"บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร

"บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร

“บำรุงราษฎร์” มุ่งสู่ผู้นำ Healthcare 5.0 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI, Machine learning และ Internet of Things ช่วยเสริมการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากแนวคิดของ ชิน โสภณพนิช ผู้ก่อตั้ง รพ.บำรุงราษฎร์ ที่ต้องการให้ "บำรุงราษฎร์" เป็นโรงพยาบาลเอกชนทางเลือก สามารถให้การรักษาโรคยาก ซับซ้อน ในระดับมาตรฐานที่สูง ช่วยแบ่งเบาภาระจากโรงพยาบาลรัฐ และคนไข้ไทยไม่ต้องบินไปรักษาถึงต่างประเทศ เป็นเวลากว่า 42 ปี ที่แนวคิดดังกล่าวถูกส่งต่อและถ่ายทอดการดำเนินงานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์จะก้าวหน้า แต่การไม่หยุดพัฒนาเพื่อนำนวัตกรรมการรักษาใหม่ๆ ยังคงเป็นสิ่งที่บำรุงราษฎร์เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ภายใต้การนำของ ชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กับความมุ่งมั่นที่ “ไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อมุ่งหวังแต่ผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำประโยชน์เพื่อสังคม” พร้อมแบ่งเบาภาระรัฐบาลในการรักษาโรคซับซ้อน โรคยาก รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการตอบโจทย์ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย ด้วยหลัก “3C1W” มุ่งตอบโจทย์การรักษาโรควิกฤติ ซับซ้อน การทำงานร่วมกับแพทย์แบบสหสาขาวิชา และส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงรับสังคมสูงวัย ส่งผลให้เป้าหมายสู่การเป็นผู้นำ Healthcare 5.0 ไม่ใช่เรื่องยาก

"บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร

3C1W จุดแข็งบำรุงราษฎร์

ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า ทิศทางทางการแพทย์ ตอนนี้มีหลายเรื่องน่าสนใจ หากดูเทรนด์ปีนี้ เราก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ มีผู้สูงอายุ 20% ของประชากร และคาดว่า 10 ปี จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 30% คนอายุยืนมากขึ้นจากที่การแพทย์มีการพัฒนาก้าวหน้า ดังนั้น เรื่องของ Wellness และ Digital Health Tech จะได้รับความนิยม ดังนั้น บำรุงราษฎร์ ยังคงเดินหน้ายกระดับการให้บริการเพื่อส่งมอบการดูแลรักษาสุขภาพระยะยาว (Lifetime value health partner) ในทุกช่วงอายุ 

พร้อมมุ่งพัฒนาการรักษาในระดับจตุตถภูมิ (Quaternary Care) รวมถึงการยกระดับศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence) เพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากและโรคซับซ้อนได้อย่างครอบคลุมทุกโรค ซึ่งจำเป็นต้องใช้สหสาขาวิชาชีพ (multidisciplinary team) เข้ามาร่วมในการดูแลรักษาและมุ่งเน้นบุคลากรหลากหลายสาขา โดยมีจุดแข็ง “3C1W” ในด้านคุณภาพของการรักษา (Quality of Care) ได้แก่

1) Critical care การรักษาโรควิกฤติ นำเทคโนโลยีและงานวิจัยต่างๆ มาใช้ โดยบำรุงราษฎร์มีทีมแพทย์เวชบำบัดวิกฤติที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Critical Care Medicine จากสหรัฐอเมริกา มากกว่า 10 คน และเป็นทีมที่เข้มแข็งและเป็นเสาหลักของโรงพยาบาล ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการจัดการอย่างมีระบบ 

2) Complicated care การรักษาโรคซับซ้อน ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลปัจจุบัน ส่วนใหญ่ต้องเจอแพทย์มากกว่า 2 ท่าน
ขึ้นไป เพราะโรคพัฒนาตัวเอง ดังนั้น จึงเป็นจุดแข็งของบำรุงราษฎร์ในการรักษาโรคยากและซับซ้อน ด้วยทีมแพทย์ชำนาญการและประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อนเกี่ยวเนื่องกับหลายอวัยวะหรือเป็นโรคยากต่อการวินิจฉัย

