ถอดสูตรเศรษฐีวัย 28 ทางลัดสู่การเป็น ‘ผู้นำ’ รุ่นใหม่ 10,000 ชั่วโมงกับ AI โค้ด

เศรษฐี AI วัย 28 ปี ยอมรับ ‘AI จะเขียนโค้ดเก่งเท่าผมใน 5 ปี’ ชี้วัยรุ่นต้องรีบคว้า AI โค้ด สร้าง 10,000 ชั่วโมงแห่งความได้เปรียบเพื่อเป็น ‘ผู้ชนะ’
สำหรับวัยรุ่นที่กำลังวาดฝันถึงอาชีพในสายงานเทคโนโลยีที่มีรายได้งาม “อเล็กซานเดอร์ หวัง” (Alexandr Wang) มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Scale AI ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้ออกมาเน้นย้ำถึงโอกาสทองที่กำลังมาถึง นั่นคือการฝึกฝนทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเครื่องมือสร้างโค้ดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"คุณเพียงแค่ต้องคิดหาวิธีใช้เครื่องมืออย่าง AI ให้ได้ประโยชน์สูงสุด”
10,000 ชั่วโมงแห่งความได้เปรียบ
หวังเชื่อในพลังของการเขียนโค้ดด้วย AI มากเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาได้ทั้งหมด โดยการเขียนโค้ด AI หรือที่หวังเรียกว่า Vibe Coding คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้าง “ซอฟต์แวร์ต้นฉบับ” ขึ้นมาได้ง่ายๆ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งหรือคำสั่งสั้นๆ เครื่องมืออย่าง Replit และ Cursor ได้ทำให้การเขียนโค้ดหรือพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ เป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดหรือวิศวกรรมคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ เลย
หวัง ซึ่งร่วมก่อตั้ง Scale AI ในปี 2016 และพาบริษัทเติบโตจนมีมูลค่าล่าสุดสูงถึง 29,000 ล้านดอลลาร์มองว่า ยุคนี้คือ "ช่วงเวลาแห่งความไม่ต่อเนื่องอันน่าเหลือเชื่อ"
"จริงๆ แล้ว... หากคุณใช้เวลาเล่นกับเครื่องมือต่างๆ นานถึง 10,000 ชั่วโมง และคิดค้นวิธีใช้ให้ดีกว่าคนอื่นๆ นั่นก็ถือเป็นข้อได้เปรียบมหาศาล" เพราะการใช้เวลากับเครื่องมือเหล่านี้อย่างหนักหน่วงจะสร้างความแตกต่างให้กับผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน
ถอดบทเรียน ‘บิล เกตส์’ เพื่อเป็น ‘ผู้นำ’ ในยุค AI
หวังได้เปรียบเทียบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันกับช่วงต้นของการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นช่วงที่บิล เกตส์” ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoftได้เปรียบจากการเป็นผู้บุกเบิกการใช้คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์
หวังเล่าย้อนถึง บิล เกตส์ เคยใช้เวลาในช่วงวัยรุ่นแอบออกจากบ้านตอนกลางคืน เพื่อไปใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเรียนรู้การเขียนโค้ดซอฟต์แวร์ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทในเมืองซีแอตเทิลที่อนุญาตให้เขาใช้คอมพิวเตอร์ได้ฟรี
หวังเชื่อว่าวัยรุ่นในยุคนี้ควรนำวิธีการเรียนรู้แบบมุ่งมั่นของเกตส์มาใช้ โดยการใช้เวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการเรียนรู้การใช้เครื่องมือเขียนโค้ด AI
“ช่วงเวลานั้นกำลังเกิดขึ้นแล้ว และถ้าคุณอายุประมาณ 13 ปี คุณควรใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเขียนโค้ด นี่แหละคือวิถีชีวิตของคุณ”
ข้อความนี้จึงเป็นเหมือนการกระตุ้นให้วัยรุ่นตระหนักว่า โอกาสที่จะเป็น “ผู้นำ” ในโลกเทคโนโลยีกำลังเปิดกว้าง และกุญแจสำคัญคือการใช้เวลาให้มากที่สุดในการทำความคุ้นเคยกับ "การเขียนโค้ดด้วยแสง" ก่อนที่คนอื่นจะตามทัน
