ลงดาบ! สั่งพักงาน "พยาบาล" กินเบียร์ใน รพ. ที่อยุธยา

ลงดาบ! สั่งพักงาน "พยาบาล" กินเบียร์ใน รพ. ที่อยุธยา

สั่งพักงานแล้ว สสจ.อยุธยา ยอมรับคลิปสาวสวมชุด "พยาบาล" กินเบียร์ในโรงพยาบาล เป็นเรื่องจริง ด้านตัวแทนสภาการพยาบาลลงพื้นที่ด้วย

จากกรณีคลิปวีดีโอของสาวคนหนึ่ง แต่งกายคล้ายชุดพยาบาล บนหัวใส่หมวกพยาบาล และแขวนป้ายชื่อที่คอ ส่วนในมือถือขวดเบียร์ที่ใช้หลอดดูดจนหมดขวด ในห้องลักษณะคล้ายที่ทำงาน 

โดยหลังจากที่เจ้าตัวโพสต์คลิปนี้ ก็ถูกชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จนตอนนี้ผู้โพสต์ปิดบัญชีติ๊กต่อกไปแล้ว แต่ชาวเน็ตยังบันทึกวิดีโอนี้ไว้ได้ทัน ส่วนอีกคลิปหนึ่ง เป็นคลิปของสาวแต่งกายคล้ายชุดพยาบาลอีกคน กำลังเปิดฝาขวดเหล้าเทใส่แก้ว และชนแก้วกับอีกหลายคนในวง และมีการเต้น โยกตามจังหวะเพลง

เบื้องต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปทั้ง 2 คลิปนี้ ถูกระบุว่า อยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา

ลงดาบ! สั่งพักงาน \"พยาบาล\" กินเบียร์ใน รพ. ที่อยุธยา

วันที่ 3 มกราคม 2565 นายแพทย์ ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สสจ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากคลิปดังกล่าว เป็นการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ในโรงพยาบาลจริง

ลงดาบ! สั่งพักงาน \"พยาบาล\" กินเบียร์ใน รพ. ที่อยุธยา

โดยในวันนี้ได้มีการประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวร่วมกับ ตัวแทนของสภาการพยาบาล และผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันโรคที่ 5 โดยได้พิจารณาความผิดตามพระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งตามมาตรฐานการให้บริการถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

 เบื้องต้นทางผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว มีคำสั่งให้ผู้อยู่ในคลิป พักงานไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และจะได้สอบสวนร่วมกับทางโรงพยาบาลเอกชน เพื่อพิจารณาการกระทำความผิดและส่งต่อข้อมูลให้กับสภาการพยาบาลพิจารณาการทำหน้าที่พยาบาลต่อไป

ลงดาบ! สั่งพักงาน \"พยาบาล\" กินเบียร์ใน รพ. ที่อยุธยา

ด้าน พว.อ่อนน้อม ธูปะวิโรจน์ ตัวแทนสภาการพยาบาล เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าประพฤติไม่เหมาะสม ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับวิชาชีพพยาบาลอย่างมาก ซึ่งทางสภาการพยาบาลจะพิจารณาการกระทำดังกล่าวและจะแถลงผลให้ทราบในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเบื้องต้องให้หยุดการทำงานไปก่อนรอจนกว่าจะสอบสวนมูลเหตุเสร็จสิ้น

สำหรับพยาบาลสาวคนดังกล่าว ที่ปรากฏในคลิปหลังมีภาพคลิปหลุดแพร่สะพัดออกไปเกิดความเครียดโดยพยาบาลสาวคนดังกล่าวเพิ่งจะเรียนจบมาได้เพียงหนึ่งปีแล้วเข้าปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเอกชน เป็นครั้งแรก