Articulating Vision : สื่อความฝัน ปั้นอนาคต โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

ในยุคที่โลกหมุนเร็ว เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ตลาดแข่งขันดุเดือด และพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป การบริหารแบบเดิมๆ อาจไม่สามารถนำพาทีมและองค์กรไปถึงเป้าหมายได้อีกต่อไป
หนึ่งในความสามารถของการเป็นผู้นำแบบ IMPACT Leadership (คุณสมบัติของผู้นำยุคใหม่ ที่สลิงชอท กรุ๊ป ทำวิจัยร่วมกับ Center for Creative Leadership) คือ “การสื่อสารความสำเร็จในอนาคตให้ทีมเห็นภาพได้อย่างชัดเจน” หรือ Articulating Vision
การสื่อสารวิสัยทัศน์ไม่ใช่งานของ CEO หรือผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น แต่เป็นทักษะที่หัวหน้าทีมทุกคนในทุกระดับจำเป็นต้องมี เพราะหากทีมไม่เห็นภาพความสำเร็จ พวกเขาจะสะเปะสะปะและเสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์
Articulating Vision ไม่ได้หมายถึงการออกมายืนพูดสุนทรพจน์ยาวๆ บนเวที หรือการทำ Presentation สวยๆ แต่หมายถึงการถ่ายทอดภาพอนาคตให้ผู้ฟังเห็นภาพ รู้สึกฮึกเหิม และจุดไฟแห่งแรงบันดาลใจให้ลุกโชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พนักงานที่องค์กรไม่อาจขาดได้ โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
IMPACT: คุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้บริหารไทย โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
องค์กรที่ไม่มีการArticulate Vision เสี่ยงพลาดโอกาส
หากผู้นำขาดทักษะนี้ ทีมมักเจอปัญหาหลายอย่างตามมาแบบไม่รู้ตัว บางทีมเสียเวลาไปกับงานที่ไม่เชื่อมโยงกับเป้าหมายหลัก งานยุ่งแต่ผลลัพธ์ไม่เกิด บางทีมพนักงานรู้สึกเบื่อหน่าย ขาดแรงบันดาลใจ เพราะไม่เข้าใจว่าหน้าที่ที่ทำอยู่ มีความหมายอย่างไรต่อภาพรวมขององค์กร บางครั้งเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเจอกับกำแพงแห่งความไม่เข้าใจและแรงต้านที่ไม่จำเป็น เพราะคนไม่ได้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะพาไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้อย่างไร
องค์กรที่ไม่มีการ Articulate Vision อย่างชัดเจน ยังเสี่ยงต่อการพลาดโอกาสเชิงกลยุทธ์ เพราะทีมไม่สามารถจับสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ทัน และเมื่อแต่ละฝ่ายทำงานโดยไม่มีเป้าหมายร่วมกัน ก็เกิดการตัดสินใจที่แตกแยก สุดท้ายความเชื่อมั่นจากลูกค้า ผู้ใช้บริการ นักลงทุน หรือแม้แต่พนักงานเองจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพราะในโลกของความเป็นจริง ผู้นำที่สามารถ Articulate Vision ได้ดี คือผู้นำที่พาองค์กรสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้จริงๆ หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนมาก คือ Satya Nadella ผู้บริหารสูงสุดของ Microsoft
ย้อนกลับไปในปี 2014 ตอนที่ Nadella ขึ้นมารับตำแหน่ง Microsoft กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก บริษัทใหญ่โต แต่ดูเหมือนกำลังหลงทาง Nadella ไม่ได้เริ่มจากการปรับผลิตภัณฑ์หรือโครงสร้างองค์กร เขาเริ่มจากการเปลี่ยน “วิธีเล่าเรื่อง” ของ Microsoft ใหม่ ประกาศให้ทุกคนในองค์กรเห็นภาพว่า Microsoft จะเปลี่ยนตัวเองจากบริษัทซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ มาเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์สำหรับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยมือถือและคลาวด์
