จับ 'สุนทรฟู่' จากครูดีเด่น ตีแผ่ชีวิตติดพนัน ดำดิ่งโกงเงินครูนักเรียน

จับ 'สุนทรฟู่' จากครูดีเด่น ตีแผ่ชีวิตติดพนัน ดำดิ่งโกงเงินครูนักเรียน

ตำรวจนครบาล จับ 'สุนทรฟู่' จากครูดีเด่นแห่งชาติ ตีแผ่ชีวิตพลิกผันข้าราชการติดพนัน ดำดิ่งโกงเงินครูนักเรียน เรื่องนี้มีที่มาที่ไป

กลายเป็นประเด็นในสังคมที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ตำรวจนครบาล จับ สุนทรฟู่ จากครูดีเด่น ชีวิตพลิกผันติดพนัน จนดำดิ่งในอบายมุขต้องคดีโกงเงินครูนักเรียน

เหตุที่ตำรวจนำกำลังเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และ ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังเข้าจับกุม นายวิวัฒน์ วงค์ษา หรือ "ครูฟู่" หรือ "สุนทรฟู่" อายุ 36 ปี ได้ที่ห้องพัก คอนโดฯแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ

จับ \'สุนทรฟู่\' จากครูดีเด่น ตีแผ่ชีวิตติดพนัน ดำดิ่งโกงเงินครูนักเรียน

จากครูสู่มิจฉาชีพ

ภัยสังคมต่ออาชีพครู นักเรียน นักศึกษาโดยคนร้ายในนาม “สุนทรฟู่” หรือ “ครูฟู่” ซึ่งเป็นอดีตครู ก่อเหตุหลอกลวงกิจกรรมในแวดวงครู เช่น หลอกให้เช่าบ้านพักเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนในต่างจังหวัด หรือ หลอกให้เช่าห้องพักในงานรับปริญญา

ล่าสุดคือ การแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 70 ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 3-5 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายโรงเรียนในทุกภูมิภาค พากันหาจองห้องพัก พานักเรียนไปร่วมกิจกรรมแข่งขัน และตกเป็นเหยื่อถูกโกงเงินมัดจำที่พัก

ตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้า PCT ชุดที่ 5 สั่งการให้ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ออกสืบสวนด้วยเบาะแสเดียวคือ ครูฟู่ เป็น LGBTQ+ และใช้เวลากว่า 1 เดือน ในการแฝงตัวเข้าสู่วงการนวดของ LGBTQ+

ครูฟู่ติดพนัน

จนได้เบาะแสว่า ครูฟู่กับแฟนหนุ่ม พักอาศัยในละแวก ซอยวัชรพล เขตรามอินทรา จ.กรุงเทพฯ ใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ หมกมุ่นอยู่กับการเล่นการพนันออนไลน์ (ปั่นสล็อต) ผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ทำงานทำการใดๆ และยังตระเวนหลอกลวงชาวบ้านอยู่เช่นเดิม

ตำรวจเข้าจับกุมนายวิวัฒน์ พร้อมแฟนหนุ่ม LGBTQ+ จากห้องพักคอนโด ตึก 11 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน จ.กรุงเทพฯ  ระหว่างเตรียมย้ายถิ่น ที่ห้องพัก เขตบางเขน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมคำรับสารภาพ

จับ \'สุนทรฟู่\' จากครูดีเด่น ตีแผ่ชีวิตติดพนัน ดำดิ่งโกงเงินครูนักเรียน

 

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา

  • ฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

 


 

ประวัติ “สุนทรฟู่” หรือ “ครูฟู่”

นายวิวัฒน์ หรือ “สุนทรฟู่” หรือ “ครูฟู่” อดีตครูสอนภาษาไทย โรงเรียนดังในกรุงเทพฯ จบการศึกษาชั้นปริญญาตรี ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยดัง เคยได้รับรางวัล “ครูภาษาไทยดีเด่นแห่งชาติ” ประจำปี 2560 ได้รับเสียงชื่นชมในความสามารถจนได้รับสมยานามว่า “สุนทรฟู่”

แต่เส้นทางชีวิตเริ่มดำดิ่งเนื่องจาก “ติดพนัน” และนำเงินไปเปย์ให้กับแฟนหนุ่ม ที่เป็น LGBTQ กระทั่งปี 2563 ถูกไล่ออกจากความเป็นข้าราชการครู แล้วชีวิตจึงก้าวเข้าสู่ความเป็น “มิจฉาชีพ”อาศัยโปรไฟล์ในอดีตสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากจนถูกแจ้งความดำเนินคดีมากมาย


เด็กผู้ปกครองตกเป็นเหยื่อนับร้อย

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การหลอกลวงลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เสียหายเสียทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นการ “ตัดโอกาส” เหล่าเด็กๆ ที่จะไปร่วมทำกิจกรรมอีกด้วย โดยตั้งแต่ครูฟู่ออกจากราชการจนถึงปัจจุบันได้ตระเวนก่อเหตุมาตลอด ปัจจุบันมีผู้ตกเป็นเหยื่อของครูฟู่ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 100 ราย และดำดิ่งขนาดต้องเดินสายหลอก “นวดเสียว” แนว LGBTQ+ ด้วย

ขณะที่นายวิวัฒน์ ให้ปากคำรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน และได้เล่าเรื่องความพลิกพลันในชีวิต นายวิวัฒน์ ได้แต่งกลอนแบบสดๆ ต่อหน้าตำรวจสืบนครบาลเพื่อเตือนภัยให้กับสังคมว่า

