Shadow Work ทำให้ “ตาสว่าง” | วรากรณ์ สามโกเศศ

Shadow Work ทำให้ “ตาสว่าง” | วรากรณ์ สามโกเศศ

บางสิ่งรอบตัวเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่เรามิได้ตระหนักเพราะมันเปลี่ยนไปช้า ๆ อย่างมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเรา จนกระทั่งมีคนที่สังเกตเห็นมาบอกและทำให้เรา “ตาสว่าง” ขึ้น    เข้าใจโลกของ "เศรษฐกิจใหม่" มากขึ้นและทำให้เราตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น

สิ่งที่พูดถึงนี้มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า Shadow Work ( SW หรือ “งานในเงา”) ตัวนี้แหละที่ทำให้เราต้องทำงานหนักขึ้นกว่าสมัยก่อนโดยมิได้มีเงินตอบแทนแต่อย่างใด

                SW เป็นคำที่บัญญัติขึ้นโดยนักปรัชญาและนักวิจารณ์สังคมชาวออสเตรีย ชื่อ Ivan Illich       ในปี 1981 ซึ่งหมายถึงงานต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจที่มีประโยชน์แต่ผู้ทำมิได้รับผลตอบแทนทางการเงิน  เช่น  การดูแลลูก   การเป็นแม่บ้านให้ครอบครัว   ฯลฯ    

ปัจจุบัน SW ครอบคลุมงานอีกหลายอย่าง ที่ผู้คนต้องรับภาระมากขึ้นอย่างมิได้รับผลตอบแทน อันเป็นผลมาจากนโยบายและเทคโนโลยี  เช่น ประกอบเฟอร์นิเจอร์ที่ซื้อมาเอง    เติมน้ำมันที่สถานบริการด้วยตัวเอง     นักท่องเที่ยวจัดทริปและจองโรงแรมเอง    ฯลฯ

Craig Lambert อดีตบรรณาธิการของ Harvard magazine เขียนหนังสือเกี่ยวกับ SW ในปี 2015   ชี้ให้เห็นสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นโดยยกสารพัดตัวอย่างให้เห็น    

เมื่ออ่านแล้วก็นึกขึ้นได้ทันทีว่า ปัจจุบันพวกเราต้องทำงานแทนองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนโดยไม่ได้รับผลตอบแทน   มันทำให้เรามีภาระในการดำรงชีวิตมากขึ้นจนมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

              กล่าวสั้น ๆ ว่า SW คืองานที่ผู้บริโภคทำแทนองค์กรเอกชนและภาครัฐอย่างฟรี ๆ ทั้ง ๆ ที่ในอดีตงานเหล่านี้อาจเคยมีคนทำที่ได้รับผลตอบแทน    การย้ายงานมาให้ผู้บริโภคทำแทนจึงทำให้การบริหารยุ่งยากน้อยลง และเป็นการประหยัดต้นทุน    เหตุที่องค์กรเหล่านี้ทำได้ก็เพราะนโยบายและเทคโนโลยี

ผู้เขียนขอยกตัวอย่างกรณีที่ SW เกิดขึ้น และวิเคราะห์ภาพรวมตอนท้ายถึงสาเหตุและผลกระทบ  ตัวอย่างมีดังต่อไปนี้  

(1) มีร้านอาหารจำนวนมากที่ผู้บริโภคเสิร์ฟอาหรและเก็บจานชามเอง   ร้านเหล่านี้แทนที่จะต้องมีลูกจ้างมาทำงานดังกล่าวก็ได้ผู้บริโภคมาทำแทน    ดังนั้น จึงมีการเปลี่ยนสภาพจาก “ลูกค้าบริสุทธิ์” มาเป็นลูกค้าและ “ลูกจ้างเทียม” ด้วยในเวลาเดียวกัน งานที่ทำฟรีในส่วนนี้ก็คือ SW    

Shadow Work ทำให้ “ตาสว่าง” | วรากรณ์ สามโกเศศ

(2)  องค์กรใหญ่ ๆ ในโลกปัจจุบันนั้นผู้บริหารระดับกลางมักไม่มีเลขานุการช่วยทำงานเหมือนในอดีต เนื่องจากเทคโนโลยีก้าวหน้าจนผู้บริหารสามารถค้นหาข้อมูล    จัดระเบียบข้อมูล     พิมพ์งาน    ผลิตงาน    ฯลฯ   ได้ด้วยตนเองในระดับหนึ่งอย่างสะดวก  

งานที่เลขานุการเคยทำก็ถูกโอนมาให้ผู้บริหารระดับกลางเหล่านี้ทำเอง โดยมิได้จ่ายเงินชดเชยการทำงานในส่วนนี้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด   

 (3)  งานของตำรวจในการต้องออกตรวจท้องที่อย่างสม่ำเสมอลดน้อยลงมาก เพราะความก้าวหน้าและราคาของกล้องวงจรปิดในที่สาธารณะ    เจ้าของบ้านต้องรับภาระการดูแลความปลอดภัยของบ้านด้วยตนเองเพิ่มขึ้น จนอาจมีเวลาในการทำมาหากินน้อยลง  