โดยมี Center of Excellence ที่ครอบคลุมการรักษาในทุกโรค ซึ่งรวมถึงการปลูกถ่ายอวัยวะ (Organ transplantation) มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญการขั้นสูงในการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ มากว่า 30 ปี ทั้งการปลูกถ่ายไต, ปลูกถ่ายหัวใจ, ปลูกถ่ายตับ และปลูกถ่ายตา โดยบำรุงราษฎร์เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจให้แก่ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว

3) Collaboration of Expertise การทำงานร่วมกันของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในหลากหลายสาขาและสหสาขาวิชาชีพ เพื่อร่วมกันให้การบริบาลผู้ป่วยเพื่อผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีที่สุด ตัวอย่างที่ชัดเจน คือ การตรวจวินิจฉัยโรคหายาก (Rare Disease) จึงจำเป็นที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางหลากหลายสาขา เพื่อประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกับอาการโรคของผู้ป่วย ซึ่งส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งต่อกันมาทางสายเลือดในครอบครัว อาทิ กลุ่มโรคแอลเอสดี กลุ่มโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

4) Wellness and Prevention การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกัน นับเป็นเทรนด์ที่สำคัญของการแพทย์ในอนาคต ที่บำรุงราษฎร์ได้บุกเบิกมากว่า 21 ปี โดยมีศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ที่ให้บริการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ บำรุงราษฎร์ยังมีการดูแลสุขภาพในเชิงลึกระดับยีน โดยการตรวจยีน เพื่อป้องกันก่อนเกิดโรค (Genetic Testing) เพื่อคาดคะเนสุขภาพในอนาคต วางแผนการมีบุตร โดยตรวจโรคทางกรรมพันธุ์บางชนิดที่อาจถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก

4 ปัจจัยสู่ความสำเร็จ

ภญ. อาทิรัตน์ กล่าวต่อว่า เราตั้งต้นจาก Vision และปณิธานในการเป็น World-Class Holistic Healthcare with Innovation นวัตกรรมต่างๆ เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนภาพจริงในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านประสบการณ์ ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โดย 4 ปัจจัยสำคัญ คือ

  1. “องค์กรแห่งนวัตกรรม” (Innovation) เปิดรับนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ รวมถึงเทคนิคการรักษาแนวใหม่
  2. “สถาบันด้านวิชาการทางการแพทย์” (Academic Hospital) บำรุงราษฎร์ มีฝ่ายวิจัยและศึกษาที่มีบทบาทมุ่งส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องของแพทย์ ทันตแพทย์ และบุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล ตลอดจนสร้างองค์ความรู้ใหม่ รวมทั้งนวัตกรรมในทางการแพทย์และบริการที่เกี่ยวข้อง มีการดำเนินความร่วมมือกับสถาบันทางวิชาการ/มหาวิทยาลัยในระดับประเทศ
  3. “การมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น” (Unique Culture) ที่ถ่ายทอดและปฏิบัติสืบต่อกันมาเข้าสู่ปีที่ 42 อันเป็น Rich Heritage อันทรงคุณค่าของบำรุงราษฎร์ ได้แก่ “Agility” ความสามารถในการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์อย่างรวดเร็ว “Un-complacency” คือ การที่ไม่หยุดอยู่กับความพึงพอใจที่เกิดขึ้น มุ่งพัฒนาพัฒนาผลงานให้ดีขึ้น เห็นได้จากการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษา (adaptive to technology) และการ reaccreditation เรื่องของคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยตลอดเวลา เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มาใช้บริการ และ “Compassionate Caring” เป็นการส่งมอบการบริบาลด้วยความเอื้ออาทร ดูแลผู้ป่วยและบุคลากรทุกคนเสมือนญาติมิตร
  4. “การมีเครือข่ายพันธมิตรที่เข้มแข็ง” (Partnership) สร้างความร่วมมือพันธมิตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

