งานดี ชีวิตต้องดีด้วย! “โคเปนเฮเกน” ครองแชมป์ เมือง Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก

งานดี ชีวิตต้องดีด้วย! “โคเปนเฮเกน” ครองแชมป์ เมือง Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก

ประเด็น Work-Life Balance มีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนยุคใหม่ เมื่องานไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เป็นการรักษาสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตกับงาน ซึ่งล่าสุด “โคเปนเฮเกน” ขึ้นแท่นเมืองที่มี Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก และยังมีเมืองใดติดอันดับต้น ๆ ของโลกอีกบ้าง

สำนักข่าว CNBC รายงานเมื่อวันศุกร์ (3 มี.ค.) ว่า ถึงแม้ “นครนิวยอร์ก” จะขึ้นชื่อด้านวัฒนธรรมแห่งความเร่งรีบและคลั่งงาน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่มี Work-Life Balance ดีอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ยังไม่ใช่ “ดีที่สุด”

รายงานดังกล่าวอ้างอิงจาก MoneyNerd เว็บไซต์ทางการเงินส่วนบุคคล ซึ่งจัดอันดับ 25 หัวเมืองใหญ่รอบโลกโดยพิจารณาจาก ข้อมูลค่าครองชีพ เงินเดือนเฉลี่ย ตัวเลขโอกาสทางอาชีพ และอื่น ๆ

แหล่งข้อมูลนี้มาจาก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), รายงานดัชนีความสุขของโลก, เว็บไซต์ Glassdoor ซึ่งเปิดให้บรรดาลูกจ้างสามารถเขียนรีวิวที่ทำงานทั้งในปัจจุบันและอดีตของตนได้, เว็บไซต์ LinkedIn ที่ใช้หางาน และอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า เมืองใดมีผู้อยู่อาศัยที่มีความสุขที่สุด และเข้าถึงโอกาสผลตอบแทนทางอาชีพที่มากที่สุดในโลก

 

งานดี ชีวิตต้องดีด้วย! “โคเปนเฮเกน” ครองแชมป์ เมือง Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก - กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก (เครดิต: AFP) -

 

ผลปรากฏว่า “กรุงโคเปนเฮเกน” ของเดนมาร์ก รั้งอันดับ 1 ของโลกที่มี Work-Life Balance ดีที่สุด และมีเงินเดือนอันน่าดึงดูด โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 44,474 ดอลลาร์หรือราว 1,550,363 บาท พร้อมคะแนน Work-Life Balance สูงถึง 8.6 จาก 10 คะแนน

ส่วนกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ และนครนิวยอร์กของสหรัฐ ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลกตามลำดับ

 

  • สรุป 5 อันดับเมืองที่มี Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก ตามผลสำรวจของ MoneyNerd มีดังนี้

1. โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก)

เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี: 1,550,363 บาท

คะแนน Work-Life Balance 8.6 จาก 10

คะแนนความสุข 7.6 จาก 10

2. อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)

เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี: 1,546,633 บาท

คะแนน Work-Life Balance 8.3 จาก 10

คะแนนความสุข 7.4 จาก 10

3. นิวยอร์ก (สหรัฐ)

เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี: 2,489,038 บาท

คะแนน Work-Life Balance 5.2 จาก 10

คะแนนความสุข 7 จาก 10

4. ออสโล (นอร์เวย์) 

เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี: 1,610,392 บาท

คะแนน Work-Life Balance 8.5 จาก 10

คะแนนความสุข 7.4 จาก 10

5.ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)

เงินเดือนเฉลี่ยต่อปี: 2,865,178 บาท

คะแนน Work-Life Balance 7.7 จาก 10

คะแนนความสุข 7.5 จาก 10

นอกจากนี้ กรุงออสโล และกรุงโคเปนเฮเกน ยังติดอันดับเมืองแห่ง Work-Life Balance ในรายงานของบริษัทอื่นด้วย เพราะเป็นเมืองที่มีความปลอดภัย มีผลตอบแทนอันน่าจูงใจต่อลูกจ้าง รวมไปถึงทำงานจากระยะไกลได้ อีกทั้งงานก็สามารถยืดหยุ่น และมีนโยบายลาคลอดที่ดี

สำหรับนครนิวยอร์ก แม้จะเป็น 1 ในสถานที่อันมีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก แต่กลับมีคะแนน Work-Life Balance สูงกว่าเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก อย่างฮ่องกง และนครดูไบ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบนครนิวยอร์กกับนครซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ แม้ทั้งสองจะมีค่าครองชีพ และคะแนนความสุขที่สูงคล้ายคลึงกัน แต่นิวยอร์กกลับอยู่ในอันดับสูงกว่าซูริค เพราะมีการเปิดรับตำแหน่งงานที่มากกว่า ในหลากหลายอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของ MoneyNerd ชี้ว่า กรุงปักกิ่งของจีน กรุงลิสบอนของโปรตุเกส และกรุงบูดาเปสต์ของฮังการี ต่างติดอันดับ Work-Life Balance ที่แย่ที่สุด เนื่องจากมีเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีต่ำกว่าเมืองอื่น ๆ อีกทั้งตำแหน่งงานเปิดรับสมัครก็น้อยกว่าด้วย

 

อ้างอิง: CNBC