"รมว.เฮ้ง" ห่วงใยเพลิงไหม้โกดังสินค้า สั่ง กสร. ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง

"รมว.เฮ้ง" ห่วงใยเพลิงไหม้โกดังสินค้า สั่ง กสร. ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง

รมว.แรงงาน ห่วงใย เหตุ "เพลิงไหม้" โกดังสินค้า “โกดังซุปเปอร์เจ” ย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ โดยสั่งการ "กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน" (กสร.) ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง พร้อมบูรณาการหน่วยงานสังกัด "กระทรวงแรงงาน" เพื่อหาทางช่วยเหลือนายจ้าง ลูกจ้าง ทันที

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุ เพลิงไหม้โกดังสินค้า “โกดังซุปเปอร์เจ” ที่ตั้งอยู่ใกล้ซอยราษฏร์บูรณะ 15 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ว่า ทันทีที่ได้รับข่าว ผมต้องขอแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สินของลูกจ้าง นายจ้าง และสถานประกอบกิจการ

 

จึงได้สั่งการให้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ส่งพนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (สรพ.2) ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 11 (ศปข.11) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที

 

เบื้องต้นพบว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้เกิดเหตุ เพลิงไหม้โกดังซุปเปอร์เจ ตั้งอยู่เลขที่ 135 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ประกอบกิจการ ให้เช่าโกดังสินค้า โดยสินค้าภายในโกดังมีหลายประเภท ซึ่งที่เกิดเหตุ เป็นโกดังคอนกรีตชั้นเดียว มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5 ไร่

 

ภายในโกดังไม่มีลูกจ้างได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยได้รับบาดเจ็บ ขณะปฏิบัติงานทั้งหมด 7 ราย โดยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 1 เรียบร้อยแล้ว ในวันนี้ (8 กันยายน 2565) พนักงานตรวจความปลอดภัย สรพ.2 ศปข.11 ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานสังกัด กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

 

\"รมว.เฮ้ง\" ห่วงใยเพลิงไหม้โกดังสินค้า สั่ง กสร. ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง

หลัก 3 ต. สร้างความปลอดภัย 

 

ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า ผมได้มอบหมายให้ พนักงานตรวจความปลอดภัย สรพ. 2 และ ศปข. 11 ดำเนินการตามที่ท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงาน สั่งการ ซึ่งที่ผ่านมา กสร. ได้ให้ความสำคัญเรื่องอัคคีภัย ภายใต้ SAFE LIFE เพื่อมุ่งหวังลดสถิติการประสบอันตรายจากการทำงาน สร้างการรับรู้มาตรการเชิงป้องกันความปลอดภัยในการทำงาน โดยใช้หลัก 3 ต ประกอบด้วย

“ติดตั้ง” โดยต้องติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย

“ตรวจสอบ” หมั่นตรวจสอบระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย และเครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้

“เตรียมความพร้อม” ต้องจัดทำแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย จัดอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้กับลูกจ้าง และฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟประจำปี โดยหลัก 3 ต จะช่วยป้องกันและลดการเกิดอัคคีภัย

 

\"รมว.เฮ้ง\" ห่วงใยเพลิงไหม้โกดังสินค้า สั่ง กสร. ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง

พร้อมทั้งจะช่วยสร้างความปลอดภัยในการทำงาน ลดการประสบอันตรายจากการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผมขอความร่วมมือนายจ้าง และลูกจ้างปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 อย่างเคร่งครัด

 

หากนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบกิจการใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองความปลอดภัยแรงงาน โทรศัพท์ 0 2448 9128-39 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3 และ 1546

 

\"รมว.เฮ้ง\" ห่วงใยเพลิงไหม้โกดังสินค้า สั่ง กสร. ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง