ภารกิจ ‘สุนัขนักบำบัด’ ในภาวะวิกฤติโควิด-19

ภารกิจ ‘สุนัขนักบำบัด’ ในภาวะวิกฤติโควิด-19

อีกหนึ่งบทบาทสำคัญของ 'สุนัข' เพื่อนรัก สู่ 'นักบำบัด' ทุกข์บำรุงสุข ช่วยเหลือผู้พิการ ผู้ป่วย เด็กและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต ด้วยการวิดีโอคอลล์ออนไลน์ และจัดทำคลิปเผยแพร่ผ่านโซเชียล

 

ไม่เพียงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเท่านั้นที่กำลังทำหน้าที่อย่างหนักหน่วงตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา 'สุนัขบำบัด' ทั่วโลกก็กำลังทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เพื่อช่วยบรรเทาความกังวล สร้างรอยยิ้มและสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับผู้คน

สำหรับประเทศไทย คนทั่วไปน่าจะพอคุ้นเคยกับสุนัขตำรวจและสุนัขดมกลิ่น แต่ในยุโรปและอเมริกา สุนัขและสัตว์เลี้ยงหลายชนิดไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านเท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงเหล่านี้มีบทบาทและหน้าที่สำคัญมากในการช่วยเหลือผู้พิการ ผู้ป่วย เด็กและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต สัตว์เลี้ยงจึงเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมบำบัดในสถานพยาบาล รวมถึงสถานศึกษาและสถานสงเคราะห์หลายแห่ง

การทำงานของ ‘สุนัขบำบัด’ (Therapy dogs) มีหน้าที่แตกต่างจาก ‘สุนัขบริการ’ (Service dogs) และ ‘สัตว์ที่ให้ความช่วยเหลือทางอารมณ์’ (Emotional support animals หรือ ESA)

สุนัขนักบำบัดส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน ที่เจ้าของขึ้นทะเบียนสุนัขให้เป็นสุนัขบำบัด แล้วผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน เป็นสุนัขที่มีภาวะทางอารมณ์สงบ ปรับตัวและเข้ากับคนแปลกหน้าได้ดี พวกเขาจะถูกฝึกให้มีความอ่อนโยน อดทน ตอบสนองต่อผู้คนด้วยพฤติกรรมเชิงบวก และถูกฝึกมาให้สามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงและรับมือกับอารมณ์ที่แตกต่างกันของมนุษย์

เจ้าของสามารถพาสุนัขไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในสถานศึกษา โรงพยาบาลและสถานสงเคราะห์ โดยเฉพาะในแผนกผู้ป่วยเด็กและผู้สูงวัย เพื่อให้สุนัขได้ทำหน้าที่ส่งมอบความรักและบำบัดผู้ที่สัมผัสกับสุนัข สุนัขได้รับอนุญาตให้ขึ้นนอนบนเตียงผู้ป่วยได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เล่น ลูบไล้และอยู่กับสุนัขอย่างใกล้ชิด แต่สุนัขบำบัดไม่ใช่สุนัขบริการ จึงไม่มีสิทธิเข้าถึงสถานประกอบการ ห้างร้านและขนส่งสาธารณะทั่วไปได้ หากสถานที่นั้นไม่ได้มีระเบียบอนุญาตให้สุนัขเข้าใช้บริการ

 

dog-454145_1920

 

การระบาดของโคโรน่าไวรัส กระทบต่อการทำหน้าที่ของเจ้าสี่ขาเหล่านี้อย่างแน่นอน เนื่องจากเจ้าของไม่สามารถพาสุนัขของตัวเองออกไปช่วยเหลือดูแลผู้คนตามสถานที่ต่างๆ อย่างที่เคยทำได้

องค์กรรับผิดชอบดูแลสุนัขบำบัดในสหรัฐอเมริกาหลายองค์กรได้จัดโปรแกรมเฉพาะให้สุนัขบำบัดได้ทำหน้าที่ของตัวเองแบบเสมือนจริง ด้วยการวิดีโอคอลล์ออนไลน์ และจัดทำคลิปวิดีโอเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นทางออกหนึ่งให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในช่วงเวลานี้

TeloDog เป็นกิจกรรมของ Canine Assisted Therapy องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐ นอกจากใช้การสื่อสารผ่านวิดีโอคอลล์แล้ว พวกเขายังนำสุนัขไปเยี่ยมเยือนผู้ที่ต้องการแบบตัวต่อตัวผ่านทางหน้าต่าง

ที่ผ่านมาทีมอาสาสมัครและสัตว์เลี้ยงบำบัดที่ผ่านการรับรองราว 120 ทีม ได้ทำงานกับผู้คนตามสถานที่ต่างๆ ทั้งจากการออกบูธสาธารณะ การเข้าไปยังสถานที่ทำงานและการเข้าเยี่ยมเยียนรายบุคคล ปีละกว่า 3 แสนคน

 

UCSF_20161116_KimonoDog_010a

 

ผลการวิจัยระบุว่า เด็กพัฒนาการอ่านได้ดีขึ้นเมื่อมีสุนัขนอนอยู่บนตักหรือมีสุนัขนั่งฟังอยู่ข้างๆ อย่างตั้งใจ การสัมผัส ลูบสุนัขอย่างต่อเนื่องช่วยลดความดันโลหิตของผู้ป่วยที่เกิดจากภาวะเครียด ช่วงเวลาสำคัญที่มีการระบาดของโควิด-19 ทีมอาสามัครได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้คนผ่านวิดีโอคอลล์ เช่น ให้เด็กๆ อ่านหนังสือผ่านวิดีโอคอลล์โดยมีสุนัขทั้งฟังอยู่ตรงหน้าจอ การแต่งตัวให้สุนัขนำเสนอผ่านหน้าจอเพื่อทักทายกลุ่มเป้าหมายในโรงพยาบาล เด็กๆ ตามแต่ละบ้าน หรือแม้แต่การพาสุนัขไปเยี่ยมเยือนตามบ้าน โดยให้ทักทายกันละกันผ่านหน้าต่าง เป็นต้น

“มันอาจเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่เราไม่ควรประเมินความสามารถของสุนัขในเรื่องนี้ต่ำเกินไป เพราะในความเป็นจริง สุนัขช่วยคุณได้” จาห์มีลา บอสเวลล์ (Jahmila Boswell) หนึ่งในอาสาสมัครจากรัฐฟลอริดา กล่าว

เช่นเดียวกับโรงพยาบาลสแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีโปรแกรม Pet Assisted Wellness (PAWS) ให้สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขเข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วย มากว่า 25 ปี

สุนัขพันธุ์คอร์กี้ ชื่อ ‘ทักเกอร์’ เป็นหนึ่งในสมาชิกของโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ก่อนเกิดการระบาดของโคโรน่าไวรัส ทักเกอร์ใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อเดือนในโรงพยาบาลสแตนฟอร์ด ไม่ใช่ในฐานะผู้ป่วยแต่ในฐานะผู้ดูแลและปลอบประโลมผู้ป่วย รวมถึงสร้างความเพลิดเพลินผ่อนคลายให้กับนักศึกษาแพทย์ในสถาบัน เพื่อให้พวกเขาผ่านช่วงเวลายากๆ ในแต่ละวันไปได้

dog-644111_1920

 

ช่วงโควิดแบบนี้ ทักเกอร์ต้องทำงานออนไลน์จากบ้านเช่นกัน จากที่ไม่คุ้นเคยกับการทำงานหน้ากล้อง ตอนนี้ทักเกอร์กลายเป็นทีมงานบำบัดผู้เชี่ยวชาญการพบปะผู้คนผ่านซูม (Zoom) ไปแล้ว

ที่รัฐอิลลินอยส์ อาสาสมัครกับสุนัข 39 ทีมลุกขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ โดยเน้นสื่อสารกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาล

เมแกน เคอเชน (Megan Kirchen) พยาบาลประจำศูนย์การแพทย์ Amita Health St. Joseph เขตโจเลียต กล่าวว่า เธอจัดสรรเวลาแต่ละครั้งราว 45 นาที โดยมีสุนัขอยู่ร่วมเฟรมด้วย ครั้งหนึ่งมีพยาบาลเข้ามาร่วมพูดคุยกันมากกว่า 30 คน

เคอเชน อธิบายว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นไม่ใช่แค่การเอาสุนัขมาโชว์ แต่เป็นการพูดคุย สร้างปฏิสัมพันธ์ ให้กำลังใจและขอบคุณคนทำงาน แต่ให้สุนัขเข้ามามีส่วนร่วมอยู่หน้าจอ ไม่น่าเชื่อว่าพฤติกรรมปกติของสุนัข เช่น การแสดงสีหน้า การเปลี่ยนอิริยาบถ สามารถช่วยสร้างอารมณ์ผ่อนคลายให้กับผู้ที่พบเห็นได้

ขณะที่โรงเรียนสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อนแห่งลอนดอน (London School of Hygiene and Tropical Medicine: LSHTM) องค์กรการกุศลสุนัขตรวจสุขภาพ (Medical Detection Dogs) มหาวิทยาลัยเดอรัม (Durham University) และผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรค ได้ร่วมมือกันทดลองฝึกสุนัขตรวจจับกลิ่นเพื่อใช้เป็นมาตรการเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแสดงอาการอย่างชัดเจน 

ที่ผ่านมาได้ฝึกสุนัขให้สัมผัสกลิ่นผู้ป่วยโรคมะเร็ง มาลาเรีย และพาร์กินสันได้สำเร็จ

 

  560453fb99b6e.image

 

สุนัขบริการ (Service dogs) เป็นสุนัขที่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่ผ่านการอบรมขั้นสูงเฉพาะทาง เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนให้สามารถช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือผู้พิการได้ บางตัวช่วยเปิดประตู กดปุ่ม คาบหยิบวัตถุ หรือแสดงปฏิกิริยาแจ้งเตือนเมื่อผู้ดูแลไม่ตอบสนองหรือกำลังตกอยู่ในอันตราย ตามมาตรฐานสากลสุนัขบริการได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนพร้อมเจ้าของหรือผู้ดูแลได้ทุกที่ ทั้งร้านค้า ร้านอาคาร หรือแม้แต่ขนส่งมวลชน รวมถึงนั่งโดยสารกับเจ้าของบนเครื่องบิน

สุนัขบริการ 1 ตัวจะถูกส่งมอบให้มีเจ้าของหรือผู้ดูแลเพียงคนเดียวเท่านั้น และบุคคลรอบข้างไม่ควรสัมผัสใกล้ชิดหรือสร้างความสัมพันธ์กับสุนัขเป็นอันขาด เพื่อให้สุนัขสามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของได้อย่างเต็มศักยภาพแต่เพียงผู้เดียว สุนัขบริการส่วนใหญ่จะสวมเสื้อกั๊ก ติดป้ายพิเศษและสวมปลอกคอเฉพาะ เพื่อแสดงให้บุคคลในที่สาธารณะรับรู้

สัตว์ให้ความช่วยเหลือทางอารมณ์ (Emotional support animals) เน้นให้การดูแลผู้ป่วยทางจิตใจ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรมพิเศษ เป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไปที่เจ้าของได้รับคำแนะนำให้เลี้ยงไว้เพื่อช่วยบำบัดความรู้สึกเครียดและความกังวล จึงไม่จำเป็นต้องเป็นสุนัข แต่เป็นสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นแมว กระต่าย ลา ม้า หรือปลา เป็นต้น