บัตรทองให้ 'ทวารเทียม' -'รากฟันเทียม' ฟรี นวัตกรรมฝีมือคนไทย

บัตรทองให้ 'ทวารเทียม' -'รากฟันเทียม' ฟรี นวัตกรรมฝีมือคนไทย

บัตรทองให้ฟรี ทวารเทียม รากฟันเทียม  ชี้ผลิตภัณฑ์จากบัญชีนวัตกรรมโดยฝีมือคนไทย ช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้รัฐสามารถประหยัดงบประมาณหลายร้อยล้านบาท หนุนนำไปใช้ในสถานพยาบาลทั่วประเทศ

นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) และ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ค. 2566 เพื่อเยี่ยมชมการจัดบริการสนับสนุนอุปกรณ์ใช้เก็บของเสียจากลำไส้ (ทวารเทียม) และระบบบริการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย สำหรับผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่ดำเนินการโดยโรงพยาบาลยะลา โดยมี พญ.นิตยา ภูวนานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา และ รศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์-สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ สำนักวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล 
 
สำหรับบัญชีนวัตกรรมไทย คือ รายการสินค้าหรือบริการที่พัฒนาขึ้นจากกระบวนการวิจัย พัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ หรือบริการเดิมด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทย คนไทยมีส่วนร่วม ซึ่งอาจเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว โดยต้องผ่านการทดสอบรับรองโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ 

รศ.นพ.วรวิทย์ กล่าวว่า ทวารเทียมถือเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาหลังจากที่ได้รับทุนการศึกษาวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ใช้ระยะเวลาในการวิจัย 5-6 ปี เพื่อการพัฒนาให้ได้มาตรฐาน และเมื่อการวิจัยเข้าปีที่ 7 ก็ได้เข้าร่วมกลายเป็นหนึ่งในบัญชีนวัตกรรมไทย

  • เดิมทีทวารเทียมต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 100%
  • ผู้ป่วยรายหนึ่งต้องใช้ 5 ชุดต่อเดือน
  • ราคาเฉลี่ยชุดละ 250-300 บาท
  • ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่มีทวารเทียมในระบบบัตรทองประมาณ 5.4 หมื่นราย
  • ต้องใช้อุปกรณ์รองรับสิ่งขับถ่ายอย่างน้อย 2.72 ชุดต่อปี
  • และถ้าดูผู้ป่วยทุกสิทธิทั่วประเทศจะมีจำนวน 1.5 แสนราย
  • ผู้ป่วยเหล่านี้ถ้าใช้งานอุปกรณ์ใน 1 ปี จะมีค่าใช้จ่าย 2,250 ล้านบาท
  • แต่ทวารเทียมที่ผลิตจากยางพารามีราคาอยู่ที่ 190 บาท
  • หากผู้ป่วยทั้งหมดหันมาใช้งานผลิตภัณฑ์นี้ ใน 1 ปี จะมีค่าใช้จ่ายรวม 1,710 ล้านบาท
  • สามารถประหยัดงบประมาณลงได้ถึง 540 ล้านบาท ถือเป็นการลดงบประมาณและการนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

     หลังจากที่มีการทดลองใช้ไปแล้ว ยังคงมีการติดตามผลและการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องมีการเข้าร่วมประชุมทุกเดือน เพื่อนำปัญหาที่พบเจอไปหาแนวทางพัฒนาต่อไป โดยทั้งหมดนี้มีเป้าหมาย เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มมูลค่ายางพาราในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งแนวทางที่จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องความมั่นคงของเครื่องมือแพทย์ไทย
    “จุดเด่นของทวารเทียมที่เราผลิตเองคือ ผลิตจากยางพาราที่สามารถกักเก็บของเสียได้ดี เวลาลอกแผ่นกาวออกก็จะไม่เหลือคราบกาวติดผิวหนัง มีพื้นผิวซิลิโคนที่โค้งรับกับหน้าท้องผู้ป่วย ซึ่งในอนาคตต้องมีการต่อยอดและพัฒนา เพื่อให้มีตัวเลือกที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยต่อไป” รศ.นพ.วรวิทย์ กล่าว

