'Future Youth Thailand' เสริมทักษะอนาคต เรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา

กรุงเทพมหานคร ร่วมมือมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น เปิดตัวโครงการพัฒนาทักษะอนาคต Future Youth Thailand จะนำร่อง 109 โรงเรียนในกทม.
วันนี้ (5 มิถุนายน 2568) ที่โรงเรียนวิชูทิศ กรุงเทพมหานคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ ดร.นรรธพร จันทร์เฉลี่ย เสริบุตร ประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น เปิดตัวโครงการ Future Youth Thailand ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและมูลนิธิสตาร์ฟิช เอ็ดดูเคชั่น ที่มีเป้าหมายส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนให้สามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพในโลกยุคใหม่ ผ่านการจัดกิจกรรม Workshop การเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ใน Starfish Labz เพื่อสร้างเสริมทักษะที่จำเป็นในอนาคต
โครงการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่นักเรียนในประเทศไทย อายุ 13-18 ปี เพื่อให้เกิดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ผ่านแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นหลัก ใช้ประโยชน์จากอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและการใช้โทรศัพท์มือถือที่สูงของประเทศไทย ตามข้อมูลจากสํานักงานสถิติแห่งชาติ (2566) ระบุว่า 89.5% ของประชากร(59 ล้านคน) ใช้อินเทอร์เน็ต และ 95.4% (62.9 ล้านคน) มีโทรศัพท์มือถือ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่านักเรียนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบทเรียนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
มิชชั่นไม่ทิ้งใคร! KFC x กสศ. สานต่อ Bucket Search ช่วยเด็กไทย 1,000 คน!
'BKK Up Skill Future' กทม. จับมือ Starfish ชวนคนกรุงเรียนรู้ทักษะใหม่
"Future Youth Thailand" เสริมทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงภาพรวมความร่วมมือในโครงการและประโยชน์ที่โรงเรียนจะได้รับจากโครงการ Future Youth Thailand ว่าโครงการดังกล่าวจะนำร่อง 109 โรงเรียนในกทม.โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะเยาวชนในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทักษะที่จําเป็นในศตวรรษที่ 21 ให้กับนักเรียน รวมถึงการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ การทํางานร่วมกัน และการสื่อสารผ่านการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้กระบวนการออกแบบSTEAM
รวมถึงเป็นการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ สร้างความเท่าเทียมและเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพผ่านนําเสนอประสบการณ์การเรียนรู้แบบเรียนด้วยตนเองที่เน้นการใช้งานบนมือถือ ซึ่งสามารถเข้าถึงนักเรียนได้ทั้งในเขตเมืองและชนบท
อีกทั้งเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ให้นักเรียนพัฒนาทางออกสําหรับโลกแห่งความเป็นจริง ที่สอดคล้องกับSDG 11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) และ SDG 13(การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก
สนับสนุนพัฒนาวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนครูและโค้ชจัดทําคู่มือสําหรับครูและโค้ชเพื่อช่วยในการดําเนินการส่งเสริมการทํางานร่วมกันและการพัฒนาทักษะปฏิบัติในห้องเรียนและชุมชน และเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างเครือข่าย เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ
พัฒนาเยาวชนไทยก้าวทันเทคโนโลยี เตรียมพร้อมสู่อนาคต
ดร.นรรธพร จันทร์เฉลี่ย เสริบุตร ประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น อธิบายภาพรวมความร่วมมือและการสนับสนุนโครงการ Future Youth Thailand ว่า โครงการดังกล่าวจะมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยีและเตรียมพร้อมสู่อนาคต โดยกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ ดังนี้
1.การพัฒนาทักษะแห่งอนาคต นักเรียนจะพัฒนาทักษะที่สําคัญในศตวรรษที่ 21ผ่านกระบวนการ STEAM Design Process เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์การทํางานร่วมกันและการสื่อสาร และทักษะทางด้านสังคมและอารมณ์
2.เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ แนวทางที่ เน้นการใช้งานบนมือถือช่วยให้มั่นใจว่านักเรียนทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะในชุมชนที่ด้อยโอกาส สามารถเข้าถึงการศึกษาที่ มีคุณภาพสูงและมีนวัตกรรม
3.ส่งเสริมนวัตกรรมที่ยั่งยืน นักเรียนจะได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้แบบโครงงานแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ และความยั่งยืนที่เกิดขึ้นจริงในชุมชนของตนและในระดับโลก
4.เพื่อสนับสนุนครูและโค้ช พัฒนาทักษะและสมรรถนะของครูในการเป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ช่วยให้นักการศึกษาสามารถแนะนํานักเรียนผ่านหลักสูตร โดยนําเสนอเครื่องมือสําหรับการอํานวยความสะดวกที่มีประสิทธิภาพและการเรียนรู้ แบบร่วมมือ
5.เพื่อสื่อสารประชาสัมพันธ์ และสร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ สร้างเครือข่ายความร่วมมือของบุคลากรทางการศึกษา
ตัวแทนครูและนักเรียนจากโรงเรียนวิชูทิศได้กล่าวถึงการเข้าร่วมกิจกรรม Workshop ได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับประโยชน์ของการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ใน Starfish Labz งานเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประกาศความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่นแต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญในการพัฒนาการศึกษาและทักษะของเยาวชนไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของโลกในอนาคต ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของไทย และการเตรียมความพร้อมของเยาวชนไทยให้ก้าวสู่ความเป็นพลเมืองโลกในอนาคต







