‘เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ’ ใช้สิทธิบัตรทอง รับยาที่ร้านยาใกล้บ้านฟรี

‘เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ’ ใช้สิทธิบัตรทอง รับยาที่ร้านยาใกล้บ้านฟรี

สปสช.-สภาเภสัชกรรมเพิ่มบริการเภสัชกรรมปฐมภูมิ ‘เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ’ รับยาที่ร้านยาได้ฟรี ทั้งร้านยาชุมชนอบอุ่นกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ พร้อมให้คำปรึกษา สังเกตร้านยาเข้าร่วม ติดสติกเกอร์ด้านหน้า “ร้านยาคุณภาพของฉัน”

'เภสัชกร' เป็นหนึ่งในผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ที่มีบทบาทในการร่วมดูแลและช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้ โดยเภสัชกรส่วนหนึ่งทำหน้าที่ประจำอยู่ในร้านยาที่กระจายอยู่ในชุมชนพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ด้วยระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่ครอบคลุมดูแลการรักษาพยาบาลคนไทย 48 ล้านคน และครอบคลุมบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคคนไทยทุกคนหรือทุกสิทธิการรักษาทั่วประเทศ

ที่ผ่านมา สปสช.จึงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับทุกวิชาชีพด้านสุขภาพ รวมถึงเภสัชกรร้านยา เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิได้รับบริการสิทธิประโยชน์บัตรทอง 30 บาท ได้อย่างสะดวก ทั่วถึง มีคุณภาพและมาตรฐานบริการ ตามบริบทของแต่ละวิชาชีพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ปชช.สิทธิบัตรทอง 7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธ์ุฟรี 1 พ.ค.

ขั้นตอน จองคิว ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 'สิทธิบัตรทอง' เฉพาะพื้นที่ กทม. เช็กเลย

'สิทธิบัตรทอง' ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กทม. ส่งยาถึงบ้านฟรี ผ่าน 4 แอปฯ

รับฟรี 'ผ้าอ้อมผู้ใหญ่' 3 ชิ้น/วัน ผู้ป่วยติดบ้าน-ติดเตียง ตามสิทธิ สปสช.

 

เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ รับยาใกล้บ้านได้ฟรี

ทั้งนี้ 'ร้านยาชุมชนอบอุ่น' เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ที่ร่วมเป็นหน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรมในระบบบัตรทอง 30 บาท ตามมาตรา 3 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ตามที่บอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562

ในปีงบประมาณ 2566 นี้ สปสช.ได้ร่วมกับสภาเภสัชกรรมขยายการให้บริการบัตรทอง 30 บาท ที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นเพิ่มเติม โดยเพิ่มบริการเภสัชกรรมปฐมภูมิเพื่อดูแลประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือ Common Illness 

‘เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ’ ใช้สิทธิบัตรทอง รับยาที่ร้านยาใกล้บ้านฟรี

นพ.จเด็จ กล่าวว่า บริการเภสัชกรรมปฐมภูมินี้ จะครอบคลุมการดูแลภาวะเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการที่เป็นไปตามแนวทางและมาตรฐานการให้บริการเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยสภาเภสัชกรรม ได้แก่ อาการปวดหัว เวียนหัว ปวดข้อ เจ็บกล้ามเนื้อ ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก ถ่ายปัสสาวะขัด, ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะเจ็บ ตกขาวผิดปกติ อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน บาดแผล ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตา และความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหู

พร้อมติดตามอาการหลังรับยา 3 วัน ซึ่งประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจาก สปสช. ได้สนับสนุนการจ่ายชดเชยให้ร้านยา ทั้งค่าบริการให้คำปรึกษาด้านเภสัชกรรม ค่ายาและเวชภัณฑ์ และค่าติดตามอาการและผลการดูแล โดยเหมาจ่ายในอัตรา 180 บาทต่อครั้ง

 

เช็กขั้นตอนของรับบริการ ร้านยาชุมชนอบอุ่นใกล้บ้าน

บริการเภสัชกรรมปฐมภูมินี้ระบบมีความพร้อมและเริ่มให้บริการแล้วพร้อมกันทั่วประเทศ โดยร้านยาชุมชนอบอุ่นที่ร่วมให้บริการ จะต้องผ่านการอบรมและควบคุมโดยสภาเภสัชกรรม ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 500 แห่งแล้ว สำหรับขั้นตอนการเข้ารับบริการ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ

1.คนไข้ติดต่อไปยัง สปสช. ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำให้รับบริการที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นใกล้บ้าน

หรือ 2.ดูรายชื่อร้านยาใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/downloads/204 หรือสังเกตสติกเกอร์ติดหน้าร้านยา ภายใต้ชื่อ ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย

หลังจากนั้นเมื่อผู้ป่วยมาที่ร้านยา (นำบัตรประชาชนไปด้วย กรณีเด็กเล็กใช้สำเนาสูติบัตรหรือใบเกิดคู่กับบัตรประชาชนของผู้ปกครอง) เภสัชกรจะคัดกรองสิทธิคนไข้ว่าจะสามารถรับบริการตามสิทธิบัตรทองได้หรือไม่ หากมีสิทธิก็รับการดูแลโดยเภสัชกร ซึ่งจะให้คำแนะนำและให้ยารักษาตามอาการ หรือแนะนำให้พบแพทย์ที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิของผู้ป่วย

"ในกรณีที่มีอาการที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ กรณีที่รับยาจากร้านยาแล้ว เภสัชกรจะติดตามอาการของผู้ป่วยในวันที่ 3 หรือ 72 ชั่วโมงของการจ่ายยา หากอาการดีขึ้นก็จะสิ้นสุดการดูแล กรณีอาการแย่ลงหรือมีการเปลี่ยนแปลงก็จะแนะนำให้ไปรักษาที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิของผู้ป่วยเพื่อเข้าสู่การรักษาต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ด้วยบริการนี้เชื่อมั่นว่า นอกจากจะลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการปฐมภูมิให้กับประชาชนในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อยแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสะดวกการเข้ารับบริการแบบใกล้บ้านใกล้ใจ ขณะเดียวกันยังช่วยลดความแออัดการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล นับเป็นอีกนวัตกรรมระบบบริการสุขภาพที่ สปสช. ได้พัฒนาโดยความร่วมมือจากสภาเภสัชกรรม