สรุปดราม่า แฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น เทศบาลฯสมุทรสงคราม เปิดใจ 2 ฝ่าย

สรุปดราม่า แฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น เทศบาลฯสมุทรสงคราม เปิดใจ 2 ฝ่าย

ประเด็นดราม่า กรณีที่นายกิตติศักดิ หอสว่างวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เขต 3 ออกมาแฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น ล่าสุด เปิดใจ 2 ฝ่าย ใครว่าอย่างไรบ้าง

ประเด็นดราม่า ที่มีการออกมาแฉตามที่มีการเผยแพร่คลิปการอภิปรายของนายกิตติศักดิ หอสว่างวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เขต 3 เรื่องการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของเทศบาลฯที่ไม่เป็นไปโดยสุจริต โดยเฉพาะการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ของ 2 โรงเรียน คือ เทศบาลวัดใหญ่ (ราชพงษ์) 12 เครื่อง และเทศบาลวัดประทุมคณาวาส (นิพัทธ์หริณสูตร์) 9 เครื่อง รวมจำนวน 21 เครื่อง ราคาเครื่องละ 22,000 บาท เป็นเงิน 462,000 บาท ซึ่งแม้จะสเปคถูกต้องตามระเบียบแต่เป็นคอมที่ไม่มีคุณภาพและเขาไม่ใช้กันแล้วนั้น

ประเด็นนี้ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส พบกับ นายวสันต์ ปรีดานันต์ ผู้อำนวยการได้เปิดห้องคอมพิวเตอร์ให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ภายในห้องจัดคอมพิวเตอร์เป็น 4 แถว 2 แถวหันหน้าคู่กัน ด้านขวาเป็นคอมพิวเตอร์ยี่ห้อเดียวกันซื้อมาตั้งแต่ปี 2558 จำนวน 20 เครื่อง ส่วนแถวซ้ายมีเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าที่เพิ่งซื้อยี่ห้อเดียวกัน 9 เครื่อง อีกด้านไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ มีเพียงเอกสารที่วางไว้และคอมพิวเตอร์ที่ชำรุด

จากการตรวจสอบสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้ โปรแกรม CPUz พบว่า แมนบอร์ด ASRock โมเดล X370M-HDV R4.0, CPU เป็น AMD Ryzen 5 Pro 4650G, แรม 8 Gb DDR4-2666 ตัวเก็บข้อมูลเป็น SSD 256 นอกจากนี้ จอยังเป็นขนาด 21 นิ้ว ใช้มี UPS ขนาด 900 VA จากการตรวจกล่องบรรจุพบว่า ผลิตวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ส่งเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566

 

สรุปดราม่า แฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น เทศบาลฯสมุทรสงคราม เปิดใจ 2 ฝ่าย

 

สรุปดราม่า แฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น เทศบาลฯสมุทรสงคราม เปิดใจ 2 ฝ่าย

 

นายสมชาย ตันประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่าวันนี้พาผู้สื่อข่าวมาตรวจคอมพิวเตอร์เพราะท่าน สท.กิตติศักดิ์กล่าวหาว่าผมซื้อคอมรุ่นเก่าปี 2020 แต่จากการตรวจสอบจากวันผลิตของบริษัท ผลิตวันที่ 21 ตุลาคม 2022 ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าคอมพิวเตอร์ยี่ห้อนี้ไม่ทน

ตนยืนยันว่าคอมพิวเตอร์ที่จัดซื้อเหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน เพราะใช้เพียงโปรแกรมพื้นฐาน และยี่ห้อเดิม Svoa ที่ใช้อยู่ตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันก็ยังใช้งานได้ในระดับนึง แต่เพียงอัปเดตข้อมูลโปรแกรมบางอย่างไม่ได้ จึงจำเป็นต้องจัดหามาทดแทน อีกทั้งคอมพิวเตอร์ที่จัดซื้อ ได้สูงกว่าสเปคที่กำหนด เช่น จอแสดงภาพ จากสเปคที่ ICT กำหนด 19 นิ้ว แต่บริษัทส่งให้โรงเรียนเป็นขนาด 21.5 นิ้ว, หน่วยจัดเก็บข้อมูล ICT กำหนด SSD = 250 Gb แต่บริษัทส่งให้โรงเรียนเป็น 256 Gb

อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้นักเรียนเสียโอกาส เพราะคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ เดิมโรงเรียนต้องการ 40 เครื่อง เทศบาลก็ตั้งงบให้ 40 เครื่อง งบประมาณ 880,000 บาท ราคาเครื่องละ 22,000 บาท แต่ได้มา 9 เครื่อง จึงทำให้ไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน ไม่ใช้ตามที่ สท.จุ๋มให้ข่าวไปว่า 80 เครื่อง 880,000 บาท มีเอกสารหลักฐานยืนยัน

นายสมชาย กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนพร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เพราะยืนยันความบริสุทธิ์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตนไม่อยากพูดว่าเป็นเกมส์การเมืองไหม เพราะเดี๋ยวจะไปกล่าวหาเขา แต่ได้ยินมาว่า สท.จุ๋มจะลงสมัครแข่งเป็นนายกเทศมนตรีในสมัยหน้าอีกกว่า 2 ปี ซึ่งตนก็ไม่ได้ตื่นเต้น เพราะยืนยันตนทำความดีจึงมั่นใจในการลงนายกสมัยหน้า

 

สรุปดราม่า แฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น เทศบาลฯสมุทรสงคราม เปิดใจ 2 ฝ่าย

 

ด้านนายกิตติศักดิ์ หอสว่างวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสมุทรสงครามเขต 3 หรือ สท.จุ๋ม ไม่ปฏิเสธลงนายกสมัยหน้า ยืนยันการออกมาแฉจัดซื้อคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องการเมือง เผยหากผิดยอมติดคุก

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงมันหนีกันไม่พ้นหรอก คอมพิวเตอร์จริงที่กําลังเป็นกรณีมันมีคุณภาพไหม ถ้าของดีมีคุณภาพราคาได้ท่านนายกไม่ต้องทําอะไรหรอก สังคมเขาพิพากษาผมเอง ว่าผมเป็นคนพูดจาส่งเดชถูกไหม ผมพร้อมติดคุก แต่ถ้าไปตรวจสอบไปดูแล้ว คอมพิวเตอร์มันตกรุ่นจริงสเปคมันเก่า มันไม่สมกับราคาชุดละ 22,000 บาท ท่านนายกพร้อมลาออกไหม

ราคามันไม่ได้ตามสเปคแล้วของมันไม่ดียังไม่สํานึก ยังมาแจ้งความคนที่เขาทําหน้าที่ตรวจสอบกลั่นกรองงบประมาณ เงินภาษีของชาวบ้าน ถามชาวบ้านนะว่ามันยุติธรรมไหม การเมืองสมัยใหม่มันใช่แบบนี้ไหม เมื่อชาวบ้านเลือกตนเข้ามาตนก็มีสิทธิ์ตรวจสอบหรือชี้ผิดชี้ถูก ถ้าของไม่ดีไปบอกว่าดีคราวหน้าไม่มีหน้าอาสาเข้ามาเล่นการเมืองหรอก สังคมปัจจุบัน ผิดว่าไปตามผิดถูกว่าไปตามถูก

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปเส้นทางการเมืองจะเป็นอย่างไรเพราะอยู่ทีมเดียวกันมาเมื่อก่อน?

