จะปฏิรูปการศึกษาเพื่อโลกยุคใหม่ได้อย่างไร

จะปฏิรูปการศึกษาเพื่อโลกยุคใหม่ได้อย่างไร

เทคโนโลยีและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันระหว่างประทศ องค์กรและบุคคลสูงขึ้น รูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์เปลี่ยนไป เกิดทักษะใหม่ อาชีพปรับเปลี่ยนจากเดิม เกิดอาชีพในลักษณะใหม่ ๆ

แต่การเรียนรู้ต่าง ๆ หากยังคงสอนในรูปแบบเดิม ๆ นั้น จะไม่สามารถเท่ากันวิทยาการที่ก้าวหน้าได้ 

AI (หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์)จะเข้ามาทำงานแทนที่คนได้หลายอาชีพการงาน ดังนั้น จึงต้องช่วยกันพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมกับประเทศไทย ว่าเราจะตามให้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วได้แค่ไหนอย่างไร หรือควรหันมาพัฒนาจุดเด่นของไทย เช่น ด้านเกษตรกรรม

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญต้องคำนึงถึง คือ การปฏิรูปการศึกษา ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ การให้บริการอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างคนภายในประเทศให้มีความรู้/ทักษะใช้งานได้ มีงานทำ มีอาชีพ สามารถพึงพาตัวเองได้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง  

ปัญหาที่สำคัญที่สุดของการศึกษาไทย

ปัญหาสำคัญที่ทำให้การปฏิรูปการศึกษาของไทยไม่ค่อยได้ผลคือ ปัญหาในภาคปฏิบัติ เนื่องจาก การนำทฤษฎีจากต่างประเทศมาใช้นั้นยังขาดความรู้/ความสามารถในการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยอย่างแท้จริง

ในด้านการบริหาร โรงเรียนจะดีขึ้นได้อยู่ที่วิสัยทัศน์ ความรู้ ควาสามารถของผู้บริหาร ถ้าได้ผู้บริหารดี รู้จักว่าควรปฏิรูปอย่างไร จะนำทางครูและนักเรียนให้เก่งตามไปด้วย ปัจจุบันคุณภาพการศึกษาระหว่างโรงเรียนแตกต่างกันอย่างมาก ประเด็นปัญหาคือทำอย่างไรให้โรงเรียนไทยมีคุณภาพดีทั่วถึง

จะปฏิรูปการศึกษาเพื่อโลกยุคใหม่ได้อย่างไร

ปัญหาเชิงโครงสร้างทางการเมือง รัฐบาล (ทุกชุด) ไม่เห็นความสำคัญต่อการศึกษาอย่างแท้จริง ทำงานแบบสั่งงานตามระบบบริหารข้าราชการแบบสั่งจากระดับบนลงล่างในระบบการทำงานแบบเดิมๆ

นักการเมืองไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา พวกเขาสนใจแต่ตำแหน่ง รมว.กระทรวงที่มีอำนาจและงบประมาณสูง

การศึกษาไทยเหมือนต้องรอการเสี่ยงโชค ว่าจะได้ รมว.ศธ ที่เห็นความสำคัญ และมีความสามารถมาดำรงตำแหน่งน้ันหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่คือได้คนระดับปานกลางเท่านั้น

ประเทศจะเข้มแข็งได้นั้น ต้องมาจากการพัฒนาพลเมืองให้ได้ดี  จึงควรรณรงค์ให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ ที่สำคัญมากกว่าเรื่องการเมืองระหว่างพรรค คือต้องก้าวข้ามเรื่องการหาเสียง จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อบริหารการปฏิรูปการศึกษาชุดเล็กที่มีอำนาจเต็ม

ที่รมต.ศึกษาต้องฟังและทำตาม เหมือนผู้จัดการบริษัทที่ต้องทำตามบอร์ดผู้บริหาร (ฮ่องกงเคยทำได้ผลมาแล้ว บอร์ดมีแค่๔คน) เราจึงจะพัฒนาคนทั้งประเทศให้สามารถแข่งขันกับประชากรโลกได้อย่างมีคุณภาพจริง

จะปฏิรูปการศึกษาเพื่อโลกยุคใหม่ได้อย่างไร

จุดแข็งที่สำคัญของประเทศไทย

จุดแข็งของประเทศไทย มีเด็กเก่งๆ จำนวนหนึ่ง มีองค์กร หน่วยงานเอกชน เข้ามาช่วยเหลือเรื่องพัฒนาการศึกษา ให้ทุนการศึกษา มีโรงเรียนที่เก่งคุณภาพสูงอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ควรปลุกระดมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น

มีระบบโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง ระดมผู้มีความรู้ความสามารถ เช่น ผู้เกษียณอายุแล้ว วิทยากรภาคเอกชน มาช่วยเหลือโรงเรียน ช่วยสอน โดยแก้ไขกฎหมาย สร้างแนวทาง และระเบียบที่ยืดหยุ่นเอื้อต่อการจัดการศึกษาหลายรูปแบบ

