต้ดินจะกลับมาอีกแน่นอน แล้วแบบนั้นก็จะคุมไม่ได้ ส่วนเรื่องการออกประกาศสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 ที่ลงนามโดย นายสมศักดิ์นั้น ตนคิดว่าปัญหาหลักคือ การระบุให้กัญชาต้องผ่านมาตรฐาน GACP เพราะที่ผ่านมามีการซื้อขายใบอนุญาต ใช้เงิน 5 แสนบาทก็ได้ใบอนุญาตแล้ว แต่ไม่มีการควบคุมการผลิต ซึ่งต่างจากการปลูกในปัจจุบันที่ชาวบ้านคิดค้นวิธีการปลูกแบบออแกนิกได้

ฉะนั้น การจะควบคุมกัญชาให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย ควรจะมาตรการตรวจคุณภาพ ไม่ใช่การเอามาตรฐาน GACP มาคุมแค่โรงเรือนปลูกที่ต้องอยู่ในที่ปิดและมีกล้องวงจร แบบนั้นไม่ได้ช่วยให้กัญชามีคุณภาพขึ้น

เมื่อถามว่าหากไม่มีให้มีการค้างแรมเพื่อจัดกิจกรรมตามที่เครือข่ายฯ ได้กำหนดไว้ นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า การมาวันนี้ เราได้ขออนุญาตทุกอย่างแล้วตามกฎหมายการชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจห้ามไม่ให้ชุมนุม เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าจะมีการปักหลักค้างคืนเพื่อแสดงจุดยืนเรื่องนี้

ภายหลังการยื่นหนังสือ เครือข่ายฯ ได้ปักหลักค้างคืนบริเวณกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเปิด “ตลาดนัดลานดอกไม้” แสดงสินค้าสมุนไพรเกษตรจากทั่วประเทศ มีการสาธิตการปรุงยากัญชาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย นักปลูกมืออาชีพ และที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณ รวมถึงกิจกรรมแสดงพลังผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา ซึ่งเครือข่ายฯ ขนานนามว่า “ความฝันของประชาชน”

ก่อนหน้านั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะมาปักหลักค้างคืนคัดค้านกัญชากลับเป็นยาเสพติดว่า มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ซึ่งตนติดภารกิจ ไม่ได้เข้ากระทรวงฯ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงสุขภาพหากต้องมานอนตากลม อาจไม่สะดวก

ถามถึงกรณีเครือข่ายฯ มีความกังวลว่ามาตรการต่างๆจะเอื้อทุนใหญ่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  มาตรการกัญชา ที่มีการจัดระเบียบ ไม่ได้เอื้อทุนใหญ่ ไม่เอื้อใครทั้งสิ้น หากจัดระเบียบให้เรียบร้อยก็จะพัฒนาไปอีก

ส่วน พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ทันในสมัยนี้ และเรื่องนี้ความเห็นก็ยังไม่ตรงกันอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย จึงอยากให้เริ่มต้นด้วยแนวทางกลางๆ เป็นสมุนไพรควบคุมก่อน แต่หากยุ่งยากไปก็ต้องเป็นยาเสพติด

ด้านนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า คงไม่สามารถให้ปักหลักค้างคืนได้เพราะพื้นที่เป็นส่วนราชการ ใครจะมาปักหลักค้างคืนทำไม่ได้ และยังเป็นเขตพระราชฐาน จึงอาจต้องไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งต้องไปตกลงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถทำกิจกรรมของเครือข่ายฯได้ตามเวลาราชการถึงเวลา 16.00 น.

"ขณะนี้กัญชา ยังไม่เป็นยาเสพติด แต่วันนี้ต้องมีมาตรการควบคุม ส่วนการมีกัญชา เพื่อการปลูกหรือการผลิตที่ต้องได้รับการควบคุม เพราะที่ผ่านมาพบไม่ได้มาตรฐาน มีสารปนเปื้อน ซึ่งมาตรการผลิตยังไม่ชัดเจน ทำให้ต้องมีการควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐาน ซึ่งไม่มีผลกระทบกับคนใช้กัญชา"นายกองตรีธนกฤต กล่าว