เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์ วิเคราะห์แม่นยำ ราคาถูกกว่า 3 เท่า

เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์ วิเคราะห์แม่นยำ ราคาถูกกว่า 3 เท่า

เปิดตัว “เครื่องวิเคราะห์การทำงานเครื่องช่วยหายใจ รุ่น VA-01” เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์ วิเคราะห์แม่นยำ ราคาถูกกว่านำเข้า 3 เท่า

KEY

POINTS

  • เปิดตัว “เครื่องวิเคราะห์การทำงานเครื่องช่วยหายใจ รุ่น VA-01” เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์ วิเคราะห์แม่นยำ ราคาถูกกว่านำเข้า 3 เท่า
  • บริษัทผู้วิจัยพัฒนา เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์  เสนอแนะรัฐ ต้องเปลี่ยนจากการสนับสนุนวิจัย เป็นการสนับสนุนการซื้อผลิตภัณฑ์หลังวิจัยสำเร็จ
  • ปีงบประมาณ 2567 แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ได้รับการจัดสรรเงิน  3,800.22 ล้านบาท  คาดก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจราว 9,741.33 ล้านบาท  ผ่าน 6 อุตสาหกรรม

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ขับเคลื่อนโครงการที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและบริการทางการแพทย์ ภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ของไทย ลดต้นทุนการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ ยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ และสร้างความมั่นคงให้กับระบบสาธารณสุขของไทย

 ล่าสุด สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม  สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และบริษัท อินทรอนิคส์ จำกัด ร่วมกันแถลงผลงานความสำเร็จในการพัฒนา “เครื่องวิเคราะห์การทำงานเครื่องช่วยหายใจ รุ่น VA-01”  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทย ถือเป็นผลสำเร็จจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

เน้นงานวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อผลิตเครื่องมือวัดทางการแพทย์คุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ การส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมฯ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น

เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์

นายชัยสิทธิ์ ธรรมพีร ประธานกรรมการ บริษัท อินทรอนิคส์ จำกัด ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจว่า  บริษัทเริ่มต้นจากความเชื่อว่า คนไทยสามารถพัฒนาเครื่องมือวัดทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงได้เอง จึงเริ่มต้นจากการวิจัยเล็ก ๆ

เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์ วิเคราะห์แม่นยำ ราคาถูกกว่า 3 เท่า

จนปัจจุบันสามารถพัฒนาเครื่องวิเคราะห์การทำงานเครื่องช่วยหายใจ รุ่น VA-01 ได้เป็นผลสำเร็จ การที่บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจาก สศอ. และ มว. ทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน สามารถรองรับการใช้งานได้จริงในโรงพยาบาล และกำลังเตรียมพัฒนาต่อยอดไปสู่เครื่องมือวัดทางการแพทย์ชนิดอื่นที่ตอบโจทย์ทางการแพทย์ในอนาคตมากยิ่งขึ้น

“บริษัทมีแผนจะวางจำหน่ายเครื่องนี้ภายในประเทศราว 6 เดือน – 1 ปี  ก่อนที่จะเริ่มแผนผลักดันผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยการมีมาตรฐานสากลยอมรับและเจรจากับพันธมิตรในเอเชียและยุโรป เพื่อสร้างแบรนด์เครื่องมือแพทย์เมดอินไทยแลนด์(Made in Thailand) ที่มีคุณภาพระดับโลก”นายชัยสิทธิ์กล่าว

วิเคราะห์การทำงานของเครื่องช่วยหายใจ แม่นยำ

เครื่องวิเคราะห์การทำงานเครื่องช่วยหายใจ รุ่น VA-01 นี้ มีจุดเด่นด้านความแม่นยำในการวิเคราะห์การทำงานของเครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาล ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน และสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องช่วยหายใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ที่พัฒนาขึ้นตามมาตรฐานสากลทั้ง ISO 80601-2-12 และวิธีการมาตรฐานสำหรับเครื่องมือแพทย์: SMM 04-1: วิธีการสอบเทียบเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยวิกฤติ

นอกจากนั้น การผลิตยังมีต้นทุนต่ำ ราคาถูกกว่านำเข้า 3 เท่า โดยหากนำเข้าราคาอยู่ที่ 4-5แสนบาท ส่วนที่ผลิตในไทยนี้บริษัทตั้งราคาไว้ที่ 1.5 แสนบาท อีกทั้งยังสามารถปรับการทำงานได้ตามความต้องการของแพทย์ผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

รัฐต้องเปลี่ยนจากสนับสนุนเป็นซื้องานวิจัย

สำหรับข้อเสนอแนะถึงภาครัฐ นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องเปลี่ยนจากการสนับสนุนวิจัย เป็นการสนับสนุนการซื้อผลงานวิจัย ซึ่งจากประสบการณ์ในการทำงานวิจัยและพัฒนาที่ต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมาก ภาครัฐไม่ควรเน้นการให้เงินทุนวิจัยล่วงหน้า แต่เปลี่ยนเป็นการสนับสนุนให้เอกชนทำวิจัยโดยลงทุนเองก่อน โดยที่ภาครัฐกำหนดเกณฑ์การผ่านมาตรฐานให้ชัดเจน เมื่อผ่านเกณฑ์แล้ว ภาครัฐควรเป็นผู้ซื้อผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยรายใหญ่ ในจำนวนที่เพียงพอจะทำให้เอกชนคุ้มค่ากับการลงทุนวิจัยและพัฒนา

วิธีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนการลงทุนและวิจัยในประเทศ แต่ยังทำให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณมากกว่าการซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆจากต่างประเทศ โดยอาจได้ของดีราคาถูกกว่าด้วย”นายชัยสิทธิ์กล่าว


สร้างจุดแข็ง ลดจุดอ่อนผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ไทย

ด้านพลตำรวจโท นพ. พรชัย สุธีรคุณ ผู้อำนวยการ มว. กล่าวว่า มว.ร่วมมือกับเครือข่ายวิชาการมาตรวิทยาทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือแพทย์ในประเทศ อันจะช่วยสร้างจุดแข็ง ลดจุดอ่อนของผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ของไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันกับผู้ผลิตต่างชาติ

ซึ่งบริษัท อินทรอนิคส์ จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติไทยที่มีศักยภาพใน การวิจัย พัฒนา และมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัยเป็นของตนเอง อีกทั้งยังมีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ด้านเครื่องมือแพทย์ มีความเข้าใจถึงปัญหาและอุปสรรคในการผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ในประเทศเป็นอย่างดี

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ยังมีเครือข่ายหน่วยงานร่วมทดสอบ อันประกอบด้วย บริษัท อาร์ เอฟ เอส จำกัด ภายใต้การกำกับดูแลของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์, โรงพยาบาลนครพิงค์, โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และบริษัท แมส เมดิคอล แอดวานส์ เซอร์วิส จำกัด ที่ร่วมกันสนับสนุนและผลักดันให้เครื่องมือวัดต้นแบบนี้ สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม

เครื่องมือแพทย์ เมดอินไทยแลนด์ วิเคราะห์แม่นยำ ราคาถูกกว่า 3 เท่า

แผนฯพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต

ขณะที่ นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (ผศอ.)  กล่าวว่า จากความสำเร็จในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถขยายตลาดไปยังโรงพยาบาลทั่วโลก และสามารถพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีสุขภาพได้อย่างยั่งยืน    อีกทั้งช่วยตอกย้ำความมั่นใจว่าเครื่องมือวัดทางการแพทย์สายพันธุ์ไทย จะไม่เพียงแค่เป็นเครื่องมือในการรักษา แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในทั่วโลก

ทั้งนี้  ในปีงบประมาณ 2567 แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ได้รับการจัดสรรเงิน  3,800.32 ล้านบาท  คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจภาพรวม 9,741.33 ล้านบาท  ผ่าน 6 แนวทางอุตสาหกรรม ได้แก่ 

1. อุตสาหกรรมชีวภาพและอาหารแห่งอนาคต  งบประมาณ 115.30 ล้านบาท  ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจ 156.10 ล้านบาท

2.อุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ งบประมาณ 65.90 ล้านบาท  ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจ 885.23  ล้านบาท

3.อุตสาหกรรมและบริการเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ งบประมาณ 58.52 ล้านบาท  ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจ 275.81 ล้านบาท

4.อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและอากาศยาน งบประมาณ 3,340.54 ล้านบาท  ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจ 8,205.74 ล้านบาท

5.อุตาสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ งบประมาณ 12.69 ล้านบาท 

6.ระบบนิเวศอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต งบประมาณ 207.38 ล้านบาท  ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศร๋ษฐกิจ 223.46 ล้านบาท

ผลักดัน GDP ให้เติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4.8 %

ในปี 2568 สศอ. จะกำลังเดินหน้าอีก 7 โครงการ งบประมาณ 99 ล้านบาท และจะขยายผลการดำเนินงานไปยังส่วนอื่น ๆ ด้วย อาทิ การจับคู่ธุรกิจ (Business matching) ระหว่างงานนวัตกรรมโครงการหรือบริษัทกับนักลงทุน เพื่อการต่อยอดและขยายงานนวัตกรรมเชิงอุตสาหกรรมสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์และสังคม

ตลอดจนส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ไทยได้รับการรับรองมาตรฐาน CE ซึ่งเป็นมาตรฐานในระดับสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งานเครื่องมือแพทย์ อันจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ไทยในการขยายตลาดภายในประเทศ และเพิ่มศักยภาพในการส่งออกสู่ตลาดสหภาพยุโรปหรือต่างประเทศ

“แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต มีหน่วยงานเข้าร่วม 9 กระทรวง 1 รัฐวิสาหกิจ  22 หน่วยงาน 45 โครงการ  โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดัน GDP ให้เติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4.8 % ระหว่างปี 2562-25702 และ เพิ่มผลิตภาพอุตสาหกรรมในภาคดังกล่าวไม่น้อยกว่า 2.4  %ในช่วงเวลาเดียวกัน”นายภาสกรกล่าว