Formulating Pathway: วางแผนสู่อนาคต ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน

Formulating Pathway: วางแผนสู่อนาคต ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน

โลกในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้นำทุกคนไม่อาจยึดติดกับวิสัยทัศน์และความฝันเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป

เพราะในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาตลอดเวลา ความต้องการของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปทุกๆ นาที ผู้นำที่แท้จริงจึงต้องเป็นผู้ที่สามารถเปลี่ยนภาพฝันให้กลายเป็นเส้นทางปฏิบัติการที่ชัดเจนและจับต้องได้ นี่คือหัวใจของ “Formulating Pathway” หนึ่งในทักษะสำคัญที่ผู้นำยุคใหม่จำเป็นต้องมี เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

Formulating Pathway คือศิลปะของการแปลงความมุ่งมั่นให้กลายเป็นแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจน รวมไปถึงการจัดลำดับความสำคัญและการจัดการทรัพยากรอย่างเหมาะสม นอกจากนั้น ผู้นำยังต้องเข้าใจความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัว เพื่อให้สามารถใช้แผนสำรองที่วางไว้ล่วงหน้า รับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้

ตัวอย่างที่โดดเด่นระดับโลกคือ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ แต่กลับเริ่มต้นจากการ “เล่าอนาคตใหม่” ให้ทีมงานฟัง Nadella สร้างวัฒนธรรมที่เน้นความร่วมมือและนวัตกรรม พร้อมกำหนดกลยุทธ์และหมุดหมายที่ชัดเจนสำหรับทุกขั้นตอน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'วิกฤตขาดแคลนเภสัชกร-แข่งขันสูง' ผ่าความมั่นคงทางยาของไทย

คุณก็ทำได้! ถอดรหัสอายุยืนง่ายๆ สไตล์คน Blue Zones 6 เมือง

เมื่อผู้นำมีความชัดเจนในเป้าหมายและ สามารถอธิบายเส้นทางที่จะนำพาทีมไปสู่เป้าหมายได้ ทีมงานย่อมมีความมั่นใจและพร้อมจะเดินหน้าตามแผนอย่างไม่ลังเล ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ Microsoft สามารถเปลี่ยนตัวเองจากบริษัทที่เน้นขาย software บน desktop ไปสู่ผู้ให้บริการ cloud-based platform ระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Howard Schultz แห่ง Starbucks ผู้ซึ่งพลิกฟื้นแบรนด์กาแฟให้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก Schultz ไม่เพียงแต่เห็นภาพอนาคตของ Starbucks ในฐานะเป็นสถานที่ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์กาแฟที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเน้นสร้างเส้นทางที่ชัดเจนเพื่อไปให้ถึงภาพฝันนั้นด้วย เขากำหนดเป้าหมายและแนวทางไปที่ชัดเจน ผ่านการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ การลงทุนในนวัตกรรม การสร้างวัฒนธรรมองค์กร และการปรับสภาพแวดล้อมของร้านให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น การทำงานของ Schultz ส่งผลให้ Starbucks เติบโตจากร้านกาแฟเล็กๆ ในเมืองซีแอตเทิลสู่แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

สำหรับผู้นำที่ต้องการเริ่มต้นพัฒนาทักษะนี้ สิ่งสำคัญคือการทำให้เป้าหมายเป็นภาพที่ชัดเจนจนทุกคนในทีมเข้าใจตรงกัน ไม่ใช่แค่กล่าวว่าองค์กรจะ “เติบโตและแตกต่าง” แต่ต้องระบุอย่างเจาะจงว่าเราจะเติบโตในกลุ่มลูกค้าใด ด้วยผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไร จากนั้นจึงชี้ให้เห็นทางเดินที่จะไปสู่ความสำเร็จนั้น โดยเปิดโอกาสให้ทีมมีส่วนร่วมในการออกแบบเส้นทางด้วย วีธีการแบบนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ทีมรู้สึกเป็นเจ้า แต่ยังช่วยให้ทุกฝ่ายทำงานประสานกันได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ การกำหนดตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลความสำเร็จได้ เช่น milestone และ KPI ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การดำเนินงานมีทิศทางและสามารถปรับเปลี่ยนได้หากเกิดปัญหา

ผู้นำที่ดีต้องรู้จักการจัดลำดับความสำคัญ ไม่ใช่ทำทุกอย่างพร้อมกัน แต่ต้องแยกแยะว่าสิ่งใดสำคัญและเร่งด่วน สิ่งใดสำคัญแต่สามารถรอได้ และที่สำคัญที่สุดคือการเผื่อทางเลี่ยงและแผนสำรอง เพราะโลกยุคใหม่นั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เมื่อผู้นำสามารถรับมือกับอุปสรรคและปรับเส้นทางได้ทันท่วงที องค์กรจึงจะมีความยืดหยุ่นและพร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Formulating Pathway ไม่ใช่พรสวรรค์ แต่คือทักษะที่ผู้นำทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลงมือทำ เพราะเมื่อผู้นำสามารถวางเส้นทางเดินที่ชัดเจนได้ ความมั่นใจของทีมจะเพิ่มมากขึ้น การดำเนินงานจะมีประสิทธิภาพ และองค์กรจะมีความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกที่ไม่หยุดนิ่งได้