แพทยสภาจ่อสอบล็อต 2 แพทย์เกี่ยวรักษาชั้น 14 รพ.ตำรวจ มากกว่า 5

แพทยสภาจ่อสอบจริยธรรมล็อต 2 แพทย์เกี่ยวรักษาชั้น 14 รพ.ตำรวจ มากกว่า 5 ราย ขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนล็อตแรกที่ถูกร้องเรียน
แหล่งข่าวจากแพทยสภา แจ้งว่า ในการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร จากรพ.ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ล็อตที่ 2 ซึ่งจะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ราย เป็นการได้จากการ ขยายผลจากการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ ที่ถูกร้องเรียนในล็อตแรก
กระบวนการจากนี้ จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แล้วมาดำเนินการผ่าน 7 ขั้นตอนเหมือนเดิม ทั้งนี้จะมีการหารือลงในรายละเอียดอีกครั้ง ในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งต่อไป ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ก.ค.นี้
ในส่วนของการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ นั้น สามารถตั้งรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นอนุกรรมการ ใหม่ได้ แต่อย่างน้อยจะต้องมีส่วนที่สามารถเชื่อมโยงกับชุดเดิมได้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกันไม่เกิดความสะดุด
"การพิจารณาจริยธรรมแพทย์ในล็อตที่ 2 นี้อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหาเพราะเรื่องใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว แต่การสอบจริยธรรมแพทย์ล็อตที่ 2 เป็นผลจากการสืบสวนสอบสวนได้จากล็อตแรก ทางแพทยสภาจึงเห็นว่าเมื่อมีความเกี่ยวข้อง ไม่อาจปล่อยผ่าน เห็นควรว่าจะต้องนำมาสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อสรุป"แหล่งข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระบวนการตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ ดำเนินการ 7 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา ซึ่งมีกรอบเวลาในการทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน
2.อนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนา มีกรอบเวลาทำงาน 1-2 เดือน
3. คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง โดยขั้นตอนนี้มีกรอบเวลา 1-2 เดือนในการพิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จะจบไป แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติม
4. อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อ กรอบเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ให้มีมติว่ามีการ ยกข้อกล่าวหา หรือผู้ถูกร้องมีความผิด
5. อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดี เพื่อทำสำนวน
6. คณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป
7. เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้ามีการพิจารณายับยั้ง (วีโต้) ก็จะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็น ถ้าเสียง 2 ใน 3 ก็จะยืนยันมติเดิม แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