ในบางกรณีก็ซื้อและติดตั้งวงจรปิดในบ้านเอง     เงินที่ซื้อส่วนนี้ก็มาจากรายได้ส่วนตัว ดังนั้นจึงเท่ากับว่านอกจากจะต้องทำงานเพิ่มขึ้นแล้วยังต้องเสียเงินเพิ่มอีกด้วย    

(4)  หลายสายการบินในหลายประเทศในปัจจุบัน   ผู้โดยสายต้องเช็คกระเป๋าขึ้นเครื่องเอง    ทั้งต้องยกกระเป๋าหนักลงจากรถเข็นเพื่อขึ้นบนที่ชั่งน้ำหนัก และบางครั้งต้องยกไปเข้าเครื่องเอ็กซ์ย์อีกทีหนึ่งด้วย   งานเหล่านี้ผู้โดยสารทำฟรี   ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ทำให้   สายการบินประหยัดต้นทุนไปได้มากด้วยนโยบายเช่นนี้และเทคโนโลยีที่สนับสนุน

  (5) เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นคว้าหาข้อมูลโรงแรม  ข้อมูลตั๋วเครื่องบิน    จัดทริป   ฯลฯ  เองเพื่อนำไปประกอบการจองสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ กับเอเยนซี    ในกรณีนี้งานหนักที่เคยเป็นของเอเยนซีก็ตกมาเป็นของนักท่องเที่ยวแทน   โดยทำ SW  เช่นนี้ฟรี   ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเป็นงานที่ได้รับเงินตอบแทน  

Shadow Work ทำให้ “ตาสว่าง” | วรากรณ์ สามโกเศศ

(6)  การเติมน้ำมันที่สถานีบริการด้วยตนเองเป็นทางโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก   เจ้าของรถอาจได้รับผลตอบแทนเล็กน้อยจากราคาน้ำมันที่ถูกลง   แต่ก็เปรียบเทียบไม่ได้เลยกับเงินค่าจ้างคนให้บริการเติมน้ำมันของสถานีจนเจ้าของได้ประโยชน์    

หากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วโลกกับทุกสถานีบริการก็หมายความว่าเจ้าของรถต้องทำงาน SW กันทั่วหน้าแทนบริษัทน้ำมันโดยทำให้เกือบฟรี

 (7)  ในวัน ๆ หนึ่งหากนับเวลาที่ผู้คนทั้งหลายต้องเสียไปกับการคืนรถเข็นซูเปอร์มาเก็ตไปยังจุดเก็บก็มหาศาล    มันเป็นเวลาและแรงงานที่ลูกค้าต้องเสียไป   โดยทำแทนผู้ให้บริการที่เคยเป็นผู้เก็บรถเข็น   ถึงมันจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่ก็คือ SW ตัวจริง  

(8)  ผู้บริโภคต้องอ่านคู่มือการติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เองอย่างปวดหัวและเสียเวลา  โดยดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะบริษัทส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่มีบริการตอบคำถามทางโทรศัพท์เช่นเมื่อก่อนอีกต่อไป   SW ในรูปของการอ่านคู่มือเป็นงานที่ถูกผลักไปให้ผู้บริโภคทำเองแทน

 หากพิจารณารอบตัวก็จะยิ่งเห็น SW มากขึ้นทุกทีในชีวิต    เราต้องเสียเวลาซึ่งเป็นทรัพยากรที่หมดแล้วหมดไปอย่างมีค่ายิ่งไปกับงานที่ถูกโอนมาให้ผู้บริโภครับผิดชอบ    องค์กรเอกชนนับวันก็ยิ่งเคลื่อนไปในทิศทางนี้มากขึ้นทุกทีในการดำเนินชีวิตและการทำงานเพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเป็นผู้เปิดโอกาสให้    

สิ่งที่สูญเสียไปอย่างสำคัญคือ การจ้างงาน    ถ้าไม่มี SW ก็จะมีคนทำงานที่ได้รับผลตอบแทน   เช่น คนประกอบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์   เลขานุการผู้บริหารระดับกลาง พนักงานร้านอาหาร  พนักงานของซูเปอร์มาเก็ต    พนักงานเติมน้ำมัน   พนักงานเอเย่นต์ท่องเที่ยว    พนักงานบริการตอบคำถามทางโทรศัพท์ ฯลฯ

การผลักภาระเช่นนี้ทำให้ชีวิตของผู้บริโภคต้องลำบากมากขึ้น   แต่ละวันต้องเสียเวลาและเสียทรัพยากรต่าง ๆ ไปกับ SW ที่มิได้รับผลตอบแทน   และนับวันมีทางโน้มที่มากขึ้นทุกทีเมื่อเทคโนโลยีเป็นใจให้ และบริษัททั้งหลายก็ชอบเพราะลดต้นทุน

ใครที่รู้สึกว่าในวัน ๆ หนึ่งนั้นเวลาหมดไปอย่างรวดเร็วกับอะไรก็ไม่รู้  อาจเห็นภาพชัดเจนขึ้นจากการตระหนักถึง SW ที่แพร่หลายไปทั่วโลกอย่างชนิดที่ผู้บริโภคไม่รู้ตัว  

SW ช่วยให้เราเห็น “สิ่งที่มองไม่เห็น”  และเข้าใจต้นทุนที่ต้องเสียไปอย่างแท้จริงในการบริโภคสินค้าและบริการต่าง ๆ ในโลกของ “เศรษฐกิจใหม่” ในปัจจุบัน.