'จื้อ-เล่อ พัฒนา' สามภาษา ราคาเข้าถึงได้ นำ AI สู่ห้องเรียน

โรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา เปิดตัวแคมปัสใหม่บนถนนรามคำแหง โดยมุ่งตอบสนองวิสัยทัศน์ของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการยกระดับการศึกษาของประเทศ ด้วยหลักสูตรสามภาษาในราคาที่จับต้องได้ ค่าเล่าเรียนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาทต่อปี ไม่มีค่าแรกเข้า ค่าลงทะเบียน หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม พร้อมเปิดรับนักเรียนอายุ 2-11 ปีในปีการศึกษา 2568

ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการเปิดโรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา ว่าจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาการศึกษาของไทย จากที่ในอดีตเด็กไทยสามารถพูดได้แค่ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีการส่งเสริมให้เด็กไทยได้เรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพิ่มเติมอีกหนึ่งภาษาคือภาษาจีน

โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงที่สมองเด็กพัฒนาได้รวดเร็วและมีความสามารถในการเรียนรู้ที่ดี ส่งผลให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะและการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและเป็นระบบ กระทรวงศึกษาธิการเองแม้ไม่สามารถทำงานได้ครบทุกด้าน แต่ก็จะสนับสนุนศักยภาพของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและสามารถพัฒนาไปสู่อนาคตที่ดีได้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกเรียนโรงเรียน2ภาษา

ติวอังกฤษที่ไหนดี ? ส่อง 5 สถาบันสอนภาษาอังกฤษ เรียนได้ทุกที่ ทุกช่วงชั้น

กุญแจสู่ความสำเร็จของเด็กในอนาคต

ในยุคโลกาภิวัตน์ที่โลกมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด การเรียนรู้หลายภาษาตั้งแต่ยังเด็กมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางปัญญาของเด็ก และยังช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสในอนาคต การวิจัยพบว่าเด็กที่เริ่มเรียนหลายภาษาตั้งแต่เล็กจะมีทักษะในการแก้ปัญหาดีขึ้น ความคิดสร้างสรรค์สูงขึ้น และมีความจำที่แข็งแรง กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพให้แก่ทุกคน และมุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  

นายวอลเตอร์ ลี ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ ได้กล่าวว่า โรงเรียนใช้หลักสูตรภาษาไทยควบคู่กับการเรียนภาษาจีนและภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น โดยตั้งเป้าผลักดันนักเรียนให้สอบผ่านระดับ HSK 4 เมื่อจบชั้น ป.6 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยจีน ขณะเดียวกันยังพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้นักเรียนสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยี AI ช่วยวิเคราะห์การเรียนรู้รายบุคคล เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม

หลักสูตรใหม่เพื่อการเรียนรู้สามภาษา

นายวอลเตอร์ ลี ได้กล่าวอีกว่า โรงเรียนนี้มีหลักสูตรที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ (Intensive English Program หรือ IEP) และในอนาคตจะพัฒนาเป็นหลักสูตรสามภาษาที่เน้นทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น (Intensive Chinese-English Program หรือ ICEP) ซึ่งจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2568 สำหรับเด็กอายุ 2-11 ปี

ซึ่งหลักสูตรภาษาของโรงเรียนประกอบด้วยภาษาไทย 49%, ภาษาอังกฤษ 27%, และภาษาจีน 24% โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นภาษาไทย 40%, ภาษาอังกฤษ 30%, และภาษาจีน 30% ภายใน 2 ปี

นอกจากนี้ หลักสูตรของโรงเรียนยังมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ การพัฒนาแบบองค์รวม การคิดเชิงวิพากษ์ ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงมุมมองที่เปิดกว้างในระดับโลก 

ความท้าทายและโอกาส ตอบโจทย์การศึกษาไทย

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ในปี 2567 จำนวนโรงเรียนทั่วประเทศลดลง 0.5% จากปีก่อน คิดเป็น 33,098 โรงเรียน และหากเทียบกับปีการศึกษา 2555 จำนวนโรงเรียนจะหดตัวถึง 6.6% หรือประมาณ 2,355 โรงเรียน

เนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปีการศึกษา 2555-2567 มีการปิดโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงเรียนรัฐบาลที่มีอัตราการลดลงเฉลี่ย 0.6% ต่อปี รวมถึงโรงเรียนเอกชนที่สอนหลักสูตรไทยซึ่งมีแนวโน้มลดลง 0.7% ต่อปี ในขณะที่จำนวนนักเรียนโดยรวมลดลง โรงเรียนสอนหลักสูตรนานาชาติกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยในปี 2567 นักเรียนในโรงเรียนเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าในปี 2567 มูลค่าตลาดของโรงเรียนนานาชาติในไทยจะเติบโต 13% จากปี 2566 แตะที่ประมาณ 87,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของค่าเล่าเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 764,484 บาทต่อปี อาจเป็นอุปสรรคจากการแข่งขันกับโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยที่มีค่าเล่าเรียนต่ำกว่า แต่มีการพัฒนาโปรแกรมการเรียนที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่น ภาษาอังกฤษและภาษาจีน ซึ่งอาจทำให้ผู้ปกครองเลือกโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยแทน 

โรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา เน้นสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการของชนชั้นกลาง ซึ่งต้องการโรงเรียนคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ภาษาจีน ซึ่งเป็นภาษาสำคัญในโลกเศรษฐกิจ รวมถึงการเรียนแบบ Interactive ที่เน้นการใช้จริงในชีวิตประจำวัน จะช่วยเตรียมเยาวชนไทยให้มีโอกาสที่ดียิ่งขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับโลก 

โรงเรียนสามภาษาและการศึกษาในยุคใหม่

นายเจ้า เยี่ยนชิง คณะกรรมาธิการเพื่อกระทรวงศึกษาธิการจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่าการศึกษาภาษาจีนในประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมาก การเพิ่มจำนวนของโรงเรียนสามภาษาเป็นเครื่องสะท้อนถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของสังคม นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนสามภาษาจื้อ-เล่อ พัฒนา และแพลตฟอร์มการศึกษา MetaLingo นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการศึกษาหลายภาษาคุณภาพสูง ผ่านการปรับตัวสู่ระบบดิจิทัลและการรักษามาตรฐาน ความร่วมมือนี้จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพและทักษะที่จำเป็นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต

 

ส่งเสริมความเสมอภาคในสังคม

เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางการศึกษา ในงานเปิดตัวโรงเรียนสามภาษา จื้อ-เล่อ พัฒนา ได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 2 ทุนให้กับ “มูลนิธิซาย มูฟเม้นท์” (Zy Movement Foundation) เพื่อช่วยพัฒนาโอกาสให้เยาวชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม ความคิดริเริ่มนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของโรงเรียนในการสร้างโอกาสการเรียนรู้สามภาษาที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมทั้งส่งเสริมความเสมอภาคในสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณค่าอย่างเท่าเทียม