แผ่นดินไหวตุรกี เปิดใจสาวแรงงานไทยที่รอดชีวิต

อัปเดต แผ่นดินไหวตุรกี เปิดใจสาวแรงงานไทยที่รอดชีวิต ครอบครัวติดตามข่าวลุ้นระทึกทุกวัน ยังไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์หวั่นเกิดซ้ำ

กรณี แผ่นดินไหวตุรกี สาวแรงงานไทยที่รอดชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงแมกนิจูด 7.8 ที่ประเทศตุรกี ซึ่งถือว่าเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปี ที่ประเทศตุรกีเคยเผชิญมา โดยมีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับทางตอนใต้ของเมืองกาซีอันเทป ประเทศตุรกี แรงสั่นสะเทือนไปถึงเลบานอน ซีเรีย ไซปรัส และอิสราเอล สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน มีผู้เสียชีวิตกว่า 5,000 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 20,000 คน

ขณะเดียวกันก็มีแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ในประเทศตุรกีหลายคน ทำให้ญาติซึ่งอยู่ที่ประเทศไทย เมื่อทราบข่าวการเกิดแผ่นดินไหว ต่างพากันโทรศัพท์ติดต่อสอบถามด้วยความเป็นห่วงอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2566) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 94 หมู่บ้านหัวบึง ม.14 ต.มะค่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา พบกับ น.ส.รัตนาวดี แก้วเกตุ อายุ 26 ปี ซึ่งกำลังวิดีโอคอลคุยกับ น.ส.แดง ขอพลกลาง อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นแรงงานไทยที่ไปทำงานเป็นพนักงานนวด ที่เมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี

โดยได้สอบถามถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่ง น.ส.แดง บอกว่า เมืองที่ตนเองอยู่นั้น อยู่ไกลจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว เดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง โดยในช่วงเกิดแผ่นดินไหว เป็นเวลาประมาณ 04.00 น. ซึ่งสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอยู่พอสมควร แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะที่ประเทศตุรกีจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวบ่อยมาก แทบจะทุกต้นปีเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ตนเองมารู้อีกทีก็เวลาประมาณ 6 โมงเช้า เนื่องจากมีการเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายครั้ง เมื่อรู้ว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายพันคน ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจและกลัวมาก ซึ่งทางการก็แจ้งให้คนในเมืองเฝ้าระวังตลอดเวลา เนื่องจากเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่นี้ ก็ค่อนข้างมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมากเหมือนกัน ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่นี่ด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกันตนเองก็ติดตามจากเฟสบุ๊ค ของเพื่อนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมีการโพสต์รายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกับสอบถามสถานการณ์ตลอดเวลา ทั้งนี้ตนเองมาทำงานอยู่ที่ตุรกีกว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลย ครั้งนี้ถือว่าหนักสุดตั้งแต่เคยเกิดแผ่นดินไหวในตุรกี แต่หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แล้ว ตนเองก็ได้วิดีโอคอลมาบอกลูกๆ ทั้ง 3 คนที่อยู่ในเมืองไทยว่า ไม่ต้องเป็นห่วง แม่ปลอดภัยดี ที่ทำงานก็ยังเปิดให้บริการลูกค้าตามปกติ และไม่ได้คิดจะกลับไปเมืองไทยในตอนนี้ ซึ่งปกติก็จะกลับไปเยี่ยมลูกๆ ทุกปีๆ ละ 1 ครั้งช่วงซัมเมอร์ และขออวยพรให้คนไทยที่อยู่ในตุรกีปลอดภัยกันทุกคน

ด้าน น.ส.รัตนาวดี แก้วเกตุ ลูกสาวของ น.ส.แดง แรงงานไทยในประเทศตุรกี กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวการเปิดแผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกี ตนเองก็รีบวิดีโอคอลไปหาแม่ทันที เพราะรู้สึกเป็นห่วง กลัวว่าจะอยู่ในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่

เมื่อทราบว่าแม่อยู่ห่างไกลจากจุดเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ และปลอดภัยดี ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก แต่ก็ยังต้องโทรศัพท์ไปสอบถามสถานการณ์ทุกวันๆ ละ 3 เวลา เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่ตุรกีอีกหรือไม่ ซึ่งครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่แม่ปลอดภัย และก็ขอภาวนาให้แรงงานไทยในตุรกีทุกคนปลอดภัยด้วย.