เราต้องสร้างกระแสที่เอาจริงเอาจังว่าถ้าประเทศปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ เราจะตกต่ำ/ล้าหลังคนอื่น สร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนรักการอ่าน รักการเรียนรู้ เพราะ เด็กจะฉลาดขึ้นได้เพราะการรักการอ่าน การเรียนรู้ด้วยตนเอง

ขณะเดียวกันก็จำเป็นจะต้องสร้างครูที่ดี ครูที่เก่งคอยชี้แนะให้คำแนะนำ ต้องเน้นการเรียนของจริงและรู้ภาคปฏิบัติให้มากขึ้น ถึงปัจจุบันจะมีสื่อการเรียนรู้ทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมาก แต่อาจเข้าถึงเด็กได้ไม่ทั่วถึง และส่วนที่เข้าถึง ก็ใช้เพื่อเล่นเกมและอื่นๆมากกว่า 

เพราะเด็กไม่มีแรงจูงใจอยากเรียนรู้ด้วยตนเองมาก  จึงต้องมีการส่งเสริมแรงจูงใจให้เด็กเกิดความอยากเรียนรู้ สนุกเพลิดเพลินในการอ่าน การเรียนรู้ โดยครู พ่อแม่ควรเรียนรู้และช่วยกระตุ้นด้วย

จะปฏิรูปการศึกษาเพื่อโลกยุคใหม่ได้อย่างไร

การปฏิรูปการเรียนรู้ให้ได้ผลดียิ่งขึ้นควรจะทำอย่างไร

อนาคตของการศึกษาไทยจะเป็นอย่างไร เด็กจะเก่งหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ กระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ/ประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรสร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียนให้มีจุดมุ่งหมายในการเรียนมากกว่าแค่การสอบให้ผ่านไปแต่ละปี

จากผลการทดสอบระดับระหว่างประเทศ จะเห็นได้ว่า เด็กไทยส่วนมากไม่เก่งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การอ่านเอาเรื่อง ต้องช่วยกันพิจารณาหาสาเหตุและหาทางแก้ไข

ซึ่งอาจมาจาก ครูสอนไม่เก่ง ครูดุด้วย ดังนั้น ต้องพัฒนาครู ให้มีความอดทน ใจเย็น มีเทคนิคในการสอน ช่วยเหลือเด็กที่ช้าไม่ทันเพื่อน มีจิตวิทยาเข้าใจศิษย์ ในสถานการณ์ที่ครูไม่ค่อยเก่ง เด็กก็เรียนไม่เก่ง

หากสร้างมีแรงจูงใจให้เด็กรักการอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน รักการเรียนรู้ เพราะอยากรู้ ส่งเสริมการคิด จินตนาการ การเล่นกีฬาและเกมกับเพื่อนๆ การทำงานศิลปะ ร้องเพลง เล่นดนตรี ฯลฯ เราก็จะสามารถพัฒนาเด็กได้

จะปฏิรูปการศึกษาเพื่อโลกยุคใหม่ได้อย่างไร

อนาคตของการศึกษาไทยเป็นอย่างไร

โรงเรียนทั้งประเทศยังคงมีความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนเก่งและโรงเรียนไม่เก่ง เด็กเก่ง ไม่เก่ง เหมือนเดิม แต่เนื่องจากอัตราการเกิดของทารกลดลง ส่งผลให้จำนวนเด็กนักเรียนลดลงด้วย

ทำให้จริงๆ แล้วรัฐบาลสามารถจัดสรรทรัพยากรการศึกษา เน้นไปที่คุณภาพเพิ่มขึ้นได้ ควรให้การสนับสนุนด้านอบรมพัฒนาครูให้มีความรู้/ทักษะเท่าทันเทคโนโลยี เท่าทันเด็กรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปให้มากขึ้น เพราะครูเองต้องแข่งขันสูงขึ้น ครูจึงจำเป็นต้องปรับปรุงพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ

เทคโนโลยีทำให้ข้อมูล/ความรู้จากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วและจำนวนมากเป็นโอกาสในการปฏิรูปการศึกษาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

แต่ที่สำคัญมากคือเราต้องปูพื้นฐานรักการอ่าน การใฝ่รู้ รู้จักกการ้ค้นคว้าเรียนรู้อย่างถูกวิธี มีวิจารณญาณในการคัดกรองเลือกใช้สื่อ ให้เป็นประโยชน์อย่างถูกต้องเหมาะสม

ทั้งนี้ ต้องให้การศึกษาพ่อแม่ผู้ปกครองให้รู้เท่าทันเทคโนโลยี การสื่อสาร วัฒนธรรมของเด็กรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปด้วย