เขาไม่ได้พูดด้วยศัพท์เทคนิคยากๆ แต่เล่าให้พนักงานทุกคนรู้สึกว่า พวกเขากำลังมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่น่าตื่นเต้น ผ่านแนวคิดเรื่อง “Growth Mindset” หรือวัฒนธรรมการเรียนรู้และเติบโตตลอดเวลา ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนมาก เพราะพนักงานเริ่มรู้สึกเป็นเจ้าของการเปลี่ยนแปลง วัฒนธรรมการแข่งขันภายในองค์กรค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน ราคาหุ้นของ Microsoft พุ่งขึ้นกว่า 5 เท่าภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี
นี่แหละ คือพลังของผู้นำที่รู้จัก Articulate Vision
แม้เราจะไม่ได้เป็น CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft แต่เชื่อเถอะว่าทักษะนี้สามารถฝึกฝนได้ ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดง่ายๆ ในการสื่อสารงานแต่ละวัน ลองหยุดบอกว่า “ต้องทำอะไร” แต่เปลี่ยนเป็นเล่าให้ฟังว่า “เพราะอะไร” และ “ปลายทางที่กำลังมุ่งไปคืออะไร”
แทนที่จะสั่งให้ทำโพรเจกต์ให้เสร็จภายในสิ้นไตรมาสนี้ ลองเปลี่ยนเป็นเล่าให้ฟังว่าทำไมโพรเจกต์นี้ถึงสำคัญต่ออนาคตของบริษัท และทำไมงานเล็กๆ ที่พวกเขาทำอยู่ทุกวัน จึงมีความหมายต่อการบรรลุเป้าหมายใหญ่ขององค์กร
การฝึกพูดในรูปแบบ “เล่าเรื่อง” แทนการแจกแจงรายละเอียดและนำเสนอเป็นข้อๆ (Bullet Points) จะช่วยให้คนเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับวิสัยทัศน์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การพยายามสื่อสารภาพใหญ่ให้ชัดเจนทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น การประชุมทีม การพูดคุยรายบุคคล หรือแม้แต่ตอนทำ Townhall ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะนี้ได้อย่างเป็นอย่างดี
ที่สำคัญ ผู้นำที่อยากเก่งเรื่องนี้ต้องกล้าที่จะเปิดรับเสียงสะท้อนกลับ (Feedback) จากทีม ถามตรงๆ ว่า “ฟังที่พี่พูดแล้ว เห็นภาพอะไร?” หรือ “เข้าใจไหมว่าเรากำลังมุ่งไปทางไหน?” เพราะการเข้าใจว่าคนฟังรับสารได้แค่ไหน จะช่วยให้เราปรับปรุงวิธีการสื่อสารให้ดีขึ้นได้ ในครั้งถัดๆ ไป
การลงทุนเวลาด้วยการอ่านหนังสือดีๆ อย่าง “Start With Why” ของ Simon Sinek หรือเรียนรู้จาก Workshop ที่เกี่ยวกับการสื่อสารวิสัยทัศน์หรือทักษะการเล่าเรื่อง ก็เป็นอีกทางลัดหนึ่งที่จะช่วยเสริมทักษะนี้ได้รวดเร็วขึ้น
เมื่อผู้นำสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ได้อย่างชัดเจน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะชัดเจนมากขึ้นตามไปด้วย ทีมจะเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ลดความสับสน ความขัดแย้งภายในองค์กรจะลดลงอย่างมาก พนักงานรู้สึกมีเป้าหมายในการทำงาน และรู้สึกว่าตัวเองมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตขององค์กร
ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็ว ความชัดเจนคือพลังที่สำคัญที่สุด และการ Articulate Vision คือเครื่องมือที่ดีที่สุดที่ผู้นำทุกคนควรมีอยู่ในยุคนี้
อย่ารอให้ถึงวันที่ทุกอย่างหมุนเร็วเกินกว่าจะตั้งหลักได้ มาสร้าง “ภาพอนาคตร่วมกัน” กับทีมตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะพบว่า องค์กรที่มีคนเห็นภาพเดียวกัน คือองค์กรที่ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้จริงๆ







