กสศ.ชี้เป้าการลงทุน การศึกษาแก้ความยากจนข้ามรุ่น สร้างคนคุณภาพ

การสนับสนุนด้านการศึกษาและทักษะสามารถทำให้เด็กและเยาวชนยากจนและด้อยโอกาสได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น สามารถเลื่อนยกระดับทางสังคม
KEY
POINTS
- ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพิ่มโอกาสในการก้าวออกจากกับดักความยากจนข้ามรุ่น
- การลงทุนในทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของ กสศ. เฉลี่ยทุกประเภททุนด้วยงบประมาณ 100 บาท เกิดผลประโยชน์ทางสังคมเกือบ 2 เท่า ซึ่งคุ้มค่าในการลงทุน
- บูรณาการการศึกษาเข้ากับภาคเอกชน ถือเป็นหนึ่งใน Game Changer ของการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้จริง
การสนับสนุนด้านการศึกษาและทักษะสามารถทำให้เด็กและเยาวชนยากจนและด้อยโอกาสได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น สามารถเลื่อนยกระดับทางสังคม(social mobility) ในรุ่นของตนส่งผลไปถึงการกำจัดความยากจนข้ามชั่วคน (Intergenerational poverty)
รายงานความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของกสศ.พบว่าปีการศึกษา 2567 มีนักเรียนยากจนและนักเรียนยากจนพิเศษจำนวน 165,585 คน สามารถคงอยู่ในระบบการศึกษาจนสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ จำนวน22,345 คน จากนักเรียนทั้งหมด คิดเป็น 13.49% ที่ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอัตราการเรียนต่อระดับอุดมศึกษาของประชากรไทยกว่า 2 เท่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เหลื่อมล้ำยังรุนแรง!! กสศ. เสนอ 'ลงทุนพัฒนาทุนมนุษย์ทุกช่วงวัย'
ส่องภารกิจสร้างโอกาสการศึกษา ผ่าน กสศ. และ มูลนิธิ 50 ปี ธปท.
ก้าวออกจากกับดักความยากจนข้ามรุ่น
น.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือกสศ.กล่าวว่าประเทศไทยสามารถปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานี้ได้ด้วยโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ได้ศึกษาต่อระดับที่สูงกว่าการศึกษาภาคบังคับ(ม.3) เพิ่มขึ้น เพื่อโอกาสในการก้าวออกจากกับดักความยากจนข้ามรุ่น โครงการนี้ทดลองดำเนินงานมาแล้ว 6 รุ่น พบว่า นักศึกษาทุนมีผลการเรียนดี –ดีมาก ทุกประเภททุน ประมาณกว่า 80%
ขณะที่เงินเดือนของผู้มีงานทำ ค่าเฉลี่ยของทุกประเภททุน 12,563 บาท/เดือน และมีค่าเฉลี่ยรายได้สูงกว่าพ่อแม่ถึง 4 เท่า อัตราส่วนผู้มีงานทำร้อยละ 85.32 การสนับสนุนทุนการศึกษาระยะสั้น เช่น หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ และสาขาเป้าหมายหลักในการพัฒนาประเทศ คือรูปแบบการเรียนรู้ที่แก้ปัญหาความยากจนให้แก่เยาวชนกลุ่มนี้ได้ผลมากที่สุด เปลี่ยนชีวิต มีอาชีพ สร้างรายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ช่วยยกระดับทางสังคม (Social Mobility) และขจัดความยากจนข้ามชั่วคนได้ในรุ่นของตนเอง
SROI ความคุ้มค่าในการลงทุน
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ ระบุว่ากสศ. ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำการประเมินผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม (Social Return of Investment: SROI) จากการลงทุนในโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง กสศ.ที่ดำเนินการต่อเนื่องแล้ว 6 ปี (ปี 2562-2567) ในการผลักดันให้เกิดการพัฒนากำลังคนในสาขาที่ขาดแคลน ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ผลการศึกษาพบว่า การลงทุนในทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของ กสศ. เฉลี่ยทุกประเภททุนด้วยงบประมาณ 100 บาท เกิดผลประโยชน์ทางสังคมอย่างน้อย 193 บาท หรือเกือบ 2 เท่า ซึ่งคุ้มค่าในการลงทุน และพบว่า ในกลุ่มผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ (พิการ) มีผลตอบแทนของการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือ งบประมาณ 100 บาท เกิดประโยชน์ทางสังคม 413 บาท หรือ 4 เท่า
นอกจากนี้ยังพบว่า ผลตอบแผนของการลงทุนในประเภททุนระยะสั้น 1 ปี (หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล/ผู้ช่วยทันตแพทย์) ให้ความคุ้มค่า คือ งบประมาณ 100 บาท เกิดประโยชน์ทางสังคม 277 บาท ขณะที่ประเภททุน 2 ปี (ปวส./อนุปริญญา) งบประมาณ 100 บาท เกิดประโยชน์ทางสังคม 177 บาท
อย่างไรก็ตาม การประเมินผลตอบแทนของการลงทุนได้นำผลประโยชน์เฉพาะส่วนที่ประเมินได้เป็นรูปธรรมและผลจากการสัมภาษณ์กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงแต่อาจยังมีผลประโยชน์ส่วนอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ยังไม่สามารถวัดค่าออกมาได้ในปัจจุบันด้วย ดังนั้น ค่าของผลตอบแทนจากการลงทุน (SROI) ที่เกิดขึ้น จึงเป็นเพียงค่าขั้นต่ำของความคุ้มค่าในการลงทุนเท่านั้น
ทุนการศึกษาเชิงพื้นที่พัฒนาอาชีพ
สำหรับโมเดลทุนการศึกษาเชิงพื้นที่นี้ เพื่อการผลิต และพัฒนากำลังคนสายอาชีพบนแนวคิด Demand Driven Education สนับสนุนนักศึกษาเข้าเรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรสายอาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. เป็นระยะเวลา 2 ปี จำนวน 133 ทุน ใน 8 สาขาวิชาที่มาจากความต้องการกำลังคนสายอาชีพของสถานประกอบการ 21 แห่งในพื้นที่ 3 จังหวัด เช่น วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต สาขางานเทคนิคซ่อมบำรุงเรือยอร์ช วิทยาลัยเทคนิคถลาง จ.ภูเก็ต สาขางานไฟฟ้ากำลัง วิทยาลัยอาชีวศึกษาภักดีพณิชยการและเทคโนโลยี จ.กำแพงเพชร สาขาเทคนิคเครื่องจักรกลเกษตร และสาขางานธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยเทคนิคน้ำพอง จ.ขอนแก่น สาขางานไฟฟ้ากำลัง
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาหอการค้าไทย ระบุว่าการยกระดับการศึกษาให้ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจท้องถิ่น เป็นการบูรณาการการศึกษาเข้ากับภาคเอกชนอย่างแท้จริง ถือเป็นหนึ่งใน Game Changer ของการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ช่วยเพิ่มศักยภาพแรงงาน ลดช่องว่างระหว่างความรู้และการปฏิบัติ สร้างแรงงานที่มีศักยภาพรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน และส่งเสริมการเข้าสู่ระบบอาชีพที่มั่นคง สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนจากฐานรากให้กับประเทศ
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าการทำหลักสูตรเรียนรู้ที่เชื่อมโยงภาคการศึกษากับการท่องเที่ยว โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการทำหลักสูตรเรียนรู้ที่เชื่อมโยงภาคการศึกษากับการท่องเที่ยวตั้งแต่การร่วมพัฒนาหลักสูตร หรือการนำผู้เรียนเข้าไปเรียนรู้และฝึกงานในสถานประกอบการ เป็นแนวทางการสร้างบุคลากรที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจอย่างเป็นระบบ
สำหรับหอการค้าจังหวัด ภาคเอกชน หรือ ท้องถิ่นที่สนใจร่วมพัฒนากับกสศ. สามารถติดต่อที่ ฝ่ายยุทธศาสตร์ระดมความร่วมมือ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) 02 079 5475







