สปสช.เปิดมาตรการรองรับ “1 ต.ค.65 นี้ ยกเลิกสัญญา 9 รพ.เอกชน” ในระบบบัตรทอง

สปสช.เปิดมาตรการรองรับ “1 ต.ค.65 นี้ ยกเลิกสัญญา 9 รพ.เอกชน” ในระบบบัตรทอง

สปสช. ย้ำ “ไม่ลอยแพผู้ป่วย” เตรียมพร้อมมาตรการรองรับ 1 ต.ค.65 นี้ “ยกเลิกสัญญา 9 รพ.เอกชน เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ และหน่วยบริการรับส่งต่อในระบบบัตรทอง” เร่งจัดหาหน่วยบริการรองรับเพิ่ม พร้อมประสานดูแลผู้ป่วยมีนัดรักษา/ผู้ป่วยโรคเรื้อรังรักษาต่อเนื่อง   

พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สปสช.ได้ยกเลิกสัญญาบริการสาธารณสุขโรงพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท จำนวน 9 แห่ง ได้แก่

  • รพ.มเหสักข์
  • รพ.บางนา 1
  • รพ.ประชาพัฒน์
  •  รพ.นวมินทร์
  • รพ.เพชรเวช
  •  รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2
  •  รพ.แพทย์ปัญญา
  • รพ.บางมด 
  • รพ.กล้วยน้ำไท

จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

โดย รพ.ทั้ง 9 แห่งนี้ ดูแลประชากรผู้มีสิทธิบัตรทองจำนวน 696,103 คน ในจำนวนนี้มีเพียง 62,331 คน หรือประมาณร้อยละ 9 ที่ใช้สิทธิรับบริการ โดยเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวน 24,058 คน

 

  • เปิดมาตรการรองรับผู้ป่วย เพิ่มหน่วยบริการปฐมภูมิช่วยดูแล

ทั้งนี้ ขอเรียนว่าที่ผ่านมา สปสช.ได้เตรียมพร้อมมาตรการต่างๆ รองรับไว้แล้ว เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยจัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิเพื่อรองรับให้การดูแล เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และร้านยา ฯลฯ

พร้อมจัดระบบบริการปฐมภูมิรูปแบบใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้บริการ ได้แก่ ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเพิ่มทางเลือกกับให้กับประชาชน ขณะเดียวกันได้จัดหาโรงพยาบาลรับส่งต่อ พร้อมกับประสานและจัดหน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีนัดรักษาหรือติดตามอาการ

พญ.ลลิตยา กล่าวว่า ผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทที่ลงทะเบียนใช้สิทธิกับ รพ.เอกชนทั้ง 9 แห่งนี้ กรณีผู้ป่วยใน ที่ยังนอนอยู่ รพ. รักษาต่อไปได้ จนกว่าจะปลอดภัย กรณีที่เป็นผู้ป่วยนัดรักษาต่อเนื่อง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ ที่มีนัดติดตามอาการ ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และกรณีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด ฯลฯ ผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเร่งด่วน สปสช.ได้ประสานและจัดหาหน่วยบริการเพื่อให้การรักษาต่อเนื่องแล้ว

สปสช.เปิดมาตรการรองรับ “1 ต.ค.65 นี้ ยกเลิกสัญญา 9 รพ.เอกชน” ในระบบบัตรทอง

เบื้องต้นขอให้ท่านติดต่อขอรับเวชระเบียน (ข้อมูลและประวัติการรักษา) กับโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ในขณะนี้ โดย สปสช.ได้ทำหนังสือถึง รพ. ทั้ง 9 แห่ง เพื่อขอข้อมูลผู้ป่วยพร้อมประวัติการรักษาด้วยเช่นกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประสานส่งต่อผู้ป่วย

 

  • ผู้ป่วยที่ต้องรักษาต่อเนื่อง หากไม่ได้รับการติดต่อ โทรสายด่วนสปสช.

“ผู้ป่วยที่ต้องรักษาต่อเนื่องถือเป็นผู้ป่วยกลุ่มเร่งด่วน ซึ่ง สปสช.ได้ขอข้อมูลจากโรงพยาบาลเพื่อติดต่อไปยังผู้ป่วยในการแจ้งหน่วยบริการที่จะเข้ารักษารักษาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยรายใดไม่ได้รับการติดต่อจาก สปสช. ขอให้ท่านโทรมายังสายด่วน สปสช. 1330 กด 6 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

สำหรับผู้ป่วยไตที่มีนัดฟอกไตกับทั้ง 9 รพ.เอกชนนี้ ยังคงรับบริการได้ตามนัดเหมือนเดิม เนื่องจากการยกเลิกสัญญาไม่ได้รวมถึงการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 

ส่วนกรณีผู้ที่ไม่ใช่ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่องนั้น พญ.ลลิตยา กล่าวว่า ระหว่างนี้ขอให้ท่านตรวจสอบสิทธิการรักษา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ

1.ผู้ที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) และสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) เป็น 1 ใน 9 รพ.เอกชน ขอให้ท่านลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการแห่งใหม่ที่อยู่ในเขตพื้นที่ ซึ่งในกรณีที่ไม่มีหน่วยบริการในเขตพื้นที่ให้เลือกลงทะเบียน

ขออย่ากังวลใจ เพราะขณะนี้ สปสช.อยู่ระหว่างการเร่งจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป หากเกิดภาวะเจ็บป่วยท่านก็ยังใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ โดยเข้ารับบริการที่ทุกหน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งในระบบบัตรทอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สปสช.เปิดมาตรการรองรับ “1 ต.ค.65 นี้ ยกเลิกสัญญา 9 รพ.เอกชน” ในระบบบัตรทอง

2.ผู้ที่สถานพยาบาลเข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) เป็นคลินิกเอกชนหรือศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ไม่ใช่ รพ. 9 แห่งนี้ และมีสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) ระบุว่า เป็น 1 ใน 9 รพ.เอกชน เมื่อเจ็บป่วยท่านยังคงเข้ารับการรักษาได้ตามรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้นตามสิทธิได้เช่นเดิม

กรณีที่จะต้องถูกส่งต่อไปรักษายังสถานพยาบาลอื่น สปสช.ได้ประสานงานให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่ได้จัดหาเพิ่มให้ ส่วนกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินใช้สิทธิรักษาเหมือนเดิมทุกประการ

ตรวจสอบสิทธิการรักษาที่เว็บไซต์ สปสช. https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml หรือที่ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิกลิงค์ https://lin.ee/zzn3pU6 เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิ หรือแอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิตนเอง

ดูรายชื่อหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

  • เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital
  • เว็บไซต์ Nostra map https://map.nostramap.com/NostraMap/ หรือแอปพลิเคชัน Nostra Map เลือกชั้นข้อมูลที่เขียนว่า รายชื่อสถานพยาบาลในระบบ สปสช.

(เลือกประเภทการขึ้นทะเบียนที่ระบุว่า บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป หรือหน่วยบริการประจำ)

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

1.สายด่วน สปสช. 1330 กด 6

2.ช่องทางออนไลน์

  • ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
  • Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
  • ไลน์ ทราฟฟี่ ฟองดูว์ พิมพ์ไลน์ไอดี @traffyfondue หรือคลิก https://lin.ee/nwxfnHw