วัคซีน "2 เข็ม" ไม่รอด "4 เข็ม" ติดเชื้อไม่ตาย

วัคซีน "2 เข็ม" ไม่รอด "4 เข็ม" ติดเชื้อไม่ตาย

การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และคนตั้งครรภ์ การฉีดวัคซีน 2 เข็มอาจไม่เพียงพอแล้ว ต้องพิจารณาเข็มที่ 4 แม้จะป้องกันได้ครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ทำให้เสียชีวิต รัฐต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ประชาชนไวที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในไทย ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คนเสียชีวิตทุกวัน การแพร่เชื้อที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่สามารถหายเป็นปกติได้เพียงไม่กี่วัน เพราะเชื้อที่ “ติดง่าย หายเร็ว” แบบนี้ ทำให้หลายคนไม่ค่อย “เกรงกลัว” ใช้ชีวิตแบบไม่ระวัง ชะล่าใจ แต่หารู้ไม่ว่า ไม่ใช่แค่ตัวเราเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่ม 608 หรือผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ในกลุ่มนี้ อาจเป็น พ่อ แม่ ลุง ป้า นา อา ญาติพี่น้องของเรา ยังเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูง และมีสัดส่วนรับวัคซีนเข็มกระตุ้นน้อย เมื่อติดเชื้อแล้ว อาการจะรุนแรง อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นเราจึงไม่ควรประมาท ใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเอง และคนรอบข้าง

กลุ่ม 608 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ พบว่า มีสัดส่วนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนกระตุ้นเป็นจำนวนมาก ความเชื่อที่ว่า คนแก่ ไม่ได้ไปไหน คงไม่เสี่ยงโควิดเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะโควิด-19 ปัจจุบันติดต่อได้ง่าย แม้จะระวังเป็นอย่างดี การอยู่บ้านหลายคน มีคนเข้าออกตลอด หากไม่ระวังตัวใช้ชีวิตอย่างชะล่าใจ อาจนำเชื้อจากนอกบ้านไปติดคนในบ้านได้ ข้อมูล พบว่า การระบาดระลอกปัจจุบัน 80% ของผู้เสียชีวิต คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ 60% ไม่ได้ฉีดวัคซีน และ 29% ไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น

สาเหตุที่กลุ่มนี้ไม่ค่อยอยากฉีดวัคซีน เพราะกังวลกลัวเป็นอันตราย ซึ่งเป็นเรื่องที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งประชาสัมพันธ์ และให้ความมั่นใจถึงความปลอดภัยในการฉีดวัคซีน ต้องประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เหมือนล่าสุด ที่เริ่มออกมาสร้างความเข้าใจว่า วัคซีนโควิด-19 ผ่านการวิจัย มีความปลอดภัยสูง และจากการฉีดในประเทศไทยมากกว่า 120 ล้านโดส ยืนยันว่าปลอดภัย โอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์ร้ายแรงมีน้อยมาก สาธารณสุขใช้คำว่า การฉีดวัคซีนก็เหมือนเรือพาหนีน้ำท่วม ไปอยู่ที่ปลอดภัย ถ้าไม่ฉีดวัคซีน ก็เหมือนรอน้ำท่วม เสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตได้ แต่ก็เชื่อว่ามีผู้สูงอายุอีกจำนวนไม่น้อย ยังปักใจเชื่อถึงอันตรายของวัคซีน เป็นหน้าที่ที่รัฐต้องหมั่นสร้างความเข้าใจกันต่อไป 

ขณะที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ประเมินประสิทธิผลวัคซีนในกลุ่มผู้มีความเสี่ยง พบว่า หากฉีด 2 เข็ม ป้องกันได้ 4.1% ต่ำมากเหมือนไม่ป้องกัน ส่วน 3 เข็ม ป้องกันได้ 56% และ 4 เข็ม ป้องกันได้ 84.7% แต่หากป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต เมื่อฉีดวัคซีน 2 เข็ม ป้องกันได้ 54.8% ฉีด 3 เข็ม ป้องกันได้ 88.1% แต่กรณีป้องกันการเสียชีวิตพบว่า 2 เข็ม ป้องกันได้ถึง 79.2% ส่วนหากฉีดวัคซีน 3 เข็ม จะป้องกันการเสียชีวิตได้ 87% ดังนั้นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จึงป้องกันการเสียชีวิตได้มาก ดังนั้น “รัฐ” จึงต้องเร่งปูพรม “ฉีดวัคซีน” ให้เร็วและมีช่องทางให้เข้าถึงได้ง่ายที่สุด พร้อมกับสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนต่อสาธารณชนให้เพิ่มขึ้น เพื่อหยุดยั้งความรุนแรง กดตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิตให้ลดลงให้ได้