‘โรคNCDs’ คนไทยเสียชีวิจก่อนวัยอันควร 1,000 ราย/วัน   

‘โรคNCDs’ คนไทยเสียชีวิจก่อนวัยอันควร 1,000 ราย/วัน   

คนไทยเสียชีวิตจากโรค NCDs เฉลี่ยวันละกว่า 1,000 ราย สธ.เร่งขับเคลื่อน "ลดอ้วน ลดโรคไม่ติดต่อ" ผลักดันร่าง พ.ร.บ.โรคไม่ติดต่อ เพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชน

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข จ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ (พ.ศ.2566-2570)ว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งทำให้เกิดภาระโรคจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การเจ็บป่วยและทุพพลภาพที่ส่งผลให้ผลิตภาพการทำงานลดลงหรือสูญเสียไป ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างมาก

เสียชีวิตจากโรค NCDs วันละกว่า 1,000 ราย

คนไทยเสียชีวิตจาก โรคNCDs ปีละกว่า 400,000 ราย หรือวันละกว่า 1,000 ราย คิดเป็น 81 % ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด สาเหตุมาจากปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรม สิ่งแวดล้อม และระบบการเผาผลาญของร่างกาย ทั้งนี้ การผลักดันนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการเพื่อลดโรค NCDs จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถจัดการสุขภาพตนเองได้

ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย “ลดอ้วน ลดโรคไม่ติดต่อ” ตามภารกิจของหน่วยงานต่างๆ ในคณะกรรมการฯ เพื่อลดโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชาชนจากโรคNCDs รวมถึงลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของบุคคล ครอบครัว สังคมและประเทศ นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อของประเทศไทย (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายสู่การดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

โอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันควร แนวโน้มลดลง

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยดำเนินงานตามกรอบ 9 เป้าหมาย ลดโรค NCDs ระดับโลก พบว่า โอกาสการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรค NCDs มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยจาก 14.8 % ในปี 2553 เป็น 14.6 % ในปี 2565 ซึ่งค่าเป้าหมายในปี 2568 คือ  11.07 % ส่วนตัวชี้วัดอื่นๆ มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ได้แก่ ปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ต่อหัวประชากรต่อปี ค่าเฉลี่ยปริมาณการบริโภคเกลือโซเดียมต่อคนต่อปี และความชุกของการสูบบุหรี่

ขณะที่บางตัวชี้วัดมีแนวโน้มสวนทางกับค่าเป้าหมาย ได้แก่ ความชุกของความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภาวะอ้วน และการมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ ถือเป็นประเด็นท้าทายที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกกระทรวง รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

เร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.โรคไม่ติดต่อ

กรมควบคุมโรคจึงได้พัฒนาแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อของประเทศไทย (พ.ศ. 2566-2570) ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่

1. บูรณาการเครือข่ายทุกภาคส่วนในการจัดการโรคNCDs (Smart NCD Network)

2.สร้างเสริมความรอบรู้ (NCD Health Literacy) ความตระหนักรู้ รู้เท่าทัน และค่านิยมในการป้องกันควบคุมโรค NCDs ของคนในชาติ

3.สร้างระบบนิเวศ (NCD Ecosystem) ที่เอื้อต่อการจัดการโรค NCDs โดยเน้นบูรณาการและการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ท้องถิ่น และประชาชน ให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและสามารถดูแลสุขภาพด้วยตนเอง มีสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี

รวมทั้ง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.โรคไม่ติดต่อ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนที่เป็นหรือมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคไม่ติดต่อ ซึ่งผ่านขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็นเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามเห็นชอบ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป

ดร.จอส ฟอนเดอลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า โรคNCDs เป็นภาระทางสุขภาพระดับโลกที่ต้องให้ความสนใจและร่วมมือกันจัดการอย่างเร่งด่วน ซึ่งโรคนี้ป้องกันได้ด้วยการมีนโยบายระดับประเทศเพื่อการป้องกันประชาชนจากปัจจัยเสี่ยงหลัก (เช่น การลดการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การส่งเสริมกิจกรรมทางกายและบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ) ดังนั้น ความเป็นผู้นำทางการเมืองที่เข้มแข็งและให้ความสำคัญกับนโยบายและการดำเนินงานที่สอดคล้องกันระหว่างกระทรวงต่างๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการป้องกันและควบคุมโรคNCDs

3 หลักป้องกัน-คุมโรคNCDs

 นายสมเกียรติ พิทักษ์กมลพร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินงาน NCDs Ecosystem เป็นการขับเคลื่อนร่วมกับภาคส่วนอื่นนอกเหนือจากด้านสุขภาพ เพื่อหนุนเสริมการทำงานในการปรับพฤติกรรมและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี โดยที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เห็นชอบ มติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วย การสานพลังสร้างสภาวะแวดล้อมทางกายภาพและสังคมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ

 

มีสาระสำคัญในการพัฒนา 5 ระบบและกลไกที่สนับสนุนให้เกิด 5 มาตรการป้องกันและควบคุมการเจ็บป่วยด้วยโรค NCDs โดยประยุกต์ใช้ 3 หลักการสำคัญ คือ แนวคิดเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม กลไกการคลัง และกลไกเครดิตทางสังคม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอเข้าครม.เพื่อพิจารณาเห็นชอบ โดยอ้างอิงแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อของประเทศไทย (พ.ศ. 2566-2570) ขณะเดียวกันได้ขับเคลื่อนสมัชชาเฉพาะประเด็นในพื้นที่นำร่องใน 4 ภาค 8 จังหวัด เพื่อให้เกิดการสร้างมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยลดโรค NCDs ด้วย