หัวเวียง อยุธยา ใช้งบ กปท.จัดระบบส่งยา-เวชภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วม

หัวเวียง อยุธยา ใช้งบ กปท.จัดระบบส่งยา-เวชภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วม

เลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่ไปยัง ต.หัวเวียง จ.พระนครศรีอยุธยา เยี่ยมชมโครงการจัดระบบบริการสุขภาพ ส่งยา-เวชภัณฑ์ ผ่านงบ กปท. โดย เทศบาลตำบลหัวเวียง พร้อมทั้งการสนับสนุนจากไปรษณีย์ไทยในการส่งน้ำยาล้างไต เพื่อให้ผู้ป่วยที่ประสบภัยน้ำท่วมได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง 

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. นพ.ณรงค์ ถวิลวิสาร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอยุธยา นพ.ชลอ ศานติวรางคณา ผอ.สปสช.เขต 4 สระบุรี  นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท. ดบ.) และ นายบรรจบ พัวรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

ลงพื้นที่ไปยัง ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมชม ‘โครงการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมกรณีโรคระบาดและภัยพิบัติพื้นที่’ ที่ดำเนินการโดยเทศบาลตำบลหัวเวียง ผ่านงบกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) เพื่อจัดระบบบริการสุขภาพ รวมถึงส่งยาและเวชภัณฑ์ ให้กับผู้ป่วยในพื้นที่อุทกภัย

หัวเวียง อยุธยา ใช้งบ กปท.จัดระบบส่งยา-เวชภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วม
นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมการจัดส่งน้ำยาล้างไตให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังใน ต.หัวเวียง จากความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย โดยมี นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีตำบลหัวเวียง นายเกียรติศักดิ์ ชั้วทอง สาธารณสุขอำเภอเสนา และทีมโรงพยาบาลเสนา พร้อมคณะ รพ.สต.หัวเวียง ให้การต้อนรับ

 

  • เทศบาลตำบลหัวเวียง  อยุธยา บริการรับส่งยา เวชภัณฑ์แก่น้ำท่วม

นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีตำบลหัวเวียง กล่าวว่า เทศบาลตำบลหัวเวียงมีพื้นที่อยู่ในความดูแลจำนวน 22.24 ตร.กม. ประกอบด้วย 2 ตำบล คือ ต.หัวเวียง และ ต.บ้านกระทุ่ม มีประชากรทั้งหมด 5,889 คน มีผู้ป่วยติดเตียงจำนวน 24 ราย และผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 2 ราย นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ทุกปี เนื่องจากพื้นที่มีความลุ่มต่ำ

เมื่อมีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพียง 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ใน ต.หัวเวียง น้ำจะเริ่มท่วมบ้านเรือนแล้ว ซึ่งขณะนี้มีการระบายอยู่ที่ 1,359 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำตอนนี้จึงเทียบเท่าได้กับเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี พ.ศ. 2554 

หัวเวียง อยุธยา ใช้งบ กปท.จัดระบบส่งยา-เวชภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วม

นายกเทศมนตรีตำบลหัวเวียง กล่าวต่อไปว่า ทางเทศบาลจึงได้มีการเตรียมแผนรับมือในทุกปี และหนึ่งในนั้นคือด้านสาธารณสุข ซึ่งได้ใช้ กปท. เพื่อเสริมในการจัดบริการ โดยในปีนี้ได้รับการจัดสรรจากงบ กปท. จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1. ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลตำบลหัวเวียง 2. รพ.สต.หัวเวียง และ 3. รพ.สต.บ้านกระทุ่ม รวมถึง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั้ง 23 หมู่บ้าน ในการเข้าไปดูแล และให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนที่ประสบภัย 

 

  • กปท.และสปสช.จัดงบร่วมกันดูแลสุขภาพประชาชนน้ำท่วม

“นอกจากการจัดบริการ ส่งเวชภัณฑ์ น้ำยาล้างไต และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยแล้ว เวลาเราลงพื้นที่ยังมีการ เข้าไปพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงจัดส่งสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เพื่อลดความเครียดให้กับพี่น้องประชาชน” นายธเนศ กล่าว

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โดยหลักของ กปท. แล้วเป็นงบประมาณส่วนหนึ่งของ สปสช. ที่สมทบร่วมกับงบประมาณของท้องถิ่นในการแก้ปัญหาหรือส่งเสริมดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

รวมถึงในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างอุทกภัย เพราะบางพื้นที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณสำหรับเดินทาง หรือนำผู้ป่วยมารักษา ตลอดจนยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ดังนั้นในพื้นที่ ต.หัวเวียง นี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างให้กับท้องถิ่นอื่นๆ ในการใช้งบ กปท. เพื่อดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน 
หัวเวียง อยุธยา ใช้งบ กปท.จัดระบบส่งยา-เวชภัณฑ์ดูแลผู้ป่วยพื้นที่น้ำท่วม

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในภาวะการณ์วิกฤตน้ำท่วม ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตที่บ้าน และผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ต้องเรียนว่าประชาชนในบางพื้นที่น้ำยาล้างไตที่ได้รับไปก่อนน้ำท่วมอาจได้รับความเสียหายจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากไม่ได้ล้างไตเพียง 2-3 วัน จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ทาง สปสช. จึงได้ร่วมกับไปรษณีย์ไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในจัดส่งน้ำยาล้างไตให้กับผู้ป่วยที่บ้าน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง

“รวมถึงช่วงภาวะน้ำท่วมหากพี่น้องประชาชนจะต้องไปรับบริการรักษาพยาบาล และพบว่าโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการใกล้บ้านน้ำท่วม ขอให้ไม่ต้องกังวล ท่านสามารถไปรับบริการที่ไหนก็ได้ โดยค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ทาง สปสช. จะเป็นผู้ดูแลให้ จึงอยากขอประชาสัมพันธ์หน่วยบริการต่างๆ ด้วยว่า ภาวะน้ำท่วมถือเป็นภาวะฉุกเฉิน สามารถเบิกเงินเพิ่มเติมจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เลย” เลขาธิการ สปสช. ระบุ 

ด้าน นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท. ดบ.) กล่าวว่า การจัดส่งน้ำยาล้างไตในช่วงน้ำท่วม ทางไปรษณีย์ไทยได้มีการประสานกับ สปสช. องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และโรงพยาบาลที่ทำการดูแลผู้ป่วย เพื่อทำการประเมินตั้งแต่ต้นว่าหากพื้นที่ไหนมีความสุ่มเสี่ยงจะเร่งการจัดส่งน้ำยาล้างไตไปให้ผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด

ส่วนในกรณีที่พื้นที่อยู่ในภาวะน้ำท่วมแล้วเช่นที่ ต.หัวเวียง ที่มาดูในวันนี้ จะมีการใช้ฟิล์มยืดห่อกล่องน้ำยาล้างไตเพื่อป้องกันความเสียหายจากการโดนน้ำซึมเข้า จากนั้นจะจัดหาเรือเพื่อส่งไปให้ผู้ป่วยถึงที่อยู่อาศัยของประชาชน 

นายพีระ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการจัดส่งน้ำยาล้างไตให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เป็นอีกหนึ่งในบริการด้าน healthcare solution ของ ไปรษณีย์ไทย ในการดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังในสิทธิบัตรทองทั่วประเทศ ซึ่งได้ร่วมกับ สปสช. และ อภ. มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รับบริการแล้วกว่า 3 หมื่นรายต่อเดือน และทางไปรษณีย์ไทยได้ดำเนินการจัดส่งน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์แล้วประมาณ 3 ล้านถุงต่อเดือน หรือกว่า 36 ล้านถุงต่อปี