กินเนื้อหมูดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังพบ "ไข้หูดับ" ในไทย ตายแล้ว 5 ราย

กินเนื้อหมูดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังพบ "ไข้หูดับ" ในไทย ตายแล้ว 5 ราย

กินเนื้อหมูดิบ ลาบหมู ลาบก้อยดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังสถิติไข้หูดับ ในประเทศไทย พบผู้ป่วย 82 ราย ตายแล้ว 5 ราย สคร.9 ย้ำหากติดเชื้ออาจทำให้สูญเสียการได้ยิน หูดับ หูหนวกถาวร มองภาพไม่ชัดได้ พร้อมแนะวิธีกินหมูที่ถูกวิธีก่อนโรคร้ายตามมา

ในช่วงนี้พบผู้ป่วย"โรคไข้หูดับ" ทั้งจากการกินหมูดิบ ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ลาบก้อยดิบ แหนมดิบ และดื่มสุราร่วมกับกินอาหารสุกๆดิบๆ รวมไปถึงพ่อครัว แม่ครัว ผู้ปรุงอาหารที่มีบาดแผลแล้วไปสัมผัสเนื้อหมูหรือเลือดหมูดิบๆ ที่มีเชื้อ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้ สคร.9 เตือนอย่ากินหมูดิบ

 

กินเนื้อหมูดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังพบ \"ไข้หูดับ\" ในไทย ตายแล้ว 5 ราย

 

รวมถึงใช้วิธีบีบมะนาวเพื่อให้หมูสุก อาหารปิ้งย่างควรใช้อุปกรณ์คีบเนื้อหมูสุกและเนื้อหมูดิบแยกจากกัน ไม่ควรใช้ตะเกียบคีบหมูดิบ แล้วนำมารับประทาน เพราะหากติดเชื้อโรคไข้หูดับแล้วอาจทำให้สูญเสียการได้ยินหรือที่เรียกว่าหูดับ จนถึงขั้นหูหนวกถาวรได้ 

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคไข้หูดับว่า เกิดจากการกินเนื้อหมู หรือเลือดหมูสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ที่มีเชื้อสเตปโตค็อกคัส ซูอิส  (Streptococcus suis) ปนเปื้อนอยู่ โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูติดเชื้อ 

นอกจากนี้โรคไข้หูดับสามารถติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา 

อาการผู้ป่วยรับเชื้อโรคไข้หูดับ

ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ หนาวสั่น สับสนกระสับกระส่าย ปวดข้อ คอแข็ง หูหนวกหรือการได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน หูดับ จนถึงขั้นหูหนวกถาวรได้ การทรงตัวผิดปกติ หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดต่ำ มีจ้ำเลือดทั่วตัว ปวดตา ตาแดง หรือมองภาพไม่ชัด

 

กินเนื้อหมูดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังพบ \"ไข้หูดับ\" ในไทย ตายแล้ว 5 ราย

สถิติไข้หูดับ ในประเทศไทย

สถิติโรคไข้หูดับในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ถึง 6 มีนาคม 2567 

  • ผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 82 ราย 
  • ตายแล้ว 5 ราย

สถานการณ์โรคหูดับ ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ถึง 6 มีนาคม 2567 

  • ผู้ป่วยโรคไข้หูดับจำนวน 22 ราย 
  • ไม่มีผู้เสียชีวิต 

 

กินเนื้อหมูดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังพบ \"ไข้หูดับ\" ในไทย ตายแล้ว 5 ราย

 

ผู้ป่วย "โรคไข้หูดับ" แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ 

  • จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วย 14 ราย  
  • จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 4 ราย  
  • จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 3 ราย  
  • จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 1 ราย

กลุ่มอายุที่พบ "โรคไข้หูดับ" สูงสุด

  • กลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป 
  • กลุ่มอายุ  25-34 ปี 
  • กลุ่มอายุ 35-44 ปี

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า ในปัจจุบันมีกระแสสังคมบนสื่อออนไลน์ได้รีวิวการรับประทานอาหารดิบ และมีพฤติกรรมการดื่มสุราร่วมกับการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ มีผู้ติดตามรับชมจำนวนมาก อาจทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หรืออยากลองทำตาม

ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคไข้หูดับ ขอให้ประชาชนรับประทานหมูอย่างถูกวิธี 

 

กินเนื้อหมูดิบ อันตรายแค่ไหน? หลังพบ \"ไข้หูดับ\" ในไทย ตายแล้ว 5 ราย

 

วิธีกินหมูที่ถูกวิธีก่อนโรคร้าย โรคไข้หูดับ ตามมา

  • รับประทานเนื้อหมู กินหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น โดยปรุงให้สุกผ่านความร้อนมากกว่า 70 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 10 นาที
  • อาหารปิ้งย่าง ควรใช้อุปกรณ์ในการคีบเนื้อหมูดิบและเนื้อหมูสุกแยกจากกัน และขอให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด”
  • ไม่ควรรับประทานหมูดิบร่วมกับการดื่มสุรา
  • เลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ ไม่ควรซื้อจากแหล่งที่ไม่ทราบที่มาของหมู
  • ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบูทยาง สวมถุงมือ

รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง

หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

อ้างอิง : กรมควบคุมโรค , กระทรวงสาธารณสุข