แม่ "วิศวกร" วอนตรวจสอบ เหตุลูกรมควันตายในรถ เชื่อถูกกดดันเรื่องงาน

สุดสลด! แม่หนุ่มวิศวกร ข้าราชการกองช่างเทศบาลตำบลนากลาง หนองบัวลำภู ที่รมควันฆ่าตัวตายภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เชื่อลูกชายถูกกดดันเรื่องงาน จนเครียดก่อนยื่นใบลาออก วอนหน่วยงานตรวจสอบ

กรณีนายภาณุเมศวร์ วาสโสหา อายุ 27 ปี วิศวกรโยธา สังกัดกองช่าง เทศบาลตำบลนากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พบเป็นศพรมควันในรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ที่ริมบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีจดหมายลักษณะคล้ายกับพินัยกรรมอยู่ในรถ โดยญาติเชื่อว่าฆ่าตัวตายเพราะได้รับความกดดันจากหน่วยงาน ทำให้เครียดจนต้องยื่นใบลาออก ก่อนจะมาก่อเหตุฆ่าตัวตาย และมีผู้มาพบศพเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565

 ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านหนองหว้า ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นเกิดและประกอบพิธีทางศาสนาศพนายภาณุเมศวร์ โดยมีญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยขอนแก่น อีก 5 คน มาเป็นตัวแทนแสดงความเสียใจ และมอบพวงหรีดและเงิน โดยมีนางปุ วาสโสหา อายุ 54 ปี แม่นายภาณุเมศวร์เป็นผู้รับ 

แม่ "วิศวกร" วอนตรวจสอบ เหตุลูกรมควันตายในรถ เชื่อถูกกดดันเรื่องงาน

แม่ผู้ตายเล่าว่า ครอบครัวมีอาชีพทำนา มีลูก 2 คน ผู้ตายเป็นลูกคนเล็ก ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะลูกเรียนเก่ง ขยัน นิสัยดี เป็นคนตรง เคยทำงานเป็นลูกจ้างที่สำนักงานขนส่งอุดรธานี สาขาอำเภอเพ็ญ ซึ่งลูกก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ต่อมาลูกสอบรับราชการเป็นวิศกรโยธา สำนักกองช่าง เทศบาลตำบลนากลาง จ.หนองบัวลำภูได้ และพึ่งรับราชการได้เพียง 6 เดือน เหตุผลที่เลือกรับราชการ เพราะลูกต้องการให้พ่อแม่มีสิทธิรักษาพยาบาล ซึ่งพ่อแม่และญาติต่างก็ภาคภูมิใจในตัวลูกมาก เพราะลูกคือเสาหลักของครอบครัว 

ตลอดเวลาที่ทำงาน ลูกจะกลับมาเยี่ยมบ้านเดือนละ 1 ครั้ง เป็นคนไม่ค่อยพูด เก็บกด แต่ก็บ่นให้ฟังว่า เป็นงานที่ไม่เหมาะกับตัวเอง รู้แค่ว่าลูกได้ยื่นใบลาออกแล้ว และมีผลในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และบ่ายวันที่ 24 พฤศจิกายน ลูกได้ส่งพัสดุกลับมาบ้าน ข้างในมีเอกสารสำคัญ แหวนทอง และมีจดหมายแนบมากับพัสดุ ระบุว่าหากได้รับของแล้ว ให้ช่วยไปเก็บของที่เหลืออยู่ที่บ้านพัก อ.นากลาง กลับมาให้ด้วย และระบุว่ากุญแจห้องซ่อนไว้ที่ไหน และขอโทษที่ทำให้แม่ผิดหวัง พอได้อ่านก็เริ่มใจไม่ดี จึงโทรกลับไปหาที่ สนง.เทศบาล ซึ่งปลายสายแจ้งว่าลูกหายไปตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนแล้ว 

 

แม่ "วิศวกร" วอนตรวจสอบ เหตุลูกรมควันตายในรถ เชื่อถูกกดดันเรื่องงาน

นางปุ เล่าต่อว่า จึงได้ช่วยกันเช็คพิกัด GPS ของโทรศัพท์ลูก จนพบพิกัดว่าอยู่ที่บึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนทราบข่าวร้ายว่า ลูกชายรมควันเสียชีวิตในรถ ครอบครัวของตนเสียใจมาก เพราะลูกเป็นคนตรง เป็นคนซื่อสัตย์ ซึ่งในจดหมายที่ลูกเขียน ตำรวจเก็บเอาไว้ส่งพิสูจน์หลักฐาน แต่ญาติได้อ่านข้อความเกี่ยวกับการทำงาน และมีข้อความว่า “กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก” จึงไม่กล้าอ่านต่อ เพราะมันจุกอก สังคมนี้คนดีอยู่ไม่ได้ พวกโกหกปลิ้นป้อนตอแหลอยู่ได้สบาย อยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ช่วยตรวจสอบเทศบาลตำบลนากลาง ด้วยว่าเพราะเหตุใดลูกตนจึงอยู่ไม่ได้ จนต้องฆ่าตัวตาย ซึ่งจะทำพิธีฌาปนกิจวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้