อาการโควิดล่าสุด รุนแรงแค่ไหน เปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโอมิครอน XBB.1.16

อาการโควิดล่าสุด รุนแรงแค่ไหน เปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโอมิครอน XBB.1.16

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล (หมอนิธิพัฒน์) โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น "โควิด-19" โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในเวลานี้ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการโควิดล่าสุด

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล (หมอนิธิพัฒน์) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น "โควิด-19" โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในเวลานี้ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการโควิดล่าสุด

เมื่อวานรับทราบการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด แล้วอดไม่สบายใจต้องมาแสดงความเห็นวันนี้

เรื่องสุดท้ายจากทั้งหมด 3 เรื่องคือ มีการเผยแพร่ในสื่อทั่วไปอย่างดารดาษ ว่าโอมิครอนArcturus หรือ XBB.1.16 (.1)” อาจทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ในประเทศ แถมทำให้มีอาการรุนแรงได้ เช่น เลือดออกในทวารต่างๆของร่างกาย

ที่จริงแล้วอาการของผู้ติดเชื้อโควิดจะมากจะน้อยขึ้นกับปัจจัย 2 ด้าน คือ ปัจจัยทางด้านเชื้อ และปัจจัยทางด้านผู้ติดเชื้อ ในแง่เชื้อปัจจุบันโอไมครอนทุกสายตระกูลย่อย ยังไม่มีตัวใดรุนแรงกว่าบรรพบุรุษ ในแง่ผู้ติดเชื้อถ้ามีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งจากการเคยติดหรือเคยฉีด โอกาสโรคจะรุนแรงน้อยมากๆ ถ้ารุนแรงก็มักจะเป็นคนที่มีโรคทางร่างกายบางอย่างอยู่ก่อน หรือเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในตัวตอบสนองต่อการติดเชื้อรุนแรงเกินเหตุ

ถ้าดูข้อมูลการเฝ้าระวังในบ้านเราเอง เชื้อนี้ตรวจพบในประเทศตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว และค่อยเพิ่มมากขึ้นจนตระกูล XBB นี้กำลังจะแซงหน้าตระกูล BN แต่ทั้ง 2 ชนิดนี้ก็ร่วมบรรพบุรุษ BA.2 มาด้วยกัน

ส่วนสายตระกูล BQ ที่มาจากบรรพบุรุษ BA.5 ดูเหมือนจะเร่งเครื่องไม่ขึ้นในบ้านเรา ในทางการแพทย์จึงไม่ได้กังวลในแง่ความรุนแรง และข้อมูลการเฝ้าระวังผู้ป่วยโควิดอาการหนัก ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายเกินสัดส่วนที่ควรจะเป็นสำหรับผู้ติดเชื้อทั้งหมด

ขณะนี้ผมประมาณการว่าคนในประเทศติดเชื้อราววันละ 5,000-10,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นพีคเล็กเมื่อเทียบกับพีคของปีก่อน และน่าจะค่อยๆลดลงใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งเพราะเชื้อตัวนี้อาจแหวกภูมิได้บ้าง แต่ส่วนหลักน่าจะเป็นเพราะเราเปิดประเทศให้คนนอกและคนของเรามากขึ้น อีกทั้งคนที่เคยติดโอไมครอนช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อน ก็ได้เวลาจะติดซ้ำอีกรอบเมื่อมีกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น แต่ผลเสียจากการติดเชื้อเพิ่มขึ้นนี้ผมคิดว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับประโยชน์ของประเทศในการเดินหน้าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการเลือกตั้งที่เราหวังว่าอาจจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้บ้าง

การให้ความเห็นต่อเรื่องสุขภาพสู่สาธารณะ ผมถือว่านักวิชาการต้องถือหลัก 3 ประการ คือ

1.ให้ข้อมูลที่มีหลักฐานสนับสนุนทางวิชาการเพียงพอ ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกส่วนบุคคลหรืออิทธิพลทางการเมืองมากำหนด

2.ถ้าส่วนใดเป็นการแสดงความเห็นส่วนบุคคล ต้องพร้อมรับผิดชอบ รวมถึงยอมแก้ไขเมื่อมีข้อมูลใหม่มายืนยัน

3.สื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น และเหมาะสมกับระดับการรับรู้ของผู้ฟัง พูดให้เขาเข้าใจและเชื่อตามที่เรารู้ ไม่ใช่พูดเพื่อแสดงว่าเรารู้แล้วให้เขาเชื่อตาม

 

cr เฟซบุ๊ก หมอนิธิพัฒน์