นายกิตติศักดิ์ ตอบว่า สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้วเพราะผมพูดตรงๆบ้านๆ ถ้าคนมีคุณธรรมอยู่ที่ไหนก็อบอุ่น ตนชอบอยู่กับคนมีคุณธรรม แต่ถ้าใครที่ไม่มีคุณธรรมไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีว่าอะไรควรทําไม่ควรทํา บอกเลยว่าคงไม่ร่วมทีมต่อไปแน่นอน ส่วนจะไปอยู่กับใครเป็นเรื่องของอนาคต ขอทํางานให้ชาวบ้านกับประชาชนก่อน

เงินเดือน สท.มันไม่เยอะหรอกแค่ 10,000 กว่าบาท แต่จิตสํานึกตนมีคิดว่าในเมื่อเขาเลือกมาแล้วก็ไม่อยากทําให้ผิดหวัง อะไรที่ทําประโยชน์ได้ก็ทํา ตนมีหน้าที่ตรวจสอบก็ต้องตรวจสอบ วันนี้ถ้าคุณเอาของดีมีคุณภาพเข้ามาถามว่าเรื่องมันจะเกิดไหม จะไปเอาผิดปรักปรําหรือจะไปโทษนายกเขาได้ไหม เรื่องแบบนี้มันก็ไม่เกิด

วันนั้นก่อนเข้าสภาเราก็มีการพูดคุยก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวผ่านให้นะ แต่ต้องใช้ของดีมีคุณภาพ เด็กๆที่อยู่ในชุมชนของเราเขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีใช่ไหมใช้ของที่ดีเพราะเงินเดือนมาจากพ่อแม่พี่น้องลูกหลานเขาทั้งนั้น และถ้าบอกว่าเป็นเรื่องการ ตนว่าเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น ถ้าเรื่องนี้เกิดเหตุก่อนจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ก็อาจจะคิดว่าเป็นการเมือง แต่นี่การเมืองใหญ่มันจบไปแล้ว ส่วนการเมืองท้องถิ่น คือการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลยังอีกเกือบ 2 ปี

ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ตนจะลงสมัครนายกเทศมนตรีสมัยหน้านั้น นายกิตติศักดิ์ บอกว่า ส่วนตัวยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่อนาคตก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะลงนายก หรืออาจจะไม่ลงเป็นเรื่องของอนาคต หรืออาจจะย้ายไปอยู่ทีมอื่น แต่ที่แน่ๆไม่อยู่ทีมเดียวกับนายกคนนี้แน่นอน เพราะว่าผู้นําไม่มีคุณธรรม

 

สรุปดราม่า แฉปมจัดซื้อคอมพิวเตอร์ตกรุ่น เทศบาลฯสมุทรสงคราม เปิดใจ 2 ฝ่าย

 

กรณีนายกไปแจ้งความ?

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าตนผิดก็พร้อมสู่กระบวนการแม้จะติดคุกก็ยอมเพราะถือว่าได้ทําหน้าที่ สมาชิกสภาและประธานชุมชนดีที่สุดแล้วในการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน หรือพูดง่ายๆว่าเงินภาษีอากรของชาวบ้าน ในการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ ตนเป็นคนตรวจสอบแล้วพูดความจริงเอาเรื่องจริงมาเปิดเผยแล้วโดนแจ้งความ ตนก็พร้อมติดคุก

ชาวบ้านเขาจะได้รู้ว่าคนที่ออกมากล้าพูด กล้าตรวจสอบ กล้าพูดความจริง แล้วมาโดนคดีก็ให้ชาวบ้านเขาตัดสินเอาว่าถ้าเกิดกรณีแบบนี้ต่อไปก็ไม่ต้องเปิดสภาแล้ว คุณอยากจะเอาเงินภาษีอากร เงินหลวง เงินสะสมในเทศบาลจะไปซื้ออะไรเป็นล้าน สิบล้าน คุณก็ไม่ต้องเปิดประชุมสภาขออนุมัติอะไรแล้ว ใช้อํานาจของจัดซื้อจัดจ้างตามสบายเลย

คุณเปิดสภา ผ่านเงินแต่เห็นได้เครื่องที่ไม่ชอบมาพากลหรือได้ของไม่มีคุณภาพแล้วมาพูด มาเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับรู้แล้วต้องมาโดนแจ้งข้อกล่าวหา พ่อแม่พี่น้องประชาชนคิดอย่างไร ถ้าอีกฝ่ายมีหลักฐานที่พอที่จะเอาผิด หลักฐานตนก็เป็นสเปคคอมพิวเตอร์ที่เอามาเปิดเผย