       นพ.สุวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันทวารเทียมเป็นสุดยอดนวัตกรรมของคนไทยถูกพัฒนาและวิจัย โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งใช้ยางพาราจากทางภาคใต้ของประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในการผลิต ซึ่งเป็นการผลิตที่ทำให้เหมาะสมต่อคนไทย โดยอ้างอิงความเหมาะสมต่อการใช้งานจากสิ่งแวดล้อม และสภาพภูมิอากาศในประเทศ หลังจากการผลิต สปสช. ก็ได้มีการเข้ามารับซื้อ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้ใช้ทวารเทียมจากนวัตกรรมไทยอย่างทั่วถึงและไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของประเทศไทย 
        “ทวารเทียมเป็นสิ่งของที่มีมาตรฐานทั้งจากการตรวจสอบจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมาตรฐานของบัญชีนวัตกรรมไทย ซึ่งมีมาตรฐานที่สูง อุปกรณ์ที่ได้ใช้มีมาตรฐานอย่างแน่นอน” นพ.สุวิทย์ กล่าว

บัตรทองให้ \'ทวารเทียม\' -\'รากฟันเทียม\' ฟรี นวัตกรรมฝีมือคนไทย
      นอกจากทวารเทียมแล้ว สปสช. ยังมีการสนับสนุนให้มีการใช้รากฟันเทียมที่ผลิตจากฝีมือคนไทย ซึ่งจากการดูงานในวันนี้พบว่า การผ่าตัดฝังรากฟันเทียมมีการพัฒนาไปมาก ประชาชนผู้ที่ฟันร่วงจนหมดปากและกำลังใส่ฟันปลอมอยู่ พบปัญหาฟันปลอมไม่ติดแน่นก็สามารถไปที่โรงพยาบาลที่ตนเองมีสิทธิบัตรทองเพื่อขอรับการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 
         ขณะที่ น.ส. ฮัฟเสาะห์ กาเดร์ อายุ 38 ปี ผู้ดูแลมารดาซึ่งเป็นผู้ป่วยติดบ้านวัย 78 ปี เปิดเผยถึงรายละเอียดที่ผู้เป็นแม่ได้ใช้ทวารเทียมว่า มารดาของตนเองได้ใช้ทวารเทียมครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ช่วงแรกที่แพทย์แจ้งว่าต้องใช้ทวารเทียมก็กลัวว่าจะมีขั้นตอนการใช้ที่ยุ่งยาก แต่หลังจากใช้ทวารเทียมก็มีความสะดวกสบาย สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ อีกทั้งอุปกรณ์ยังทำความสะอาดได้ง่าย และไม่มีกลิ่นตกค้าง สามารถขอรับบริการได้ที่โรงพยาบาลจากสิทธิบัตรทองได้ ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งวิธีการใช้งานมีเจ้าหน้าที่สอนการใช้งานอย่างละเอียดอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่ดีและควรสนับสนุนสิ่งดีๆ เหล่านี้ต่อไป

บัตรทองให้ \'ทวารเทียม\' -\'รากฟันเทียม\' ฟรี นวัตกรรมฝีมือคนไทย

ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สปสช. ให้ความสำคัญกับการใช้งานผลิตภัณฑ์ในบัญชีนวัตกรรมเป็นอย่างมาก หากมีรายการจัดซื้อ หรืออนุมัติสิทธิประโยชน์ใดที่มีผลิตภัณฑ์จากบัญชีนวัตกรรมก็จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นั้นก่อน เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงยังเป็นการเพิ่มโอกาสของผู้ผลิตให้สามารถผลิตสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ 

   การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการเยี่ยมชมการใช้ผลิตภัณฑ์จากบัญชีนวัตกรรม 2 ชิ้น คือ ชุดอุปกรณ์ใช้เก็บของเสียจากลำไส้และรากฟันเทียม เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานและนำคำแนะนำที่ได้สะท้อนกลับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น