ยุคที่ ‘โค้ดง่ายขึ้น’ แปลว่าเราต้อง ‘โค้ดมากขึ้น’
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะมหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI และมีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามรายงานของ Forbes และเพิ่งถูก Meta ดึงตัวไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย AI แต่หวัง ก็ยังมีความเชื่อที่น่าตกใจเกี่ยวกับการพัฒนาของ AI
"โค้ดทั้งหมดที่ผมเขียนมาตลอดชีวิต...จะสามารถสร้างขึ้นโดยโมเดล AI ได้ภายในห้าปีข้างหน้า" ความเชื่อมั่นในความก้าวหน้าของ AI ในระดับนี้กำลังสร้างคำถามสำคัญว่า การเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ยังเป็นทางเลือกอาชีพที่มั่นคงหรือไม่ ในเมื่อบริษัทต่าง ๆ เริ่มใช้โปรแกรม AI เข้ามาแทนที่นักพัฒนาที่เป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้จะมีความกังวล แต่หวังและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยังคงยืนยันในคุณค่าของการเรียนรู้ทักษะการเขียนโปรแกรมของวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือ AI ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเสริมทักษะเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แอนดรูว์ อึ้ง (Andrew Ng) ผู้ร่วมก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัย Google Brain ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุในโพสต์บน LinkedIn ว่า “เมื่อการเขียนโค้ดง่ายขึ้น คนก็ควรเขียนโค้ดมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง!”
“หนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดในอนาคตคือความสามารถในการบอกคอมพิวเตอร์ได้อย่างแม่นยำว่าคุณต้องการอะไร เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำสิ่งนั้นให้คุณได้” อึ้ง กล่าว
ดังนั้น แม้ AI จะเขียนโค้ดเก่งขึ้น แต่ทักษะที่สำคัญกว่าคือ ความสามารถในการชี้นำและสั่งการ AI ให้สร้างผลลัพธ์ที่ซับซ้อนตามที่เราต้องการ ซึ่งเป็นทักษะที่วัยรุ่นควรทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือ AI ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตนเองให้สูงสุด
‘เขียนโค้ด’ กุญแจสำคัญในการ ‘ควบคุม AI’
อึ้งเรียกช่วงเวลานี้ว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้การเขียนโค้ด” จาก 2 เหตุผลสำคัยคือ
ใช้ AI ได้เหนือกว่าใคร คือ พนักงานที่มีทักษะการเขียนโค้ดสูงจะสามารถใช้เครื่องมือเขียนโค้ด AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าคนทั่วไป ทำให้เป็นที่ต้องการของนายจ้างที่ต้องการพนักงานที่มีความเข้าใจด้าน AI
สื่อสารกับ AI ได้แม่นยำกว่า เพราะแม้ว่าทุกคนจะสามารถใช้เครื่องมือ AI สร้างโค้ดและสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ได้ แต่ผู้ประกอบการที่ “เข้าใจภาษาของซอฟต์แวร์ผ่านความรู้การเขียนโค้ด” จะสามารถสื่อสารสิ่งที่พวกเขาต้องการให้ AI สร้างขึ้นได้อย่าง “แม่นยำกว่า” ใคร ๆ ก็ตาม
ดังนั้น แม้ AI จะเก่งขึ้นจนอาจเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ในอนาคตอันใกล้ แต่ความสามารถในการ เข้าใจหลักการเขียนโค้ด และ สั่งการ AI อย่างมีประสิทธิภาพต่างหากที่จะกลายเป็นทักษะที่มีค่าที่สุดในโลกยุคใหม่
อ้างอิง CNBC







