แพทยสภายันพิจาณาโปร่งใส-ชัดเจน ปมฟันแพทย์รักษาทักษิน

ปมฟันแพทย์รักษาทักษิน แพทยสภาส่งเอกสารให้ “สมศักดิ์”ครบถ้วนแล้ว ยันกระบวนการพิจารณาแพทยสภาโปร่งใส ชัดเจน ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายชี้แจงแล้ว
จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ทำหนังสือมาขอให้แพทยสภาส่งเอกสารเกี่ยวกับการพิจารณาจริยธรรมแพทย์ 4 คนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากรพ.ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งต่อมา แพทยสภา ได้มีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการลงโทษตักเตือน 1 คน และพักใช้ใบอนุญาต 2 คน และส่งเรื่องให้สภานายกพิเศษพิจารณาว่าจะวีโต้หรือไม่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2568
ล่าสุดวันที่ 23 พ.ค.2568 ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้สภานายกพิเศษสามารถเรียกเอกสารเพิ่มได้ แต่แพทยสภาไม่ได้ส่งเอกสารให้เพิ่มเติม เพราะตั้งแต่วันที่ไปยื่นมติแพทยสภาให้สภานายกพิเศษก็ได้ยื่นเอกสารประกอบไปหมดแล้วตามที่ควรจะได้ ในส่วนที่สามารถให้ได้ คิดว่าแค่นั้นก็มากเพียงพอที่จะพิจารณาได้แล้ว
“เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งการที่จะตัดสินลงโทษอะไรใครมันก็ต้องมีความโปร่งใส ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่ยุกยิกๆ มันมีเอกสาร ข้อมูลต่างๆ ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในการพิจารณามันก็เป็นความลับในกลุ่มกรรมการ แต่ในส่วนของการพิจารณานั้นมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน”ศ.นพ.อมรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนึ่งในผู้ร้องขอความเป็นธรรมกับสภานายกพิเศษ ระบุว่า แพทยสภาไม่ควรตัดสินทั้งที่เอกสารไม่ครบ เพราะมีเอกสารบางส่วนไม่ได้ส่งให้แพทยสภา เพราะไม่ได้ขอ ศ.นพ.อมร กล่าวว่า อันนี้ไม่ได้ เพราะขอให้เขาส่งหมดอยู่แล้ว ขนาดครั้งแรก ครั้งที่ 2 ที่ส่งมาเพิ่มเติมยังยอมขยายเวลาให้ทั้งๆ ที่จะสรุปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้แพทยสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยซ้ำ มีกรเปิดช่องให้เขายื่นข้อมูลเอกสารอยู่แล้ว ไม่เคยปฏิเสธ
“ให้ความเป็นธรรมหมด เขาส่งอะไรมาเราก็รับ เมื่อไม่ส่งอะไรมาเพิ่มเติม ก็ตัดสินไปตามนั้น นี่เป็นไปตามขั้นตอน ให้โอกาสเต็มที่ภายใต้ภาววิสัยที่ดีที่สุดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” ศ.นพ.อมร กล่าว
ถามถึงกระแสการล็อบบี้กรรมการไม่ให้เข้าประชุม วันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะเข้าประชุมด้วยหรือไม่ ศ.นพ.อมร กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีใครมาล็อบบี้ตน และ วันที่ 12 มิ.ย.นี้ตนเข้าประชุมแน่นอนตามปกติ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยขาดประชุม ทั้งนี้เมื่อสภานายกพิเศษส่งความเห็นกลับมาแล้ว ทางกรรมการแพทยสภาก็มีการพิจารณาตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปไม่ได้ใช้เวลานาน จะดูจากข้อมูลที่ส่งกลับมา ว่ามีความเห็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร
หากกรรมการแพทยสภาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พิจารณากันหมดเรียบร้อยแล้วก็จบ แต่หากเป็นข้อมูลใหม่เอี่ยมจริงๆ ที่จะสามารถเอามาพิจารณาอะไรได้ ซึ่งจริงๆ มันก็น่าจะหมดแล้ว เพราะสภานายกพิเศษนั้นก็ดูในกรอบข้อมูล กระบวนการที่แพทยสภาทำมา ทั้งข้อมูล ทั้งการสอบสวน ทีทำเต็มที่
“ส่วนผู้ถูกร้องก็มีช่องทางไปศาลปกครอง ที่สามารถทำเพิ่มเติม เป็นความยุติธรรมที่เขาให้อยู่ในระบบอยู่แล้ว ส่วนในชั้นสภานายกพิเศษก็เอาเพียงแต่นี้ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่จบเสียที เขาก็ส่งข้อมูลมาเรื่อยๆ ทุกเดือนๆ มันก็ไม่จบ ดังนั้นก็ให้จบ แต่เขาก็สามารถไปขอความยุติธรรมที่ศาลปกครองได้ตามสิทธิ์” ศ.นพ.อมร กล่าว