มุ่งสู่ผู้นำ Healthcare 5.0

สำหรับในปีนี้ นอกจากยังคงเน้น “แพทย์” เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของโรงพยาบาลและการสร้างทีมเวิร์คในการดูแลผู้ป่วยแล้ว บำรุงราษฎร์จะเน้นด้านการแพทย์ใน 2 ส่วนสำคัญคือ

  1. Robotic Surgery Center การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดระบบดาวินซีเข้ามาช่วยศัลยแพทย์ในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยหลายระบบอวัยวะให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
  2. Genetic มุ่งเน้นการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม (Genomics) ซึ่งจะช่วยระบุความเสี่ยงในการเกิดโรคบางชนิด ทำให้สามารถป้องกันโรคเชิงรุกได้ อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด วางแผนการมีบุตรและป้องกันกลุ่มโรคเสี่ยงทางพันธุกรรมอื่นๆ ในอนาคต

รวมถึงตรวจพันธุกรรมเพื่อป้องกันการแพ้ยา ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถเลือกใช้ยาหรือวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะมาเสริมการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นเทรนด์การแพทย์ที่บำรุงราษฎร์ให้ความสำคัญนับจากนี้ต่อไป

เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำ “Healthcare 5.0” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI, Machine learning และ Internet of Things โดยต่อจากนี้ทุกคนสามารถมี Self-moritoring ซึ่งทั้งหมดจะต้องเป็นระบบระดับมาตรฐานทางการแพทย์ เพื่อที่จะเชื่อมโยงมาสู่ระบบของโรงพยาบาลได้ และมีการจัดการจัดเก็บฐานข้อมูล ประมวลผล การวิเคราะห์ ซึ่งการนำเรื่อง 5.0 เข้ามาใช้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

เนื่องจากผู้ป่วยกว่า 50% ของบำรุงราษฎร์อยู่ต่างประเทศ ดังนั้นแม้เราจะมีแอปพลิเคชั่น และ เทเลเมดิซีนตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 แต่ยังคงต้องพัฒนาให้ทันสมัย ใช้งานง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมเพียงอย่างเดียว เราต้องพัฒนาคนและทีมที่จะซัพพอร์ตแพทย์ เพราะเรากำลังให้บริการด้านสุขภาพเพื่อชีวิตของมนุษย์” ภญ. อาทิรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

"บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร

นวัตกรรมสู่ควมสำเร็จ

  • เทคโนโลยีการรักษา Minimally Invasive ที่มีความแม่นยำมากขึ้น แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ อาทิ การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (Water Vapor Therapy) และประสบความสำเร็จไปแล้วกว่า 72 คน
  • การรักษาก้อนเนื้องอกชนิดปกติด้วยการจัดความเย็นจัด (Cryoablation) หรือ AI Lunit ที่ช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้แม่นยำและเหมาะสมมากขึ้น
  • หุ่นยนต์ดาวินซีที่เข้ามาช่วยศัลยแพทย์ในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยหลายระบบอวัยวะ (Robotic Assisted Surgery)

"บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร

  • การตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม (Genomics)
  • สร้างความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
  • เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มหาวิทยาลัย CMKL วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ จุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • การส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัย ที่เน้นความก้าวหน้าทางการแพทย์
  • การจัดประชุมทางวิชาการและการอบรมฝึกปฏิบัติ (Workshop) โดยมีแพทย์ของบำรุงราษฎร์เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับแพทย์ที่เข้าร่วมอบรม
  • ร่วมมือกับมั่นคงเคหะการและไมเนอร์ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ เปิดโครงการ RAKxa Wellness ที่บางกระเจ้า ซึ่งเป็นศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม Fully Integrative Wellness & Medical Retreat แห่งแรกในเอเชียที่รวม Advanced Medical Science และ Holistic Wellness ไว้ด้วยกัน
  • ขยายการให้บริการทางการแพทย์มาตรฐานบำรุงราษฎร์ไปยังกลุ่มเซกเมนต์ ใหม่ๆ ของโรงพยาบาลพันธมิตร ขยายโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ในระดับที่หลากหลาย

"บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร "บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร "บำรุงราษฎร์" Shifting the Future Healthcare5.0 ดูแลทุกมิติ ครบวงจร