สธ. เตือนภัย 'ยาทรามาดอล' ใช้ผิดอาจเสพติดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สธ. เตือนภัย 'ยาทรามาดอล' ใช้ผิดอาจเสพติดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สธ. เตือน 'ยาทรามาดอล' หรือ ยาเขียวเหลือง จัดเป็น 'ยาอันตราย' หากใช้อย่างต่อเนื่องเสี่ยงเกิดอาการติดยาและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ย้ำการใช้ยาต้องควบคุมโดยแพทย์ - ห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

วันที่ 2 เมษายน 2567 นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ทรามาดอล (Tramadol) หรือที่รู้จักกันว่า 'ยาเขียวเหลือง' เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มโอพิออยด์ ออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน มีทั้งแบบยาเม็ดและยาแคปซูลในทางการแพทย์ใช้รักษาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง

 

 

ผลข้างเคียงที่พบจากการใช้ ยาทรามาดอล เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก มือสั่น ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ มึนงง ง่วงซึม หากใช้ในปริมาณมากอาจเกิดประสาทหลอน ชักและนำไปสู่การเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบอาการกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกร่วมกับความดันโลหิตสูง ภาวะลิ่มเลือดกระจายในหลอดเลือด ไตวายเฉียบพลัน หากมีการใช้ยาหลายตัวร่วมกันโดยเฉพาะยาอี ยาบ้า จะยิ่งเสริมทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากยาทรามาดอลเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ ยาทรามาดอล จัดเป็น ยาอันตราย การใช้ยาต้องควบคุมโดยแพทย์และห้ามขายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในทุกกรณี แต่ในปัจจุบันพบการลักลอบจำหน่ายตามช่องทางโซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนำไปใช้ในทางที่ผิด ทั้งการใช้แบบยาเดี่ยวและผสมกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องจะทำให้มีความต้องการปริมาณยาที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดอาการติดยาในที่สุด

 

 

ด้าน นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาทรามาดอล ทำให้เกิดการเสพติดได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่นเดียวกับ ฝิ่น เฮโรอีน หากได้รับเป็นเวลานานและหยุดยาทันทีจะเกิดอาการถอนยาได้ ในกรณีที่ไม่สามารถหยุดใช้ยาได้เองควรเข้ารับการบำบัดรักษา ซึ่งแพทย์จะบำบัดอาการถอนยาและรักษาภาวะแทรกซ้อนทางกายและทางจิตควบคู่กันไป เมื่อผู้ป่วยอาการดีขึ้นจะส่งต่อเข้าสู่ขั้นตอนฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยเน้นการแก้ไขพฤติกรรมและเจตคติของผู้ป่วยเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจให้สามารถเลิกใช้ได้อย่างต่อเนื่อง

 

'ขอย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นที่นำยาทรามาดอลมาใช้ในทางที่ผิด ให้ตระหนักถึงผลกระทบต่อตนเองและครอบครัวให้มาก ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน หากพบมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นผิดปกติ พบสิ่งของต้องสงสัย ต้องรีบเข้าไปพูดคุยบอกกล่าวถึงผลเสียต่อสุขภาพรวมถึงอันตรายที่จะตามมา'

 

ทั้งนี้ สามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือเข้ารับการบำบัดรักษาสุราและยาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี หรือโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง

 

สธ. เตือนภัย \'ยาทรามาดอล\' ใช้ผิดอาจเสพติดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้