“ก่อนจะทำสิ่งใดขอให้คิด อย่าพลาดผิดจนชีวิตคิดถลำ

ทำสิ่งใดประกอบด้วยเวรกรรม และเน้นย้ำทำกรรมดีอย่างที่เป็น

หากพลาดผิดผิดไปแล้วไม่แคล้วโทษ จากเป็นโจทก์ตกจำเลยคนเหยียบย่ำ

ขอโอกาสที่มีได้แก้กรรม จะกระทำแต่สิ่งดีเพื่อสังคม”

 

ชีวิตพลิกผันครูดีเด่นแห่งชาติ

"สุนทรฟู่" อาศัยโปรไฟล์ในอดีตที่เคยเป็นครูดีเด่น สร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวง ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก 

ขณะนายวิวัฒน์ ให้การกับพนักงานสอบสวน เจ้าตัวเผยถึงความพลิกผันของชีวิตต ว่า “ตนเองจบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 หลังจากเรียนจบก็ไปเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนชื่อดัง กระทั่งปี 2555 ตนเองสอบบรรจุครูได้ด้วยความสามารถ จึงได้เป็นตำแหน่งหน้าห้องของ ผอ.โรงเรียน กระทั่งเกิดเรื่องของวงโยธวาธิต ที่มีการขอยืมเงินคุณตัน ทำให้มีเรื่องราวทำให้ตนได้ขอย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนอื่น 

คนร้ายในนาม “สุนทรฟู่” ระบุว่า ช่วงนั้นถือเป็นยุครุ่งเรืองที่สุด เพราะได้รับโอกาสได้เข้าไปช่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการด้วยอีกหน้าที่หนึ่ง และได้มีโอกาสแต่งบทอาศิรวาท จนกระทั่งได้รับรางวัล ครูดีเด่นประจำปี และได้สมยานามว่า สุนทรฟู่

กระทั่งในปี 2563 โรงเรียนได้มีการเปลี่ยน ผอ.โรงเรียน และตนไม่ลงรอยกับผู้บังคับบัญชาคนใหม่ โดยทำงานหนักหลายหน้าที่ จนป่วย กระทั่งฟางเส้นสุดท้ายเกิดขึ้น เมื่อมาทำงานไม่ไหวจากการป่วย ทำให้ตนตัดสินใจไม่ไปโรงเรียนอีก

จนถูกตั้งกรรมการ ช่วงนั้นชีวิตตนเองเริ่มเป๋แล้ว โดยรับว่าช่วงนั้นติดแฟนหนุ่ม ซึ่งเจอกันจากที่จ้างมานวด LGBTQ+ แล้วปิ๊งกัน และช่วงนั้นก็ติดการพนันด้วย จึงทำให้ชีวิตเริ่มดำดิ่ง 

โดยแรกๆ ยังมีเงินเก็บที่ยังเหลือ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้ พอผ่านไปสักพักหนึ่ง เงินเริ่มหมดก็เริ่มโทรไปขอยืมเงินจากนักเรียนและครูที่เคยรู้จัก โดยเหล่านักเรียนนั้นกตัญญูรักครูมากให้มาทีละ 1,000 - 2,000 บางคนให้ถึง 4,000 บาท ก็มี

ยอมรับว่ายืมเด็กๆ แล้วไม่ได้คืน ส่วนเพื่อนครูนั้นตอนตนเองไปขอยืมเงินถูกเมินและทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน ทำให้เสียใจมากๆ 

จากนั้นก็เริ่มเดินสายหลอกลวง โดยช่วงนั้นตนเองเล่นเฟซบุ๊กแล้วเห็นมีการหาที่พัก ตนจึงได้ไอเดียหลอกลวงด้วยการหลอกเอาเงินมัดจำที่พักจากเหยื่อ โดยลงมือทำเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ตนทำไปเยอะมาก ความเสียหายที่หลอกลวงมาแล้วหลายหมื่นบาท ด้วยความที่ตนหิวและต้องการที่อยู่ ก็ยังรู้สึกผิดและสงสารเหยื่อด้วย 

จับ \'สุนทรฟู่\' จากครูดีเด่น ตีแผ่ชีวิตติดพนัน ดำดิ่งโกงเงินครูนักเรียน

ครูฟู่ กล่าวขอโทษทุกคน และขอโอกาสให้สังคมให้อภัย เกิดชาติหน้าฉันใดก็ขอให้ตนได้ชดใช้กรรม ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหน หลังจากนี้ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่และขอใช้ความรู้ที่มีอยู่เพื่อสาธารณะประโยชน์ จะให้ไปเป็นอาสาสมัครสอนที่ไหนอย่างไรตนจะไม่คิดเงินเลย จะมุ่งทำประโยชน์ให้กับสังคม

หลังจากจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวส่ง สน.บางยี่เรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าการพนันจะสามารถทำลายชีวิตของคนคนนึงได้ถึงเพียงนี้ เปลี่ยนจาก ผู้ประสาทวิชา กลายเป็น มิจฉาชีพ ได้แบบสุดขั้ว

ขอให้การจับกุมในครั้งนี้เป็นการเตือนไปถึงประชาชนถึงภัยร้ายของการพนัน ทรัพย์สินเงินทองที่ออม หรืออนาคตที่วาดฝันไว้ จะหมดไปทันทีเมื่อติดการพนัน และเมื่อไม่มีเงิน ปัญหาทุกอย่างก็จะตามมา

และแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที