Soft Skill เยาวชนไทย โจทย์ใหญ่รัฐบาลใหม่ | หน้าต่างความคิด

หลังจากเห็นหน้าตาของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ หลายคนคงจะรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง แต่อีกประเด็นที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน แม้จะเห็นผลช้ากว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ก็คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดแรงงานต้องการทักษะที่หลากหลายมากกว่าความรู้ทางวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีคุณลักษณะอื่นเสริมด้วย ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ การคิดเชิงวิพากษ์ ความฉลาดทางอารมณ์ การแก้ปัญหา ความร่วมมือ การสื่อสารระหว่างบุคคล และทุนทางจิตวิทยาเชิงบวก
ทั้งหมดนี้เป็นรากฐานสำคัญของความสามารถในการปรับตัว การมีปฏิสัมพันธ์ในสังคม และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากในเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะหลุดจากระบบการศึกษาจากปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าอยู่ในตอนนี้
ผลการศึกษาของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เกี่ยวกับความพร้อมของเด็กและเยาวชนในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน พบประเด็นสำคัญที่สะท้อนมิติของความเหลื่อมล้ำในหลายด้าน โดยด้านความแตกต่างทางเพศ พบว่านักเรียนหญิงมีแนวโน้มที่จะได้คะแนนต่ำกว่านักเรียนชายเล็กน้อยในภาพรวมของทักษะด้านอารมณ์และการจัดการความคิด
ประเด็นที่น่าวิตกอย่างยิ่งคือ ความเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาค โดยพบว่านักเรียนในภาคเหนือและภาคตะวันออกมีคะแนนสูงกว่าภาคอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในด้านการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
ภาคเหนือมีคะแนนการคิดเชิงวิพากษ์สูงกว่าภาคกลางอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ภาคตะวันออกโดดเด่นในด้านทุนทางจิตวิทยาเชิงบวก ซึ่งสะท้อนถึงความยืดหยุ่นทางจิตใจที่อาจเกิดจากบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
ที่น่าสังเกตคือภาคอีสานซึ่งมีขนาดประชากรนักเรียนมากที่สุดของประเทศ กลับแสดงผลคะแนนที่แตกต่างกันไปในแต่ละทักษะ โดยมีจุดแข็งในบางด้านแต่ยังมีช่องว่างที่ต้องพัฒนาในด้านอื่นๆ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาทักษะของเยาวชนไม่สามารถใช้แนวทางเดียวกันทั้งประเทศ แต่ต้องคำนึงถึงบริบทและความต้องการเฉพาะของแต่ละพื้นที่
ปัญหาที่เด่นชัดที่สุดคือ สถานการณ์ของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ซึ่งพบว่ามีผลลบต่อคะแนนรวมของ Soft Skills อย่างชัดเจน นักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสมีคะแนนต่ำกว่านักเรียนในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ในเกือบทุกด้าน
โดยเฉพาะในด้านการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งสะท้อนถึงข้อจำกัดที่อาจเกิดจากทรัพยากร จำนวนครู คุณภาพการจัดการเรียนการสอน และโอกาสในการเข้าถึงกิจกรรมเสริมทักษะต่างๆ
ผลการศึกษานี้ตอกย้ำความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดสรรทรัพยากรและการสนับสนุนพิเศษให้กับโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งมักตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีนักเรียนจากครอบครัวที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดีนัก การปล่อยให้ช่องว่างนี้ยังคงอยู่จะส่งผลให้วัฏจักรของความเหลื่อมล้ำยังคงดำเนินต่อไปในอีกรุ่นต่อไป
อีกมิติที่น่าสนใจคือ ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของโรงเรียนกับผลการประเมิน โรงเรียนขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีคะแนนสูงกว่าในหลายด้าน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการมีทรัพยากรที่มากกว่า ความหลากหลายของกิจกรรม และจำนวนครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนขนาดเล็กไม่สามารถพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้ แต่อาจต้องการรูปแบบการสนับสนุนที่แตกต่างกันไป
ผลการศึกษานี้ยังชี้ให้เห็นว่า ทุนทางจิตวิทยาเชิงบวก ซึ่งครอบคลุมคุณลักษณะภายใน เช่น ความหวัง ความมั่นใจ และความยืดหยุ่น แม้จะมีความสัมพันธ์กับทักษะอื่นๆ ในระดับต่ำถึงปานกลาง แต่กลับมีบทบาทสำคัญในฐานะรากฐานทางจิตใจของนักเรียน การเสริมสร้างทุนทางจิตวิทยาเชิงบวกจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรพัฒนาทักษะอย่างจริงจัง
จากข้อค้นพบทั้งหมดนี้น่าจะเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรปรับกลยุทธ์การพัฒนาทักษะของเยาวชน โดยคำนึงถึงบริบทเฉพาะของแต่ละพื้นที่และประเภทของโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรมีมาตรการพิเศษสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา
ซึ่งอาจรวมถึงการจัดสรรครูพิเศษ การพัฒนาครูประจำการ การสนับสนุนสื่อการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมเสริมทักษะที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ควรมีการพัฒนาหลักสูตรระยะสั้นที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะแบบบูรณาการ โดยเชื่อมโยงการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความฉลาดทางอารมณ์เข้าด้วยกัน เนื่องจากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าทักษะเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและสามารถเสริมสร้างซึ่งกันและกันได้
การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และชุมชน ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะของเยาวชนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
ท้ายที่สุด ผลการวิจัยนี้เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า หากประเทศไทยต้องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสำหรับตลาดแรงงานในอนาคต จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา Soft Skills อย่างจริงจัง
และต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น มิฉะนั้นเราอาจสูญเสียศักยภาพของเยาวชนจำนวนมากที่อาจเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต







